‘ช่อ’ปัด‘ทอน’ได้วัคซีนVIP

1“ช่อ พรรณิการ์” แจงปมร้อนแทน “ธนาธร” ปัดได้  “วัคซีน VIP” ลั่นได้ฉีดพร้อมคนทั่วไป ซัดรัฐปล่อยข้อมูลส่วนตัวในแอป “หมอพร้อม” ผ่านขบวนการ “ไอโอ” และ “สื่อ” บางกลุ่ม เพื่อหวังดิสเครดิตทางการเมือง ส่วน "ทอน" ไม่พูดเรื่องตัวเอง

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ณ อาคารอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกและกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีดรามา “วัคซีน VIP” และประเด็นการโจมตีแกนนำคณะก้าวหน้า ว่าได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอย่างไม่ถูกต้อง พร้อมทั้งตำหนิการปล่อยข้อมูลส่วนบุคคลจากแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพื่อหวังผลทางการเมือง

โดย น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.64  รัฐบาลกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันดีเดย์ฉีดวัคซีนแห่งชาติ มีการเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์หลายช่องทางล่วงหน้า โดยเริ่มต้นฉีดวัคซีนให้ชาวไทยทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปในวันที่ 7 มิ.ย. โดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะฉะนั้นข้อกล่าวหาที่บอกว่าตนและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แย่งวัคซีนคนแก่ จึงไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง

น.ส.พรรณิการ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายธนาธรได้เดินทางเข้ารับวัคซีนเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 และตนได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 3 ก.ค.64  หากดูจากสถิติที่รวบรวมโดยกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ณ วันที่ 15  ก.ค.64 ระบุว่า ในจำนวนประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน 50% เป็นประชาชนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยง ตามด้วยผู้สูงอายุ 20% และคนกลุ่ม 7  โรคเสี่ยง 7% ส่วนสถิติรายจังหวัด ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 45% ขณะที่สมุทรปราการฉีดไป 24% เพราะฉะนั้นคนที่ฉีดวัคซีนในเดือน ก.ค.จึงเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนกลุ่มใหญ่ที่รับวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล จะเรียกว่าเป็นวีไอพีหรือแซงคิวใครไม่ได้

ส่วนประเด็นที่ถูกนำไปทำให้เข้าใจผิดมากที่สุดว่า นายธนาธรวิจารณ์วัคซีนแอสตร้าฯ แล้วทำไมถึงไปฉีดแอสตร้าฯ โฆษกคณะก้าวหน้าแจงว่า นายธนาธรเป็นคนแรกที่บอกว่าวัคซีนคือทางออกเดียวของวิกฤตโควิด ประชาชนต้องได้วัคซีนเร็วที่สุดและคุณภาพดีที่สุด ไม่เคยมีสักคำเดียวที่บอกว่าวัคซีนไม่ดี หรือไม่ให้ประชาชนไปฉีดวัคซีน การที่นายธนาธรออกมาทักท้วงการบริหารวัคซีนของรัฐบาล เพราะเชื่อว่าการแทงม้าตัวเดียวเสี่ยงกับแอสตร้าเซนเนก้ายี่ห้อเดียว ทำให้ประชาชนเสี่ยงเกินไป ได้วัคซีนช้าเกินไป และในวันนี้เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่นายธนาธรพูดเป็นจริง กว่าคนไทยจะได้ฉีดวัคซีน mRNA ก็ปลายปี  2564 ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล ฟื้นตัวตามประเทศอื่นไม่ทัน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าการบริโภคใช้จ่ายในประเทศและการท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ภาวะปกติ

น.ส.พรรณิการ์กล่าวแสดงความกังวลถึงการปล่อยข้อมูลในแอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของทั้งตนและนายธนาธร  รวมถึงเพื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกล เพื่อหวังผลทางการเมือง รวมถึงก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดเผยข้อมูลจาก ตม.ถึงการเดินทางเข้าออกประเทศของนายธนาธรและนายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าการเปิดข้อมูลเหล่านี้ทำอย่างเป็นระบบผ่านขบวนการไอโอและสื่อมวลชนบางกลุ่ม ข้อมูลจะออกมาไม่ได้เลยหากรัฐไม่ใช่ผู้ปล่อย หมายความว่าข้อมูลส่วนตัวของคนไทยในมือรัฐไม่ปลอดภัยเลย วันใดรัฐมองว่าคนไหนเป็นศัตรู ก็พร้อมเอาข้อมูลเหล่านี้มาเปิดเผยเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น

 “เรื่องนี้นอกจากจะผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ยังอยากให้ประชาชนช่วยกันถามกลับไปยังรัฐบาลว่า ในช่วงเวลาที่ประเทศเผชิญปัญหารุมเร้ารอบด้านเช่นนี้ ควรหรือที่รัฐบาลจะหมกมุ่นใช้ทรัพยากรรัฐไปกับการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษในการเสพข่าวจากสื่อกลุ่มนี้ ที่บิดเบือนใส่ร้ายคนของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลซ้ำๆ ซากๆ มาโดยตลอด” น.ส.พรรณิการ์กล่าว

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และหัวหน้าคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันแต่ไม่ได้ชี้แจงเรื่องการฉีดวัคซีน กลับเป็นเรื่อง “10 สถานการณ์น่าจับตาเมื่อโลกปรับ-การเมืองเปลี่ยน"

นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย  จังหวัดนครปฐม โพสต์เฟซบุ๊ก “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha  Isara)” เรื่อง “อย่าคบคนพาล พาลพาไปหาผิด” ระบุว่า "พอตอบปัญหากรณีมีผู้ถามเข้ามาว่า นายธนาธรแอบไปฉีดวัคซีนตอน 1 ทุ่ม  ซึ่งเป็นโควตาของคนแก่ พวกสามกีบก็ทนรับฟังความจริงไม่ได้ ถึงขนาดยกเอาประเด็นการหาเสียงของพลังประชารัฐ เรื่องการยกเลิกรถเมล์ให้ได้ภายในปี 65 มาตีรวน ทำให้นึกถึงลักษณะของคนพาล

คนพาลจะไม่ชอบฟังเรื่องผิดพลาด เลวร้าย ของตนเองและพวก   คนพาลมักมีปกติที่จะบิดพลิ้ว ชอบหยิบยกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับความผิดพลาดของตัวเองและพวกมากลบเกลื่อนหักล้าง เหมือนชี้ให้ดูหมา คนพาลก็หยิบเอาเรื่องควายมาหักล้าง คนพาลไม่ชอบรับฟังหรือรับรู้เรื่องจริง เพราะมันจะเสียบแทงแสลงหู คนพาลชอบฟัง ชอบรับรู้แต่เรื่องที่ตนเองอยากฟัง เพราะระรื่นหู ทั้งที่มันมีแต่เรื่องเท็จ คนพาลมักมีปกติชอบใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล คนพาลมักจะไม่รู้เหตุ ไม่รู้ผล รู้แต่ว่านี่คือสิ่งที่ตนชมชอบ                   

เหล่านี้คือลักษณะของคนพาลที่อยู่ในข้อมโนทุจริต เรียกว่าเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม และขออธิบายให้เข้าใจว่า ที่ชาวบ้านเขาสงสัยต่อพฤติกรรมการเบียดบังเอาวัคซีนของคนแก่มาฉีดในเวลา 1 ทุ่มของนายธนาธรนั้น มันคือพฤติกรรมการฉ้อฉล ตลบตะแลง เอาเปรียบคนแก่อย่างชัดเจน คนเขาก็เลยสงสัยกันว่า นี่หรือหัวหน้าแนวคิดที่จะทำการเมืองยุคใหม่ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทอนก็ก่นด่าการเมืองยุคเก่าว่า บ้าอำนาจ เผด็จการ อภิสิทธิ์ชน เอาเปรียบประชาชน แต่พอทอนมีคนเชียร์เข้าหน่อย ก็ดันมาเอาเปรียบคนแก่ ด้วยพฤติกรรมที่ฉ้อฉลเสียแล้ว เช่นนี้ชาวบ้านเขาก็มีสิทธิ์สงสัยล่ะซิ".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง