ซัด‘ทักษิณ’จุ้นขอถอนฟ้องนายกฯ

ถล่มเละ! บทบาท “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ไปขอ “เสรีพิศุทธ์” ถอนฟ้องคดี “เศรษฐา” ตั้ง “บิ๊กต่อ” เป็น ผบ.ตร.  “ก้าวไกล-คปท.” สงสัยสถานะนักโทษหรือผู้มีอำนาจตัวจริง เชื่อคดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ด้าน “นายกฯ” มั่นใจทำตามขั้นตอนถูกต้อง ไม่โน้มเอียง ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฟ้องนายกฯ กรณีละเว้นมาตรา 157 ในการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยมิชอบ ว่าหากจะให้ย้อนความไปในการแต่งตั้ง เราได้มีการรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวางจากทุกๆ คน และอดีต ผบ.ตร.ด้วย ที่เป็นคนอธิบายให้ฟังในเรื่องของคุณสมบัติต้องเป็นอย่างไร

 "ผมขอยืนยันว่าผมทำตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ทุกประการ มีทั้งเรื่องของอาวุโสและความรู้ความสามารถเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รวมถึงด้านการสอบสวน และเท่าที่จำได้ ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นเรื่องของผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการสอบสวน ซึ่งได้ดูจากชีวิตการทำงานของท่านมา การได้รับการเลื่อนตำแหน่งต่างๆ นานาเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ สำหรับหน้าที่ของผมคือการเสนอ  และในวันนั้นก็เป็นเอกฉันท์ ซึ่งในส่วนของผมเองเป็นผู้เสนอ แต่ก็ไม่ได้ออกโหวตอะไร แต่เมื่อท่านได้ยื่น ป.ป.ช.ไปแล้ว ก็ไปชี้แจงครับ" นายกฯ กล่าว

นายกฯ ย้ำว่า ส่วนตัวก็มีความมั่นใจว่าได้ทำตามขั้นตอนและถูกต้องทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้มีการโน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง เพราะไม่ได้รู้จักกับรอง ผบ.ตร.ทั้ง 4 ท่านเป็นการส่วนตัวมาก่อน ยืนยันว่ายึดตามหลักอยู่แล้ว ส่วนจะมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ เป็นคนดูหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ต้องขอไปดูก่อน เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เพิ่งยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา และตอนนี้ก็ต้องโฟกัสไปถึงเรื่องการบริหารจัดการประเทศ ปัญหาของพี่น้องประชาชนก่อน

 “ผมมั่นใจในความจริงใจ ในความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โน้มเอียง และการปฏิบัติหน้าที่ตามตัวบทกฎหมายและ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565” นายกรัฐมนตรีระบุ

ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและบอกว่า อย่าถามเลย และไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่าดูเหมือนปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่จบ และลามไปถึงนายกฯ  แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์โบกมือปฏิเสธพร้อมระบุว่า ไม่ทราบ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อถามย้ำว่า แต่เหตุผลที่นายกฯ เสนอชื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร. เพราะเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ยิ้มและโค้งตัว ก่อนจะขึ้นรถยนต์ออกจากทำเนียบฯ ไป

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ชั้น 14 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ให้สัมภาษณ์สื่อ PPTV ว่า ได้ไปเยี่ยม น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 เมื่อตอน น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ยังนอนอยู่ที่ชั้น 14 โดย น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ขอร้องให้ถอนฟ้องเศรษฐา ทวีสิน ตอนเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็โทรมาขออีก เรื่องใหญ่ซิครับ

เป็นการยืนยันว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปพบ น.ช.ทักษิณที่ชั้น 14 และ น.ช.ทักษิณขอร้องให้ถอนฟ้องเศรษฐา แสดงว่า น.ช.ทักษิณมีสติสมบูรณ์ ไม่ได้ป่วยหนัก ติดเตียง คนที่ขอร้องคนอื่นได้แสดงว่าไม่ได้วิกฤตแบบที่กล่าวอ้าง และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะกลายเป็นพยานสำคัญต่อคดีที่อยู่ใน ป.ป.ช. ก็หวังว่าด้วยเกียรติของอดีต ผบ.ตร. ท่านจะไม่โกหก อีกทั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่อยู่ในรายชื่อ 10 คนที่สามารถเข้าเยี่ยม น.ช.ทักษิณได้  แล้วได้เข้าเยี่ยมได้อย่างไร อธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำอธิบายไหมครับ อาทิตย์หน้าไปตามคดีนี้ที่ ป.ป.ช. และยื่นข้อเท็จจริงเพิ่มจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ เสรีพิศุทธ์ งานนี้อยู่ดีๆ ความจริงก็ปรากฏแก่สังคม

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกมาระบุถึงนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ถอนฟ้องนายกฯ และจะไปวิ่งกับ ป.ป.ช.เองว่า ตนเข้าใจมาโดยตลอดว่านายทักษิณกลับมาประเทศไทยเพื่อเลี้ยงหลาน แต่ดูเหมือนว่าบทบาทของนายทักษิณในทางการเมืองจะเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ และการที่นายทักษิณมีบทบาท โดยเฉพาะในรัฐบาลนี้ รวมถึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่คอยปัดเป่าสิ่งต่างๆ  ให้พ้นไปจากนายเศรษฐาแบบนี้ จะทำให้เกิดข้อครหาที่สำคัญว่า "ตกลงแล้วคุณทักษิณได้มีผลต่อรัฐบาลนี้ใช่ไหม" และก็จะเกิดการตั้งคำถามว่า  สภาวะการเป็นผู้นำของนายเศรษฐามีอยู่อย่างไร ตกลงแล้วประเทศนี้ ใครกันแน่ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง

นายรังสิมันต์มองว่า เป็นสภาพการเมืองที่ไม่ดีเลย เป็นการทำลายความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ ว่าเมื่อนายเศรษฐาประกาศหรือพูดในเรื่องใด เราควรจะเชื่อนายเศรษฐาจริงหรือไม่ หรือควรจะไปถามซ้ำกับนายทักษิณ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การเมืองที่เราอยากเห็น การเมืองแบบนี้ควรเปลี่ยนผ่านได้แล้ว  ถ้าเกิดว่านายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมีปัญหาข้อกฎหมายในเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กัน ไม่ว่าจะในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาล ตนเชื่อว่านักการเมืองหลายคนรวมถึงตัวเอง ถ้าโดนข้อกล่าวหาก็ต้องพิสูจน์ในข้อกฎหมาย ไม่ใช่วิธีการล็อบบี้ กรณีนี้เป็นคดีอาญา เข้าใจว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์คงไม่สามารถถอนได้ เพราะถ้าเรื่องนี้ผิดจริงก็ต้องว่าไปตามผิด

"ผมไม่อยากให้คุณทักษิณยังมีบทบาทแบบนี้เลย เพราะภาพรวมทางการเมืองจะทำลายในเรื่องความเป็นผู้นำของคุณเศรษฐาอย่างมาก"

ส่วนกรณีที่อาจจะต้องให้นายทักษิณไปวิ่งเต้น ป.ป.ช.เองนั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งเสียหาย การไปวิ่งเต้นกับ ป.ป.ช. ในทางกฎหมายโดยทั่วไปไม่ควรจะมีใครทำได้อยู่แล้ว เพราะจะเท่ากับว่าองค์กรอิสระก็จะไม่อิสระในการทำหน้าที่ และการใช้กฎหมายต่างๆ ก็จะหลายมาตรฐาน หลักกฎหมายและความถูกต้องก็จะไม่มีอยู่จริง ย้ำว่าเราไม่สนับสนุนการใช้นิติสงคราม เชื่อว่าพรรคการเมืองจะขึ้นมามีอำนาจได้ ก็ด้วยการสนับสนุนของประชาชน พรรคการเมืองจะดับไป ก็ด้วยการที่ประชาชนไม่สนับสนุน เรื่องนิติสงคราม ไม่ควรจะถูกใช้เลย ถ้าเป็นเรื่องทางกฎหมาย ก็ควรจะว่ากันด้วยพยานหลักฐาน ต้องไปพิสูจน์กันว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติหรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เป็นประธานพิธีมหามงคล 5 ศาสนาถวายพระราชกุศล

นายกฯ เป็นประธานพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

26 ก.ค.'เศรษฐา'ทัวร์นครพนมมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ

นายกฯ บินนครพนม 26 ก.ค.นี้ มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุและมอบบ้านตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

รัฐบาลหนุนการจัดงาน BIDC 2024 หวังดันเป็นฮับดิจิทัล

นายกฯ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย สนับสนุนการจัดงาน Bangkok International Digital Content Festival 2024 เพิ่มโอกาสผู้ประกอบการ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันไทยสู่เวทีโลก