บ้านป่าล็อบบี้20สว. ชวนมากินข้าวด้วย/‘มงคล’เต็งปธ.วุฒิฯแทน‘บิ๊กเกรียง’

สะพัด! 2 บิ๊ก สว.สีน้ำเงิน "บิ๊กเกรียง-มงคล" สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ คั่วเก้าอี้ประธานวุฒิสภา อินไซด์มีห้องทำงานที่มหาดไทยทั้งคู่ "สว.สีส้ม" หนาว จ่อถูกทาบ หึ่ง! "บ้านป่าฯ" ก็ล็อบบี้หนัก เชิญว่าที่ 20 สว.กินข้าว ขณะที่ผู้สมัครสอบตก สว.บุก กกต. หอบหลักฐานชี้พิรุธคะแนนเลือก  สว. จ่อร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโมฆะ  

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือบิ๊กเกรียง อดีต ผช.ผบ.ทบ. ว่าที่สมาชิกวุฒิสภาจากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ที่ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มดังกล่าว  และมีชื่อเป็นเต็งหนึ่งว่าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวหลังถูกถามถึงข่าวเป็นตัวเต็งประธานวุฒิสภาคนใหม่ว่า แล้วแต่สมาชิก แต่ว่าด้วยความตั้งใจอยากจะทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยากเข้าไปดูแลตรงนั้นมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า แต่หากมีเพื่อนสมาชิกเสนอชื่อ ก็พร้อมใช่หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรกล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ก็ไว้ดูกัน ขออนุญาต แต่ตั้งใจไว้ว่าอยากทำงานด้านความมั่นคงมากกว่า"

ทั้งนี้ พล.อ.เกรียงไกร ที่ถูกมองว่าจะเป็นแกนนำ สว.สีน้ำเงิน เป็นเตรียมทหารรุ่น 22 ซึ่งรุ่นดังกล่าวเคยสร้างประวัติศาสตร์เข้าไปเป็นผู้บัญชาการใน 4 เหล่า 3 ทัพ คือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ., พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร., พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีข่าวบางกระแสอ้างว่า แคนดิเดตตัวเต็งประธานวุฒิสภาคนใหม่อาจจะเปลี่ยนเป็นนายมงคล สุระสัจจะ ว่าที่ สว.จากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินฯ นายมงคลเป็นอดีตอธิบดีกรมการปกครองและอดีต ผวจ.บุรีรัมย์ และเคยถูกเสนอชื่อเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว แต่นายมงคลถอนตัว ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ แต่ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้งว่ารายชื่อตัวเต็งว่าที่ประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาอีก 2 คนจะเป็นใคร และมาจาก สว.ขั้วไหน

มีรายงานว่า ช่วงเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา พล.อ.เกรียงไกรและนายมงคลต่างก็มีห้องทำงานอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย เพราะ พล.อ.เกรียงไกร หลังเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. ก็ไปเป็นประธานที่ปรึกษานายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.คอนเนกชัน ขณะที่นายมงคลเป็นประธานคณะทำงานนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย  ซึ่งนายมงคลมีตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยนายทรงศักดิ์เป็น รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ พล.อ.เกรียงไกรกับนายมงคลมีห้องทำงานอยู่ใกล้ๆ กันตรงศาลากระทรวงมหาดไทย ทั้งสองคนจึงมีความคุ้นเคยกันดี

ขณะเดียวกัน มีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มว่าที่ สว.ชุดใหม่ ช่วงที่ผ่านมาได้มีว่าที่ สว.บางส่วนคอยทำหน้าที่ประสานติดต่อว่าที่ สว.อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็น สว.สีน้ำเงินหรือ สว.สีส้ม ให้มาร่วมพบปะพูดคุยกันตั้งแต่หลังวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยให้มาพบเจอกันในช่วงสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ มีรายงานว่าในการติดต่อประสานงานดังกล่าว ว่าที่ สว.บางส่วนได้รับการติดต่อว่ามีผู้ใหญ่ใน "บ้านป่าฯ" ต้องการพบปะว่าที่ สว.ชุดใหม่บางคน มีการนัดหมายว่าจะพากันเข้าไปกินข้าวที่บ้านป่าฯ ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายประสานงานอ้างว่าได้ประสานนัดว่าที่ สว.ชุดใหม่ได้แล้วประมาณ 20 คน   

ยื่นหลักฐานทุจริตเลือก สว.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ​  นายจักรพงษ์ คงปัญญา ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ​ (สว.)​ เข้ายื่นหลักฐานการทุจริตเลือก สว.เพิ่มเติมต่อ กกต. โดยเป็นความผิดปกติของผลคะแนนการเลือก สว.ในแต่ละกลุ่ม ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การลงคะแนนของแต่ละกลุ่มมีลักษณะเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้ กกต.หยุดการประกาศรับรองผลก่อน  และตรวจสอบการทุจริตให้สิ้นกระแสความก่อน  และเสนอว่าระหว่างตรวจสอบควรให้สื่อมวลชนมีส่วนร่วม เพื่อความโปร่งใส และหากพบว่าผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาขาดคุณสมบัติก็ไม่ต้องประกาศรับรอง 

ทั้งนี้ การทุจริตที่เกิดขึ้นพบว่ามีการจัดคนให้มาสมัครในกลุ่มต่างๆ คุณสมบัติก็ตรวจสอบไม่ละเอียด ใบสมัครไม่มีลายเซ็นของผู้สมัคร มีการบริหารจัดการคะแนนอย่างมีประสิทธิภาพมากของผู้จัดการเลือก เช่น เอาคนมา 10 คน แล้วมีการคละคะแนน ลงคะแนนซ้ำกันเป็นชุดๆ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นการแนะนำตัวในใบ สว.3 อะไรเลย เกิดเหตุการณ์ช็อก รวมถึงตัวเอง ซึ่งมีการแนะนำตัวเป็นระดับต้นๆ ของประเทศ แต่กลับไม่มีคะแนนสักคะแนนเดียว แต่คะแนนถูกยิงไปยังผู้ที่มีคะแนนสูง ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันทุกกลุ่ม เพราะเป็นวัตถุพยานที่สำคัญที่จะบอกกระบวนการของกลุ่มที่จะเรียกว่าฮั้วหรือกลุ่มจัดตั้งก็ได้ ถ้า กกต.รู้แล้วยังจะประกาศอีกอย่างนั้นหรือ ดังนั้น กกต.ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ โดยมีสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบด้วย 

นายจักรพงษ์กล่าวว่า จากนี้ตนจะไปยื่นต่อศาลปกครองและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการดำเนินการจัดเลือก สว.ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ

ด้านนายสนธิญา สวัสดี ผู้สมัคร สว.อีกราย  ยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้เร่งประกาศรับรองผล สว.ทั้ง 200 คน รวมถึงบัญชีสำรอง 100 คน เนื่องจากเห็นว่าการเลือกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. กกต.ได้ประกาศผลการเลือก สว.ไปแล้ว กกต.จึงต้องดำเนินการตามมาตรา 62 พระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ การได้มาซึ่ง สว.2561 ส่วนที่มีการจ้างลงสมัคร การฮั้วลงคะแนนเลือก กฎหมายกำหนดว่า หากประกาศรับรองแล้วพบว่าผู้ได้รับเลือกกระทำทุจริต ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อให้เพิกถอนสิทธิสมัครและสิทธิเลือกตั้งได้

นายสนธิญากล่าวต่อว่า อีกเหตุผลที่ต้องการให้มีการประกาศรับรอง สว.ชุดนี้ เนื่องจากตนได้ยินแกนนำที่ขวางขบวนเสด็จฯ ออกมาระบุว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือมาตรา 112 โดย สว.ชุดใหม่เป็นไปได้ยาก จึงเชื่อมั่นว่า สว.ชุดนี้จะไม่มีการเสนอแก้มาตรา 112 และเชื่อมั่นว่า สว.ชุดนี้เข้าไปแล้วจะไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมคนทำผิดมาตรา 112 และผู้ที่ได้รับเลือก สว.หลายคนในชุดนี้ ซึ่งมาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว ที่ต้องการได้คนทุกกลุ่มอาชีพเข้าไปทำหน้าที่

อยากเห็น สว.ป.7

 “ผมอยากเห็นว่าผู้ที่ได้เป็น สว.ชุดนี้จบ ป.7  เป็นแม่ค้าขายของ ผมอยากดูว่าบุคคลเหล่านี้เมื่อเป็นตัวแทนประชาชนเข้าไปทำงานระดับประเทศจะทำงานได้ระดับไหน เพราะประเทศที่พังมาจนถึงวันนี้ก็มาจากคนที่จบจากต่างประเทศ เป็นดอกเตอร์ทั้งนั้น แต่ทำให้ประเทศวิบัติเสียหายมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง วันนี้ สว.ที่จบ ป.7 หรือเป็นแม่ค้าขายของ ซึ่งก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เข้าไปบริหารประเทศ ไปกลั่นกรองกฎหมาย เขาจะอ่านออกหรือไม่ออก แต่เป็นสิทธิของเขาที่จะทำได้ และถ้าระบบนี้ การเลือกแบบนี้เห็นว่าใช้ไม่ได้ ครั้งหน้าก็ไปแก้กฎหมาย ผมจึงอยากเรียกร้อง กกต.ให้พิจารณาประกาศรับรองผลตามที่กฎหมายกำหนด” นายสนธิญากล่าว

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อครูกับเด็กนักเรียนร่วมกันโกงสอบ สังคมจะยอมรับแล้วบอกว่า ดีกว่าให้นักเรียนกลุ่มอื่นสอบได้จริงๆ หรือ #เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

1) ครูที่มีหน้าที่ออกข้อสอบ ออกข้อสอบเอื้อประโยชน์ขยายช่องทางให้นักเรียนที่ขาดต่างๆ  มากมาย เช่น คุณสมบัติ รับรองประสบการณ์กันเองตามใจชอบ ไม่มีการตรวจ เพื่อปล่อยให้เข้าไปโกงข้อสอบได้

2) ครูคนเดียวกันส่งทีมไปติวข้อสอบให้กับทีมครูใหญ่เพื่อไปซักซ้อมวิธีโกงให้นักเรียนเฉพาะกลุ่ม

3) เมื่อนักเรียนโกงข้อสอบเสร็จ เด็กคนอื่นเห็นและร้องว่า มีการโกงจากนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่เห็นชัดเจนว่า คะแนนที่สอบได้เกาะกลุ่มที่ 1-6 ทุกคน คำตอบแบบปรนัยตอบตรงกันทุกข้อ แบบเห็นชัดเจน หรือที่เรียกว่า ฮั้วและ blockvote

เปรียบได้ว่า ไม่มีความรู้ ไม่อ่านหนังสือ ไม่เคยทำการบ้าน ไม่เคยเข้าเรียน ไม่มีคุณสมบัติใดๆ เข้าสอบได้เว้นแต่ที่ครูแอบไปเปิดช่องว่าง ช่องโหว่ กลับทำคะแนนสอบสูงสุดชนะนักเรียนทุกคนได้อย่างไร

แต่ครูกลับบอกว่า ไหนล่ะหลักฐาน โดยไม่ยอมตรวจสอบใดๆ ไม่ยอมเปิดเผยผลคะแนนที่ต้องสงสัยว่าลอกข้อสอบชุดเดียวกัน และไม่ยอมใดๆ ที่จะสอบใหม่ ทั้งๆ ที่นักเรียนนับพันคนประท้วงและร้องเรียนพร้อมหลักฐานความสงสัยมากมาย

แต่ครูคนนี้กลับจะเร่งประกาศรับรองผลการสอบ ว่าถูกต้องสุจริตและเที่ยงธรรมแล้ว

สรุปว่า ครูคนนี้มีจรรยาบรรณที่จะทำหน้าที่ครูหรือไม่ หรือเพราะครูคนนี้มีพื้นเพที่มาจากการเป็นเด็กในบ้าน เด็กในคาถา จึงร่วมกันกับขบวนโกงสอบอย่างหน้าด้านๆ สงสัยจัง ใครรู้ใครมีบุญ ช่วย แสวงหาคำตอบให้หน่อยครับ

  ส่วนนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก "การกาบัตรลงคะแนนเลือก สว.แบบล็อกเบอร์เป็นชุด คือการเลือกที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม อย่างชัดเจน" กกต.ได้รับทราบปัญหานี้แล้ว จากคำร้องประกอบหลักฐาน และคำฟ้องที่มีคนยื่นต่อศาลมากมาย หาก กกต.ละเลย ไม่สนใจ ลงมือตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ยุติ ก่อนการประกาศรายชื่อ สว.ทั้งหมด ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่า กกต.ไม่สามารถจัดการเลือก สว.ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมได้ และจงใจทำทุจริตการเลือก สว.ครั้งนี้เสียเอง.

สะพัด! 2 บิ๊ก สว.สีน้ำเงิน "บิ๊กเกรียง-มงคล" สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ คั่วเก้าอี้ประธานวุฒิสภา อินไซด์มีห้องทำงานที่มหาดไทยทั้งคู่ "สว.สีส้ม" หนาว จ่อถูกทาบ หึ่ง! "บ้านป่าฯ" ก็ล็อบบี้หนัก เชิญว่าที่ 20 สว.กินข้าว ขณะที่ผู้สมัครสอบตก สว.บุก กกต. หอบหลักฐานชี้พิรุธคะแนนเลือก  สว. จ่อร้องผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโมฆะ  

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือบิ๊กเกรียง อดีต ผช.ผบ.ทบ. ว่าที่สมาชิกวุฒิสภาจากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ที่ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มดังกล่าว  และมีชื่อเป็นเต็งหนึ่งว่าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวหลังถูกถามถึงข่าวเป็นตัวเต็งประธานวุฒิสภาคนใหม่ว่า แล้วแต่สมาชิก แต่ว่าด้วยความตั้งใจอยากจะทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยากเข้าไปดูแลตรงนั้นมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า แต่หากมีเพื่อนสมาชิกเสนอชื่อ ก็พร้อมใช่หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรกล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า "ก็ไว้ดูกัน ขออนุญาต แต่ตั้งใจไว้ว่าอยากทำงานด้านความมั่นคงมากกว่า"

ทั้งนี้ พล.อ.เกรียงไกร ที่ถูกมองว่าจะเป็นแกนนำ สว.สีน้ำเงิน เป็นเตรียมทหารรุ่น 22 ซึ่งรุ่นดังกล่าวเคยสร้างประวัติศาสตร์เข้าไปเป็นผู้บัญชาการใน 4 เหล่า 3 ทัพ คือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ., พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร., พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีข่าวบางกระแสอ้างว่า แคนดิเดตตัวเต็งประธานวุฒิสภาคนใหม่อาจจะเปลี่ยนเป็นนายมงคล สุระสัจจะ ว่าที่ สว.จากกลุ่มบริหารราชการแผ่นดินฯ นายมงคลเป็นอดีตอธิบดีกรมการปกครองและอดีต ผวจ.บุรีรัมย์ และเคยถูกเสนอชื่อเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว แต่นายมงคลถอนตัว ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ แต่ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้งว่ารายชื่อตัวเต็งว่าที่ประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาอีก 2 คนจะเป็นใคร และมาจาก สว.ขั้วไหน

มีรายงานว่า ช่วงเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา พล.อ.เกรียงไกรและนายมงคลต่างก็มีห้องทำงานอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย เพราะ พล.อ.เกรียงไกร หลังเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. ก็ไปเป็นประธานที่ปรึกษานายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.คอนเนกชัน ขณะที่นายมงคลเป็นประธานคณะทำงานนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย  ซึ่งนายมงคลมีตำแหน่งดังกล่าวมาตั้งแต่สมัยนายทรงศักดิ์เป็น รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ พล.อ.เกรียงไกรกับนายมงคลมีห้องทำงานอยู่ใกล้ๆ กันตรงศาลากระทรวงมหาดไทย ทั้งสองคนจึงมีความคุ้นเคยกันดี

ขณะเดียวกัน มีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มว่าที่ สว.ชุดใหม่ ช่วงที่ผ่านมาได้มีว่าที่ สว.บางส่วนคอยทำหน้าที่ประสานติดต่อว่าที่ สว.อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็น สว.สีน้ำเงินหรือ สว.สีส้ม ให้มาร่วมพบปะพูดคุยกันตั้งแต่หลังวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยให้มาพบเจอกันในช่วงสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ มีรายงานว่าในการติดต่อประสานงานดังกล่าว ว่าที่ สว.บางส่วนได้รับการติดต่อว่ามีผู้ใหญ่ใน "บ้านป่าฯ" ต้องการพบปะว่าที่ สว.ชุดใหม่บางคน มีการนัดหมายว่าจะพากันเข้าไปกินข้าวที่บ้านป่าฯ ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายประสานงานอ้างว่าได้ประสานนัดว่าที่ สว.ชุดใหม่ได้แล้วประมาณ 20 คน   

ยื่นหลักฐานทุจริตเลือก สว.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ​  นายจักรพงษ์ คงปัญญา ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ​ (สว.)​ เข้ายื่นหลักฐานการทุจริตเลือก สว.เพิ่มเติมต่อ กกต. โดยเป็นความผิดปกติของผลคะแนนการเลือก สว.ในแต่ละกลุ่ม ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การลงคะแนนของแต่ละกลุ่มมีลักษณะเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้ กกต.หยุดการประกาศรับรองผลก่อน  และตรวจสอบการทุจริตให้สิ้นกระแสความก่อน  และเสนอว่าระหว่างตรวจสอบควรให้สื่อมวลชนมีส่วนร่วม เพื่อความโปร่งใส และหากพบว่าผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาขาดคุณสมบัติก็ไม่ต้องประกาศรับรอง 

ทั้งนี้ การทุจริตที่เกิดขึ้นพบว่ามีการจัดคนให้มาสมัครในกลุ่มต่างๆ คุณสมบัติก็ตรวจสอบไม่ละเอียด ใบสมัครไม่มีลายเซ็นของผู้สมัคร มีการบริหารจัดการคะแนนอย่างมีประสิทธิภาพมากของผู้จัดการเลือก เช่น เอาคนมา 10 คน แล้วมีการคละคะแนน ลงคะแนนซ้ำกันเป็นชุดๆ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นการแนะนำตัวในใบ สว.3 อะไรเลย เกิดเหตุการณ์ช็อก รวมถึงตัวเอง ซึ่งมีการแนะนำตัวเป็นระดับต้นๆ ของประเทศ แต่กลับไม่มีคะแนนสักคะแนนเดียว แต่คะแนนถูกยิงไปยังผู้ที่มีคะแนนสูง ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกันทุกกลุ่ม เพราะเป็นวัตถุพยานที่สำคัญที่จะบอกกระบวนการของกลุ่มที่จะเรียกว่าฮั้วหรือกลุ่มจัดตั้งก็ได้ ถ้า กกต.รู้แล้วยังจะประกาศอีกอย่างนั้นหรือ ดังนั้น กกต.ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ โดยมีสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบด้วย 

นายจักรพงษ์กล่าวว่า จากนี้ตนจะไปยื่นต่อศาลปกครองและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการดำเนินการจัดเลือก สว.ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ

ด้านนายสนธิญา สวัสดี ผู้สมัคร สว.อีกราย  ยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้เร่งประกาศรับรองผล สว.ทั้ง 200 คน รวมถึงบัญชีสำรอง 100 คน เนื่องจากเห็นว่าการเลือกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. กกต.ได้ประกาศผลการเลือก สว.ไปแล้ว กกต.จึงต้องดำเนินการตามมาตรา 62 พระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ การได้มาซึ่ง สว.2561 ส่วนที่มีการจ้างลงสมัคร การฮั้วลงคะแนนเลือก กฎหมายกำหนดว่า หากประกาศรับรองแล้วพบว่าผู้ได้รับเลือกกระทำทุจริต ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อให้เพิกถอนสิทธิสมัครและสิทธิเลือกตั้งได้

นายสนธิญากล่าวต่อว่า อีกเหตุผลที่ต้องการให้มีการประกาศรับรอง สว.ชุดนี้ เนื่องจากตนได้ยินแกนนำที่ขวางขบวนเสด็จฯ ออกมาระบุว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือมาตรา 112 โดย สว.ชุดใหม่เป็นไปได้ยาก จึงเชื่อมั่นว่า สว.ชุดนี้จะไม่มีการเสนอแก้มาตรา 112 และเชื่อมั่นว่า สว.ชุดนี้เข้าไปแล้วจะไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมคนทำผิดมาตรา 112 และผู้ที่ได้รับเลือก สว.หลายคนในชุดนี้ ซึ่งมาจากหลากหลายกลุ่มอาชีพ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว ที่ต้องการได้คนทุกกลุ่มอาชีพเข้าไปทำหน้าที่

อยากเห็น สว.ป.7

 “ผมอยากเห็นว่าผู้ที่ได้เป็น สว.ชุดนี้จบ ป.7  เป็นแม่ค้าขายของ ผมอยากดูว่าบุคคลเหล่านี้เมื่อเป็นตัวแทนประชาชนเข้าไปทำงานระดับประเทศจะทำงานได้ระดับไหน เพราะประเทศที่พังมาจนถึงวันนี้ก็มาจากคนที่จบจากต่างประเทศ เป็นดอกเตอร์ทั้งนั้น แต่ทำให้ประเทศวิบัติเสียหายมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง วันนี้ สว.ที่จบ ป.7 หรือเป็นแม่ค้าขายของ ซึ่งก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เข้าไปบริหารประเทศ ไปกลั่นกรองกฎหมาย เขาจะอ่านออกหรือไม่ออก แต่เป็นสิทธิของเขาที่จะทำได้ และถ้าระบบนี้ การเลือกแบบนี้เห็นว่าใช้ไม่ได้ ครั้งหน้าก็ไปแก้กฎหมาย ผมจึงอยากเรียกร้อง กกต.ให้พิจารณาประกาศรับรองผลตามที่กฎหมายกำหนด” นายสนธิญากล่าว

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อครูกับเด็กนักเรียนร่วมกันโกงสอบ สังคมจะยอมรับแล้วบอกว่า ดีกว่าให้นักเรียนกลุ่มอื่นสอบได้จริงๆ หรือ #เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

1) ครูที่มีหน้าที่ออกข้อสอบ ออกข้อสอบเอื้อประโยชน์ขยายช่องทางให้นักเรียนที่ขาดต่างๆ  มากมาย เช่น คุณสมบัติ รับรองประสบการณ์กันเองตามใจชอบ ไม่มีการตรวจ เพื่อปล่อยให้เข้าไปโกงข้อสอบได้

2) ครูคนเดียวกันส่งทีมไปติวข้อสอบให้กับทีมครูใหญ่เพื่อไปซักซ้อมวิธีโกงให้นักเรียนเฉพาะกลุ่ม

3) เมื่อนักเรียนโกงข้อสอบเสร็จ เด็กคนอื่นเห็นและร้องว่า มีการโกงจากนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่เห็นชัดเจนว่า คะแนนที่สอบได้เกาะกลุ่มที่ 1-6 ทุกคน คำตอบแบบปรนัยตอบตรงกันทุกข้อ แบบเห็นชัดเจน หรือที่เรียกว่า ฮั้วและ blockvote

เปรียบได้ว่า ไม่มีความรู้ ไม่อ่านหนังสือ ไม่เคยทำการบ้าน ไม่เคยเข้าเรียน ไม่มีคุณสมบัติใดๆ เข้าสอบได้เว้นแต่ที่ครูแอบไปเปิดช่องว่าง ช่องโหว่ กลับทำคะแนนสอบสูงสุดชนะนักเรียนทุกคนได้อย่างไร

แต่ครูกลับบอกว่า ไหนล่ะหลักฐาน โดยไม่ยอมตรวจสอบใดๆ ไม่ยอมเปิดเผยผลคะแนนที่ต้องสงสัยว่าลอกข้อสอบชุดเดียวกัน และไม่ยอมใดๆ ที่จะสอบใหม่ ทั้งๆ ที่นักเรียนนับพันคนประท้วงและร้องเรียนพร้อมหลักฐานความสงสัยมากมาย

แต่ครูคนนี้กลับจะเร่งประกาศรับรองผลการสอบ ว่าถูกต้องสุจริตและเที่ยงธรรมแล้ว

สรุปว่า ครูคนนี้มีจรรยาบรรณที่จะทำหน้าที่ครูหรือไม่ หรือเพราะครูคนนี้มีพื้นเพที่มาจากการเป็นเด็กในบ้าน เด็กในคาถา จึงร่วมกันกับขบวนโกงสอบอย่างหน้าด้านๆ สงสัยจัง ใครรู้ใครมีบุญ ช่วย แสวงหาคำตอบให้หน่อยครับ

  ส่วนนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊ก "การกาบัตรลงคะแนนเลือก สว.แบบล็อกเบอร์เป็นชุด คือการเลือกที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม อย่างชัดเจน" กกต.ได้รับทราบปัญหานี้แล้ว จากคำร้องประกอบหลักฐาน และคำฟ้องที่มีคนยื่นต่อศาลมากมาย หาก กกต.ละเลย ไม่สนใจ ลงมือตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ยุติ ก่อนการประกาศรายชื่อ สว.ทั้งหมด ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่า กกต.ไม่สามารถจัดการเลือก สว.ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมได้ และจงใจทำทุจริตการเลือก สว.ครั้งนี้เสียเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง