สว.ใหม่รายงานตัว7ก.ค.

"กกต." ยื้อประกาศ สว. ยกเหตุต้องพิจารณาคำร้องให้เสร็จ ด้าน "สมชาย" ควันออกหูโดนไล่ที่แล้ว บี้ตรวจสอบ 4 คำร้องโกงเบอร์ใหญ่ กาหัวลุยฟ้องแน่ 157 "ปิยบุตร" หนุนประกาศก่อนสอยทีหลัง แต่บอกถึงเวลาแล้วตัดหางเหลือสภาเดียว ดักคอพวกขาล้มโมฆะทั้งระบบฝันเกินไป

เมื่อวันพุธ นายอิทธิพร บุญประคอง   ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุถึงกระแสข่าวการเลื่อนประกาศรับรองสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คนว่า อย่าใช้คำว่าเลื่อน แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ จึงจะมีการประกาศรับรอง  สว.

ส่วนในวันนี้จะพิจารณาคำร้องแล้วเสร็จหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ไม่เสร็จ แต่หากยังไม่เสร็จก็มีหลักที่จะสามารถประกาศรับรองได้ หากเห็นว่าสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ยังไม่สามารถรับรอง สว.ได้ ณ เวลานี้คือเรื่องใด ประธาน กกต.กล่าวว่า  ตามแผนการที่จะประกาศรับรองวันที่ 3 ก.ค. จะประกาศก็ต่อเมื่อ กกต.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง แนวเรื่องต่างๆ แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงไม่ใช่เป็นการเลื่อน แต่ยังไม่เสร็จ จึงเป็นการทำให้เสร็จแล้วจะประกาศ

สำหรับการรับรองที่จะสามารถดำเนินการได้หลังวันเลือกระดับประเทศ 5 วันนั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า เรื่องนี้เมื่อเลือกแล้วให้รอภายใน 5 วัน ดังนั้นจึงไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ ซึ่ง กกต.ก็ตรวจสอบในสิ่งที่ได้รับร้องเรียนเบื้องต้น จากนั้นก็จะประกาศได้ ขออย่าใช้คำว่าเลื่อน

เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะแล้วเสร็จและสามารถประกาศรับรองได้หรือไม่ ประธาน กกต.ไม่ตอบคำถาม

ด้านนายสมชาย แสวงการ  สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน  สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ทาง กกต.ประสานมายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้จัดเตรียมสถานที่รับรายงานตัวบุคคลที่ได้รับการประกาศให้เป็น สว. 200 คน และห้องทำงานให้ สว.ใหม่ ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ดังนั้น กรณีที่นายอิทธิพรระบุว่า วันนี้ (3 ก.ค.) ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือก เพราะต้องพิจารณาคำร้องให้เสร็จสิ้นก่อนนั้น เป็นเพียงพิธีกรรม และไม่มีการตรวจสอบกรณีที่ถูกร้องจริง

 “ขณะนี้วุฒิสภาทราบแล้ว และ สว.ทราบว่าถูกไล่ ซึ่งวันนี้ผมเข้ามาเก็บของให้แล้ว ส่วนที่ กกต.บอกว่าจะตรวจ ยืนยันไม่มีการตรวจ กลับมาถามอีกว่าไหนล่ะหลักฐาน เขาไม่เปิดตาตรวจจะเจอได้อย่างไร หรือลงไปตรวจในพื้นที่เองหรือไม่ หรือเชื่อแต่ฝ่ายเลขาธิการ กกต. ซึ่งผมมองว่าหาก กกต.ไม่ตรวจ ฟังแต่เจ้าหน้าที่รายงานอย่างเดียวก็ไม่เห็นอะไร” นายสมชายกล่าว

นายสมชายกล่าวด้วยว่า สำหรับหลักฐานการทุจริตเลือก สว. ทาง กมธ.ได้ส่งรายละเอียดไปยัง กกต.แล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และตนขอเรียกร้องให้ตรวจสอบคือ 1.คลิปวิดีโอซึ่งเป็นหลักฐานการทุจริตการเลือก สว. ที่วัดแสงจันทร์ อ.ปางกู่ จ.ศรีสะเกษ ที่นักการเมืองและบุคคลที่ใกล้ชิดแจกเงินให้กับบุคคลหลังวันโหวตระดับอำเภอ ซึ่งพบว่าคนใกล้ชิดของนักการเมืองนั้นลงสมัครเป็น สว.ด้วย ซึ่งสามารถผ่านเข้ารอบไปสู่ระดับประเทศ แต่สอบตกระดับประเทศ เนื่องจากถูกแฉการกระทำพร้อมหลักฐานการทุจริตเลือก สว.ได้ก่อน

นายสมชายระบุว่า 2.กรณีที่มี 2 สส.ของพรรคการเมืองใหญ่ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ จัดเลี้ยงในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เลือก สว. ซึ่งพบว่าในงานดังกล่าวมีน้องสะใภ้ของ สส.ดังกล่าว และบุคคลที่ลงสมัคร สว.เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย ซึ่งภายหลังพบว่าคนเหล่านั้นผ่านเข้ารอบระดับประเทศด้วย จึงถือได้ว่าเป็นการทุจริตการเลือก สว. กรณีที่พบการจัดเลี้ยง 3.กรณีที่เกิดขึ้นใน จ.บุรีรัมย์ จากผลการลงคะแนน ที่ไม่ลงคะแนนให้กับตัวเองหรือศูนย์คะแนน และ 4.กรณีการเลือก สว.ในจังหวัดตรัง ที่พบการเทคะแนนให้กับผู้สมัคร สว.ที่มาจาก อ.ห้วยยอด

 “ผมขอเรียกร้องให้ กกต.สอบทั้ง 4 เรื่อง โดยอย่าบอกว่าไม่มีหลักฐาน เพราะ กมธ.ส่งให้แล้ว หาก กกต.ต้องการตรวจสอบหรือต้องการพยาน หลังจากที่ กมธ.พ้นวาระไปแล้ว สามารถเรียกได้จากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ดังนั้นหาก กกต.ไม่ดำเนินการ และยืนยันว่าการเลือก สว.นั้นถูกต้องชอบธรรม เชื่อว่าจะมีผู้เสียสิทธิไม่ถูกเลือกเพราะถูกโกงนั้น จะฟ้อง กกต.แน่นอน  ฐานที่ละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้การเลือกไม่สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้น กกต.ยังมีเวลาที่จะตรวจสอบ ไม่ใช่อ้างว่าไม่เห็น” นายสมชาย กล่าว

นายสมชายกล่าวย้ำด้วยว่า ในกระบวนการเลือก สว. ตนมองว่า กกต.ออกระเบียบการเลือกที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดการตีความ ขยายความไปจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ สว.มาจากผู้เชี่ยวชาญใน 20 กลุ่มอาชีพ ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเอื้อประโยชน์ให้กับบางพรรคการเมือง  ทั้งนี้ ในการเลือก สว.ปี 62 นั้น กกต.เคยออกระเบียบเกี่ยวกับการรับสมัคร สว.ตามกลุ่มอาชีพที่กำหนดให้องค์กร หน่วยงาน วิชาชีพนั้นรับรองก่อนส่งสมัคร แต่ปัจจุบันเปิดช่องให้ประชาชนรับรองกันเอง จึงเป็นเหตุที่ทำให้เห็นว่ามีผู้สมัครที่ไม่ตรงกับสาขาอาชีพลงสมัครเป็นจำนวนมาก  โดยเชื่อว่าในบรรดาผู้สมัครกว่า 4 หมื่นคน มีผู้ที่สมัครไม่ตรงคุณสมบัติที่กฎหมายกำหนดถึง 2.5หมื่นคน ดังนั้นกรณีที่ กกต.บิดเบือนกระบวนการสมัครดังกล่าว ทำให้การเลือก สว.ไม่ชอบและเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น

ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล   เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวว่า เมื่อเลือกมาแล้ว และแม้จะมีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติจำนวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล ดังนั้น การที่จะนำไปสู่โมฆะทั้งระบบคงเป็นไปไม่ได้ ใครที่คิดฝันว่าอยากให้ สว. 250 คนรักษาการไปเรื่อยๆ คิดว่าเป็นการฝันเกินไป

นายปิยบุตรเชื่อว่า อีกไม่นาน กกต.คงจะรับรอง และให้ สว.ชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งส่วนตัวก็มองว่าควรรับรองก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง เพราะแม้ประกาศผลไปแล้ว ก็ยังมีช่องทางตรวจสอบได้ภายหลัง โดยเฉพาะกรณีคุณสมบัติต้องห้าม ก็ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และถ้ามีการทุจริตก็ไปร้องที่ศาลฎีกา ดังนั้น ไม่ควรปล่อยให้การเมืองสะดุด ควรตรวจสอบเป็นรายบุคคล

 “ผมมีจุดยืนมาตลอดว่า ประเทศไทยถึงเวลาแล้วที่ควรจะมีสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว เพราะการตรวจสอบถ่วงดุลสภาผู้แทนราษฎรสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นกลไกของการแบ่งสรรปันส่วน และการคัดเลือกองค์กรอิสระที่ยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยให้แต่ละฝ่ายเสนอมาด้วยจำนวนที่เท่าเทียมกัน ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แล้วมาหาข้อยุติร่วมกันด้วยคะแนนเสียงข้างมาก เพราะการทำเช่นนี้จะไม่มีใครยึดองค์กรอิสระได้” นายปิยบุตรระบุ 

นายปิยบุตรกล่าวด้วยว่า ในขณะเดียวกัน ก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญที่สามารถเชิญคนนอกเข้ามาร่วมพิจารณาเรื่องสำคัญๆ ได้ จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะยกเลิก สว. และมีสภาเดี่ยว เพราะเราเคยทดลองมี สว.มา 90 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2475 ทั้งการแต่งตั้ง การเลือกตั้งและการคัดสรร แต่ก็ไม่ตอบโจทย์ จึงควรคิดทบทวนว่าเราควรกลับมาใช้สภาเดี่ยวเหมือนกับหลายประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา กกต.เลื่อนรับรอง สว. เตรียมปล่อยผีสอยทีหลัง

นับได้ว่าขณะนี้ ถนนการเมืองได้คลอดว่าที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน และสำรอง 100 คน ที่เตรียมพร้อมจะเข้าทำงานในสภาเพื่อประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

'สมชาย' แฉ กกต.ประสานรัฐสภามาแล้ว 7 ก.ค.ให้ สว.ใหม่รายงานตัว

'สมชาย' ซัด 'กกต.' ทำพิธีกรรมชะลอประกาศรับรองผลเลือก สว. บอก กกต. ประสานให้ 7 ก.ค. เลขาวุฒิสภารับรายงานตัว-เตรียมห้องทำงาน เปรียบ สว.เก่าถูกไล่