"เศรษฐา" หลบม็อบเหมืองโปรแตช เปลี่ยนเส้นทางพร้อมเลิกชมนิทรรศการ ส่ง "พิมพ์ภัทรา" รับหน้าเสื่อ ผู้ชุมนุมซัดรัฐบาลถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง อัดเงินดิจิทัลกระจอก ครม.สัญจรเคาะผ่าน 24 โครงการ วงเงิน 496.15 ล้านบาทให้ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประชุมครั้งหน้าที่อยุธยา "เสี่ยนิด" ทัวร์ต่อโรงพยาบาล-โรงละครแห่งชาติ โปรยยาหอมผลักดันเมืองย่าโมทั้งสนามบินนานาชาติ-ศูนย์ประชุม
เมื่อวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยก่อนประชุมมีกลุ่มประชาชนในหลายอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปรแตชมาชุมนุมและเรียกร้องหน้าประตูทางเข้าของบรรดารัฐมนตรี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับเส้นทางให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่นเข้าประตูอื่น
ช่วงหนึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมปราศรัยอย่างดุเดือด เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ชี้หน้าจึงย้อนกลับว่า พวกคุณกินภาษีประชาชน ไม่ได้เดือดร้อนเหมือนพวกตนเอง ฉะนั้นอย่ามาชี้หน้า ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มชาวบ้านที่สนับสนุนนายกฯ และรัฐบาลมายืนรอให้กำลังใจด้วย จากนั้นได้จัดตำรวจควบคุมฝูงชนหนึ่งกองร้อยมาดูแลความเรียบร้อย จนทำให้เกิดวิวาทะระหว่างผู้ชุมนุมว่าจะมาหาพระแสงอะไร พวกที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็คือพ่อแม่พี่น้องของพวกคุณ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายตัว
ทั้งนี้ ในการชุมนุม นอกจากมวลชนจะถือป้ายข้อความ เช่น ให้ปิดเหมืองแร่โปแตชด่านขุนทดแล้ว ยังมีการส่งเสียงตะโกนเรียกร้องช่วงหนึ่งว่า “รัฐบาลนี้ถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง เราไม่เอาโปแตช และเงินดิจิทัล 10,000 บาทไม่เอาก็ได้ ถ้าเรามีที่ดินทำกินผืนนี้ เงินดิจิทัล 10,000 บาทกระจอก"
ต่อมาเวลา 09.35 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สวมเสื้อผ้าไหมพื้นเรียบสีทองและผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอกประยุกต์สีทอง ผ้าเอกลักษณ์ประจำ จ.นครราชสีมา ทอโดย อ.ปักธงชัย เดินทางมาถึง โดยขบวนรถของนายกฯ เปลี่ยนเส้นทางไปเข้าทางด้านหลังอาคารหอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ และเดินขึ้นประตูด้านหลังทันที
เดิมกำหนดการก่อนการประชุม ครม. นายกฯ จะเยี่ยมชมนิทรรศการด้านหน้าหอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ แต่ได้ยกเลิกภารกิจดังกล่าว เนื่องจากอยู่ใกล้กับจุดมวลชนปักหลักชุมนุม ก่อนที่เวลา 09.50 น. นายกฯ มอบหมายให้ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม และนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ไปเจรจากับกลุ่มมวลชนพร้อมรับข้อเรียกร้อง
ในเวลา 09.50 น. น.ส.พิมพ์ภัทราได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยแกนนำกล่าวต้อนรับทันทีว่า บรรยากาศเหมือนรัฐมนตรีมาเยี่ยมนักโทษ เพราะเจรจาผ่านรั้วประตู ทำให้เจ้าหน้าที่เปิดรั้วให้รัฐมนตรีไปรับมอบหนังสือจากมือผู้ชุมนุม จากนั้นผู้ชุมนุมได้นำเกลือที่ขึ้นในนาข้าว จากผลกระทบการทำเหมืองโปแตชมากองหน้ารัฐมนตรี พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้อง และยื่นหนังสือให้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวทิ้งท้ายด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาไหลว่า “ปุ๋ยกระสอบแรกของท่านมากับคราบน้ำตา เอาตัวพวกเราไปก็ได้ ปุ๋ยกระสอบแรกของท่านอยู่ตรงนี้”
จากนั้นนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับ ครม. ซึ่งต่างใส่เสื้อผ้าไหมพื้นเรียบสีทองและผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอกประยุกต์สีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์) และส่วนราชการที่บริเวณด้านหน้าหอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ได้มอบพระพุทธรูปจำลองพระชัยเมืองนครราชสีมา ให้นายกฯ เป็นที่ระลึกในโอกาสที่เดินทางมาเยือนเมืองโคราช โดยนายสุวัจน์กล่าวว่า ขอให้นายกฯ ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ขณะที่นายเศรษฐาได้กล่าวขอบคุณพร้อมระบุว่า “ช่วยกันนะพี่”
ครม.สัญจรครั้งหน้าที่อยุธยา
ทั้งนี้ ก่อนเข้าห้องประชุม ครม. ยังได้มีกลุ่มเด็กนักเรียนมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจนายกฯ โดยนายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง ซึ่งนายกฯ ได้หันไปเน้นย้ำกับเด็กๆ ให้ห่างไกลจากยาเสพติด และมีประชาชนมามอบผ้าขาวม้า 11 ศรี ความหมายชาวภูเขียวทั้ง 11 ตำบล และเป็นผ้าขาวม้าที่มีเอกลักษณ์ในการทอ จากจังหวัดชัยภูมิ ให้นายกฯ โดยนายกฯ กล่าวว่า สีสวยเข้ากับ Pride Month
ต่อจากนั้นนายกฯ เป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร
นายเศรษฐาแถลงภายหลังการประชุมว่า ครม.เห็นชอบในหลักการโครงการของกลุ่มจังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์) 16 โครงการ วงเงิน 249 ล้านบาท โดยให้กลุ่มจังหวัดและจังหวัดขอรับจัดสรรงบกลางปี 2567 และเห็นชอบในหลักการของโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน 8 โครงการ กรอบวงเงิน 247.15 ล้านบาท โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานของโครงการขอรับการจัดสรรจากงบกลางในปีนี้
นายเศรษฐายังกล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เสนอกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง โดยจะใช้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นแกนนำ และมีจังหวัด เช่น นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี นครนายก เป็นต้น ในการจัดประชุม ครม.สัญจร
ทั้งนี้ ใน 24 โครงการ วงเงิน 496.15 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี รวม 16 โครงการ วงเงินรวมกว่า 249 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมศักยภาพคลัสเตอร์ไหมอีสานกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์สู่สากล 2.โครงการ Triple Heritage Ring Road 3.โครงการการสร้างศูนย์กลางการประกอบอาหารนครชัยบุรินทร์ 4.โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัยนครชัยบุรินทร์ 5.โครงการพัฒนาพื้นที่เขาใหญ่ 7.โครงการส่งเสริมการผลิตและขยายท่อนพันธุ์มันสำปะหลังสะอาด 8.โครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่ 9.โครงการยกระดับมาตรฐานเส้นทางคมนาคมสายหลัก 10.โครงการยกระดับสินค้าเกษตรมูลค่าสูง 11.โครงการแปลงขยะเศษอาหารและเศษวัชพืชเป็นปุ๋ยอินทรีย์ 12.โครงการกิจกรรมบำรุงรักษาทางหลวงงานบูรณะทางผิวแอสฟัลต์ทางหลวง หมายเลข 348 13.โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกตามหลักอารยสถาปัตย์ในแหล่งท่องเที่ยวเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ 14.โครงการงานขยายเขตจำหน่ายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ 15.โครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต สายแยกเขาขาว-จุดชมวิวผามะนาว และ 16.โครงการก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาแบบ POG TANKS จังหวัดสุรินทร์
ขณะที่โครงการสำคัญที่เป็นความต้องการของภาคีการพัฒนา (กรอ.) มี 8 โครงการ วงเงินรวม 247.15 ล้านบาท ดังนี้ โครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวสายทางเข้าเขื่อนลำแชะ, โครงการสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าอาหาร SAN ดี, โครงการระบบระบายน้ำช่วงบ้านละกอ พร้อมอาคารประกอบ พื้นที่รับประโยชน์ 1,000 ไร่, โครงการขับเคลื่อน Soft Power โคราชเมืองศิลปะ, โครงการฟื้นฟูภูมิทัศน์วัฒนธรรมคูเมือง กำแพงเมือง, โครงการเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว และพัฒนา Land Mark จังหวัดชัยภูมิ, โครงการพัฒนาแหล่งน้ำรองรับการขยายตัวพื้นที่เขตเศรษฐกิจ, โครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน กิจกรรมก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 2076 ตอนท่าตูม-หนองฮู ตำบลหนองบัว อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร
ต่อมาเวลา 13.10 น. นายเศรษฐาพร้อมคณะเดินทางมายังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการจัดสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล คณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และ อสม. ให้การต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดง รวมทั้งถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับชมวีดิทัศน์ความเป็นมาโครงการ และเดินชมบริเวณพื้นที่การดำเนินการก่อสร้างพัฒนาอาคารพักแพทย์และพยาบาลจากมุมสูง โดยนายเศรษฐากล่าวว่า นอกเหนือจากการที่เรามีการลงทุนด้านอาคารและคุรุภัณฑ์ทางด้านการแพทย์แล้ว ได้ฝากรัฐมนตรีให้มีการดูแลเรื่องของบุคลากร เรื่องของผลตอบแทน และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ หมอ พยาบาล นักกายภาพและวิทยาศาสตร์การกีฬา ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเราต้องขยายตัวตรงนี้ควบคู่ไปกับการที่เราสร้างโรงพยาบาลให้ใหญ่ขึ้น ให้เหมาะสมกับการเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้
โปรยยาหอมเมืองย่าโม
ในเวลา 13.45 น. นายเศรษฐาเดินทางมาโรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อติดตามการขับเคลื่อน MICE CITY โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯ และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม รอให้การต้อนรับ โดยเมื่อนายกฯ เดินทางถึง มีการจัดกลองยาวชุดต้อนรับ ก่อนที่นายกฯ จะเดินทักทายนักเรียนที่มา โดยได้ร่วมถ่ายรูปเซลฟีกับเด็กนักเรียนอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง ทั้งนี้ ได้มีตัวแทนชาวบ้านมอบธงชัยชนะท้าวสุรนารี พร้อมรูปหล่อจำลองท้าวสุรนารีหรือย่าโมให้นายกฯ ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีตัวละครหนุมานและนางสุพรรณมัจฉา ตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ รอต้อนรับนายกฯ ก่อนจะเดินจูงมือนำนายกฯ เข้าไปยังโรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนายกฯ รับชมการบรรเลงดนตรีสากลจากวงออร์เคสตรา และรับชมการแสดงพื้นบ้านอีสานชุดโปงลางและการแสดงชุดซอฟต์พาวเวอร์พื้นบ้าน จากวิทยาลัยนาฏศิลป์จังหวัดนครราชสีมา
นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า เรามีรัฐมนตรีเป็นคนโคราชอยู่ 2 คน ซึ่งเรื่องของการขับเคลื่อนจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจศูนย์กลางแห่งความเจริญ เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะมีการผลักดันอยู่แล้วในเรื่องนี้ โดยเรามีการพัฒนาเรื่องโลจิสติกส์ เรื่องถนน การเสริมสร้างวัฒนธรรม และการกีฬา การท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งเรื่องศูนย์กลางทางด้านอาหารและการพัฒนาศูนย์กลางการประชุม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะระยะทางจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดนครราชสีมา มีความสะดวก และยังมีสนามบินอยู่แล้ว แม้จะไกล แต่เราเองก็ไม่หยุดแค่ตรงนี้ เราจะเจรจากับกองทัพอากาศเพื่อขอใช้สนามบิน ให้เครื่องบินพาณิชย์มาลงจอดได้ เพื่อให้การเดินทางจากทั่วทุกภูมิภาคสามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น จะมีการจัดอินเตอร์เนชั่นแนลไฟลต์ ถือว่าสายการบินนานาชาติมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมาลงที่จังหวัดนี้ และมีอีกหลายเรื่องที่เราได้ศึกษาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนถ่ายสินค้าที่สามารถลิงก์ไปถึงสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือน้ำลึกอีกหลายแห่ง
“เราได้เห็นศักยภาพวัฒนธรรมดีของเมืองโคราช ที่สามารถนำไปสู่สายตาของชาวโลกได้ การท่องเที่ยวต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี ทุกอย่างพอมารวบรวมกันแล้วสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องทำก็คือศูนย์กลางการประชุม ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ที่เจ้าหน้าที่ได้รายงานมีการกันพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลนี้จะผลักดันให้มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขอมอบหมาย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB นำไปพิจารณาและมอบหมายตรงนี้เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น”
จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และเดินทางกลับกรุงเทพฯ
นายเศรษฐายังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านประกาศว่าเตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน และตรวจสอบการใช้งบประมาณปี 2567 อย่างเข้มข้น ว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่สำหรับตนเองและรัฐบาลพร้อมให้ตรวจสอบ
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในเรื่องนี้ว่า รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อยู่ในกฎหมาย หากรัฐบาลบริหารไม่ถูกต้อง ฝ่ายค้านก็มีสิทธิยื่นญัตติเปิดอภิปรายได้
เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำอะไรให้เกิดปัญหา นางมนพรกล่าวว่า การทุจริตเกิดจากการใช้งบประมาณ แต่ขณะนี้งบประมาณปี 2567 แต่ละกระทรวงแต่ละกรมนำไปบริหารตามนโยบายและรายละเอียดของแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว หากมีประเด็นใดไม่ชอบมาพากล ฝ่ายค้านก็มีสิทธิเสนอได้ ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละคนก็ต้องสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการบริหารงบประมาณ
วันเดียวกัน ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญ และสมาชิกพรรค ได้นัดพบปะอย่างไม่เป็นทางการ พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งยังเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก แม้จะมี สส.และรัฐมนตรีของพรรคติดภารกิจการประชุม ครม.สัญจร รวมถึงบางส่วนติดภารกิจของกรรมาธิการดูงานในพื้นที่ต่างๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมที่ดินท้ารฟท.พิสูจน์เขากระโดง
กรมที่ดินยืนยัน ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ยึดตาม กก.สอบสวน มาตรา 61
ตร.เชียงรายรวบ‘สามารถ’ ‘เมีย-ลูก’หมอบุญนอนคุก
"ผบ.ตร." นั่งไม่ติดตั้ง "พล.ต.อ.ธนา" คุมสอบสวนคดี "หมอบุญ"
ม็อบเสื้อเหลืองคืนชีพ ‘สนธิ’นัดบุกทำเนียบฯ2ธค. ‘อ้วน’หวั่นซํ้ารอยปิดเมือง
"ภูมิธรรม" ไม่กังวล "สนธิ" ปลุกม็อบลงถนน เป็นสิทธิตาม รธน.
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ