ดันไทยสารพัดศูนย์กลาง จับตากวาดล้างยาเสพติด

"เศรษฐา" ร่อนอีสานตีปี๊บโคราชโมเดล มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต ใช้เทคโนโลยีร่วมกับการบริหารแบบกระจายอำนาจ ฟุ้งยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลกและศูนย์กลางดิจิทัล จับตาเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่ทั่วประเทศ นำร่องร้อยเอ็ดจังหวัดสีขาว "อนุทิน" แจกยาหอม อสม.บอกเป็นเหมือนเพื่อนเก่า ผูกพันกันมากตั้งแต่เป็นหัวเรือใหญ่ยุค สธ. ส่วนเรื่องเงินเดือน 3,000 ขอให้ใจเย็น “วราวุธ” เร่งเครื่องโครงการบ้านมั่นคงชนบท ช่วยเหลือ ปชช.ผู้ด้อยโอกาส

เมื่อวันจันทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ประตูสู่อีสาน ศูนย์กลางการท่องเที่ยว อารยธรรม และเกษตรมูลค่าสูง และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 ที่จังหวัดนครราชสีมา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์)

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. นายเศรษฐาเป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now - โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมืองนครราชสีมา  โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมคณะ นอกจากนี้ยังมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มาให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ นายกฯ สวมเสื้อแขนสั้นลำลองสีเหลืองลายโคราชโมโนแกรม (KORAT Monogram) ที่ถือเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัด โดยมีรูปแมวโคราช (Korat Cat) สัตว์ประจำจังหวัด

เมื่อมาถึงนายกฯ ได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องราคาน้ำมัน รถขนส่ง และเรื่องปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ จากนั้นได้ทักทายกลุ่มมวลชนเสื้อแดงโคราชที่มาต้อนรับ นำโดยนายทวี อภิชาติเสนีย์ ประธานมวลชนคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด

จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” โดยระบุช่วงหนึ่งว่า หลายองค์กรในโลกปัจจุบันกำลังถูกเคลื่อนย้ายในการให้การบริการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน  ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการบริหารในรูปแบบการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล และทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐสะดวกมากยิ่งขึ้น

 “ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล เราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลก และเป็นศูนย์กลางดิจิทัล รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของประชาชน และบุคลากรทางภาครัฐให้มีทักษะ และสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเสมอ โครงการนี้จะช่วยให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลในทุกวิถี ทุกมิติ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และขอให้การจัดงานครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายกฯ ระบุ

ต่อมาเวลา 13.45 น. นายเศรษฐาไปติดตามโครงการระบบผลิตน้ำประปาขนาดใหญ่อำเภอโนนสูง ต.ขามเฒ่า อ.โนนสูง โดยนายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งว่า วันนี้ความจริงแล้วตนเองถือโอกาสมา ก็ดีใจที่ได้มาพูดคุยและมาดูเรื่องความเดือดร้อน แต่อยากมานำเสนอเรื่องยาเสพติด เพราะปัจจุบันปัญหายาเสพติดมีเต็มไปหมดทุกจังหวัดที่ไปเยี่ยมเยียนมาก็ว่าได้ ทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องนี้มาก ทั้งเรื่องของการกวาดล้าง เรื่องของการจับและยึดทรัพย์ รวมถึงเรื่องการบำบัดผู้ป่วย แต่เรื่องที่สำคัญคือ เมื่อเราบำบัดแล้วก็ต้องให้แน่ใจว่าผู้ป่วยจะไม่กลับไปเสพยาอีก ซึ่งสถาบันครอบครัว ชุมชนเข้มแข็งและชุมชนแข็งแกร่งดูแลซึ่งกันและกัน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ หรือพ่อแม่ พี่น้อง สาธารณสุขในอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ก็ขอให้ใส่ใจเป็นพิเศษกับปัญหาเรื่องยาเสพติด

 “เพราะเรากำลังมีการกวาดล้างครั้งใหญ่ทั่วประเทศ โดยเรานำร่องที่จังหวัดร้อยเอ็ดภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ จังหวัดร้อยเอ็ดจะเป็นจังหวัดสีขาวและปลอดยาเสพติด และเราก็จะนำวิธีการที่เราปฏิบัติสำเร็จที่จังหวัดร้อยเอ็ดมาใช้กับพื้นที่นี้ด้วย ก็หวังว่าพี่น้องจะให้การสนับสนุนและช่วยดูแลผู้ป่วยและผู้เสพให้กลับมาเป็นประชาชนที่สามารถประกอบอาชีพและเป็นที่รักของพวกเราทุกคน”

ต่อมาเวลา 15.25 น. นายเศรษฐาเดินทางไปยังวัดธรรมจักรเสมาราม (วัดพระนอนคลองขวาง) ต.เสมา อ.สูงเนิน เพื่อติดตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และอาคารประดิษฐานพระนอนเมืองเสมา โบราณสถานเมืองเสมา

จากนั้นนายกฯ ได้ไปเยี่ยมชมการสาธิตใช้กี่ทอผ้าเงี่ยงนางดำจากนักเรียนชั้นมัธยม 2 โรงเรียนสูงเนิน ก่อนเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของชุมชน พร้อมร่วมถ่ายรูปกับชาวบ้าน โดยมีคุณตารายหนึ่งตะโกนบอกนายกฯ ว่า “นายกฯ ครับอย่าลืมเงินหมื่นนะครับ” ขณะที่นายกฯ หันไปบอกสั้นๆ ว่า "ครับ"

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว. การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการที่โรงเรียนจักราชวิทยา รวมทั้งมอบนโยบายในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ อสม.มาตั้งแถวรอต้อนรับนายอนุทินเป็นจำนวนมาก บางส่วนเตรียมผ้าขาวม้ามารอผูกเอว จากนั้นนายอนุทินได้ระบุช่วงหนึ่งว่า เปรียบ อสม.เหมือนเพื่อนเก่าแก่ในภาษาจีน “เหล่าเผิงโหย่ว” ที่ตนเองผูกพันกับพี่น้อง อสม.เป็นอย่างมาก ทำประโยชน์ให้ประชาชนมากมายในช่วงที่ตนเป็น รมว.สาธารณสุข มีเหตุการณ์โควิด-19 ก็ได้ อสม.มาช่วยดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน ท่านช่วยเยอะมาก บำบัดทุกข์บำรุงสุข ทำหน้าที่เหมือนกับกระทรวงมหาดไทยเช่นกัน

 “รัฐบาลนี้จึงเห็นความสำคัญ เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม.จาก 1,000 เป็น 2,000 บาท ขอให้รักษาคุณงามความดีเอาไว้ เมื่อสักครู่มี อสม.เดินเข้ามาขอให้ขึ้นเป็น 3,000 บาท ขอให้ใจเย็นๆ เพราะเรายังมีอีกหลายกลุ่มที่ต้องดูแล ชื่อของท่านคืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ไม่มีใครบังคับมา อาสามาเอง จึงขอให้ท่านมีความภาคภูมิใจในความมีจิตอาสา ค่าตอบแทนนี้จะตอบแทนคุณงามความดีและการเสียสละของทุกคน สิ่งที่เราจะตอบแทนคือ การให้ท่านได้นำค่าตอบแทนเหล่านี้ไปพัฒนาจิตอาสาให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งยังขอให้ อสม.ประสานกับ รพ.สต.ให้ดี ทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายอนุทินระบุ

 ที่ อ.ปากช่อง นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อม นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ได้เยี่ยมชมโครงการบ้านมั่นคงชนบท สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินปากช่อง (คทช.) จำกัด

โดยนายวราวุธกล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72  พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่ง 1 ใน 10 โครงการคือ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย  เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ด้วยการช่วยเหลือและให้โอกาสประชาชนผู้ด้อยโอกาส รวมถึงคนพิการหรือทุพพลภาพ ในการที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน อันได้แก่ ที่พักอาศัย หรือที่ดินทำกิน และการประกอบอาชีพ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

นายวราวุธกล่าวด้วยว่า โครงการบ้านมั่นคงชนบท สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินปากช่อง จำกัด เป็นโครงการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก.