ซัดปฏิวัติทำสว.ป่วน ทักษิณโทษเหตุสมชายวืด กลุ่มปิ๋วพาเหรดร้อง‘กกต.’

"ผู้สมัคร สว.ตกรอบ" แห่ร้อง กกต.สอบกระบวนการเลือกใหม่ "กลุ่มสตรี" งง! ไม่เคยแนะนำตัวแต่ได้เป็น สว.เฉย "อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร."  โชว์หลักฐานโพยฮั้วตกในห้องน้ำ "กลุ่ม 19" จี้ "แสวง" ต้องกล้าเอาผิดสายสีน้ำเงิน-บ้านใหญ่บุรีรัมย์ "ทักษิณ" โวยพวกปฏิวัติตั้งกติกาเลือก  สว.เอื้อพวกตัวเองทำระบบพัง บอกอายุ 75 ไม่มีมนตร์ขลังอะไร "สุริยะ-สุทิน" อ้าง "สมชาย" กินแห้วสะท้อนเพื่อไทยไม่แทรกแซง "อนุทิน" โอดโดนให้ร้ายอยู่เรื่อย ขออย่าโยง สว.เกี่ยวข้องภูมิใจไทย ปัด "บิ๊กเกรียง" แค่เพื่อนไม่ได้หนุนพิเศษ "กมธ.วุฒิสภา" ทำหนังสือถึง "ปธ.กกต."  สอบฮั้วเลือก สว.ให้เสร็จสิ้นก่อนประกาศผลทางการ

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า ตามที่ กกต.ได้ประกาศกำหนดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเมื่อได้ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่มแล้ว ผอ.การเลือกระดับประเทศจัดให้มีการแบ่งสายจํานวน 4 สาย ดังนี้ สาย ก ประกอบด้วยกลุ่มที่ 7, 11, 13, 16 และ 20, สาย ข ประกอบด้วยกลุ่มที่ 1, 4, 6, 17 และ 18, สาย ค  ประกอบด้วยกลุ่มที่ 5, 8, 9, 12 และ 15, สาย ง ประกอบด้วยกลุ่มที่ 2, 3, 10, 14 และ 19

โดย ผอ.การเลือกระดับประเทศได้ดำเนินการเรียงลำดับผลคะแนน และได้ประกาศผลการนับคะแนนในการลงคะแนนเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกันเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว  สามารถดูรายละเอียดผลการนับคะแนนดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th

ขณะที่ผู้สมัคร สว.ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกและผู้ที่อยู่บัญชีสำรอง ทยอยเดินทางมาที่สำนักงาน กกต.ตลอดทั้งวัน เพื่อยื่นคำร้องให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ

เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้สมัคร สว. นำโดยนายสุรชัย พรจินดาโชติ ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 19 พร้อมด้วยผู้สมัครบางส่วน ยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ระดับประเทศ

นายสุรชัยกล่าวว่า อยากให้ กกต.ตรวจสอบใน 3 ประเด็นที่มีความผิดปกติ ประเด็นแรก ผู้สมัครบางกลุ่มลงคะแนนเหมือนกัน ซีรีส์เดียวกัน โดยภายในกลุ่มตนพบว่ามีประมาณกว่า 20 คน ซึ่งคิดว่ามีแค่ 2 คนก็ประหลาดแล้ว โดยตัวเลขที่ลงอย่างเช่น 3, 22, 122, 5 ตนขอเรียกว่าเป็นตัวเลขมหัศจรรย์, ประเด็นที่ 2 พบว่าผู้สมัครบางส่วนมีการแต่งกายคล้ายกัน เช่น ใส่เสื้อสีเหลืองเป็นกลุ่ม คลุมด้วยแจ็กเกตสีดำ พฤติกรรมบางอย่างมีข้อผิดสังเกต นอกจากนี้ยังพบคนที่เป็นหัวหน้าทีมลักษณะคล้ายไกด์ทัวร์ และประเด็นที่ 3 อยากให้ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติที่กรอกไว้ในเอกสาร สว.3 ว่าจริงหรือเท็จ โดยเฉพาะข้อมูลประวัติการศึกษาและประวัติการทำงานที่เกี่ยวข้องในกลุ่มตัวเอง

"การเขียนข้อมูลลงในเอกสาร สว.3 ก็เหมือนเป็นการโฆษณาตัวเองเพื่อให้คนเข้ามาเลือก ซึ่งจะมีผลในการลงคะแนน ถ้าเขาเขียนอะไรที่โฆษณาเกินจริง หรือไม่ใช่ข้อเท็จจริง แล้วทำให้คนอื่นตัดสินใจเลือก ก็จะมีผลต่อผู้สมัครรายอื่น โดยการกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จมีผลทางกฎหมาย จึงอยากให้ กกต.ตรวจสอบ" นายสุรชัยกล่าว

กลุ่มอกหักร้อง กกต.สอบฮั้ว

ส่วนนายสหรัฐ มาลาศรี ผู้สมัคร สว.ที่ตกรอบ กล่าวว่า ที่ กกต.บอกว่ามีสายสืบ อันนี้ท่านได้ไปทำงานหรือไม่ โดยเฉพาะนายแสวง บุญมี  เลขาธิการ กกต. ขอให้ท่านทำงานสมกับที่เป็น กกต. คุ้มภาษีประชาชน

"คุณบอกว่าคุณรู้ แต่คุณไม่สามารถจับคนทุจริตได้ ถือว่าคุณไม่ทำงาน การมายื่นครั้งนี้ไม่ถึงขนาดที่อยากให้การเลือกเป็นโมฆะ แต่อยากให้ตรวจสอบคนที่บล็อกโหวตหรือจัดตั้ง คุณต้องไปจัดการ ไม่ใช่มาบอกว่าไม่มีหลักฐาน ทำอะไรไม่ได้ อย่างนั้นแสดงว่าคุณไม่ทำงาน" นายสหรัฐกล่าว

เวลา 11.50 น. กลุ่มผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2, 3, 14 ยื่นคำร้องต่อ กกต.เช่นกัน โดยนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร สว.กลุ่มสตรี กล่าวว่า อยากให้ กกต.ตรวจสอบการบล็อกโหวต เพราะทุกคะแนนทุกหีบเหมือนกันหมด แสดงให้เห็นว่ามีโพย เป็นการทำลายประชาธิปไตย นอกจากนี้คุณสมบัติก็ยังไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพ

นางกุสุมาลวตีกล่าวว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือเราจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นคนบุรีรัมย์  เป็นอดีตคณะทำงานของนายชัย ชิดชอบ และพี่ชายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญโดยการสนับสนุนของคนบางคนและคนบางพรรค เพราะฉะนั้นการกระทำเยี่ยงนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายทั้งสิ้น

"ยืนยันมีการซื้อโหวตกันจริงๆ เราหาพยานหลักฐานได้ แต่เชื่อว่าพยานแวดล้อมเข้าองค์ประกอบล้านเปอร์เซ็นต์ โดยตอนบ่ายเราจะยื่นร้องต่อศาลฎีกาในกรณีดังกล่าว" ผู้สมัคร สว.กลุ่มสตรีรายนี้ระบุ

ส่วน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้สมัคร สว. ในกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า มีความพยายามให้โหวตเตอร์เลือกคนที่เป็นเป้าหมาย และในช่วงบ่ายที่มีการเลือกไขว้ ก็มีการเขียนโพยไว้ โดยตนเหลือบมองไปเห็นเพื่อนข้างๆ ยังไม่อ่านใบ สว.3 จนจบก็ลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องนี้ กกต.ต้องใช้ความกล้าหาญในการตรวจสอบ

"ทั้งหมดนี้ผมไม่ได้พูดลอยๆ เพราะหลักฐานอยู่ที่ใบคะแนนทุกใบที่อยู่ในกล่อง เชื่อว่าทำได้ไม่ยาก เพียง 1 วันก็รู้ว่าใครเลือกใครบ้าง ผมยินดีที่จะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม อยากให้ กกต.อย่าเพิ่งรีบประกาศผล" พล.ต.ท.คำรบกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.คำรบได้โชว์พยานหลักฐานที่เป็นโพยการลงคะแนน พร้อมระบุว่า "เป็นโพยที่ตกในห้องน้ำ พอดีผมเป็นตำรวจ เลยเก็บหลักฐานทุกชนิด ผมได้โพยมาแล้วก็ไปเทียบกับคะแนนที่ได้มาเป๊ะ"

นายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง อดีตที่ปรึกษา รมว.ศธ. และผู้สมัคร สว.กลุ่มการศึกษา กล่าวว่า จริงๆ  หลักฐานทั้งหลายมีแต่อยู่ในกล่องเลือกตั้ง เพียงแค่นำมาสแกนเก็บเข้าไปในระบบแล้วตรวจสอบว่าบัตรใดที่มีการลงคะแนนซ้ำกันมากๆ อย่างที่ 2 คือการตรวจสอบคุณสมบัติ เราต้องไปตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ตรงปก ที่ตนแซวว่าเสื้อลายโปรไฟล์สั้น คนเหล่านี้จะได้รับการโหวต อันนี้เป็นเรื่องจริงว่าบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลต้องสงสัย แล้วนำคนเหล่านี้มาสอบ มันจะย้อนไปถึงในเส้นทางว่าสัมพันธ์กับบุคคลหรือสายสีใด จึงสามารถไปเล่นงานพวกเขาได้

ทักษิณโวยปฏิวัติทำ สว.พัง

ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับเลือกให้เป็น สว. ว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญตรงนี้ที่ว่าสอนให้รู้ว่าการที่ปฏิวัติทุกครั้งเกิดจากการไม่ไว้ใจประชาชน ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาลก็มีการปฏิวัติ พอมีการปฏิวัติก็ออกกติกาที่ส่วนกลางพยายามควบคุมประชาชนทำโน่นทำนี่ วันนี้ต้องย้อนกลับไปว่าไว้ใจประชาชน เชื่อใจประชาชนว่าจะเลือกรัฐบาลและเลือกกติกาของเขาได้ ซึ่งวันนี้เป็นไปตามกติกาหลังจากคณะปฏิวัติทำ

ถามว่า ที่มีการตั้งข้อสังเกต สว.ที่ได้รับเลือกเป็นสายของพรรคภูมิใจไทยและ จ.บุรีรัมย์ นายทักษิณกล่าวว่า ก็นี่ไง มันเป็นเรื่องของกติกาที่ถูกเซต โดยหลังจากการปฏิวัติแล้วไปคิดว่ากติกาที่ตัวเองคิดดีที่สุด เก่งที่สุด แต่ผลสุดท้ายคือการไม่ไว้ใจประชาชน ไม่เป็นสิ่งที่ดี ต้องกลับไปไว้ใจประชาชน

ซักว่าจะกลับไปใช้วิธีการเลือกตั้งใช่หรือไม่  นายทักษิณกล่าวว่า วิธีการที่ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ชีวิตของเขาเอง ตัดสินใจเลือกคนที่จะมาทำงานให้เขานั้นจะดีที่สุด แต่หากกติกาเป็นแบบนี้ ผลสุดท้ายก็ต้องมีคนไปทำหน้าที่เลือกแทนประชาชน ซึ่ง สว.ชุดรักษาการก็มีการเลือกแทนประชาชน และ สว.ชุดนี้ก็มีการเลือกแทนประชาชนเหมือนกัน จึงขอให้กลับไปที่เบสิกของระบอบประชาธิปไตย มันต้องไว้ใจประชาชน อย่าไปดูถูกประชาชน เขาคิดของเขาเองได้ และการที่คนทั้งประเทศมีการตัดสินใจโดยคนหมู่มากถึงจะถูกต้องที่สุด

เมื่อถามว่า ปรากฏการณ์เลือก สว.ที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อการเมืองในอนาคตหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไร การเมืองคือการเมือง ต้องเป็นสิ่งที่ประคับประคองเพื่อทำงานให้ประชาชนได้เท่านั้นเอง

"ไม่น่าจะกระทบต่อรัฐบาล คุยกันรู้เรื่อง ทุกคนที่ทำงานด้วยกันเขาคุยกันรู้เรื่อง ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคุยกับพรรคร่วมได้ทุกคน" นายทักษิณกล่าว

ถามว่า มีการมองเป็นการคลายมนตร์ขลังของคุณทักษิณไปแล้ว นายทักษิณหัวเราะก่อนจะระบุว่า มนตร์ขลังตนไม่มี ตนอายุ 75 ปี ก็คนแก่คนหนึ่ง ไม่มีมนตร์ขลังอะไร

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า การที่นายสมชายไม่ได้เป็น สว.ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย กระบวนการเลือกตั้งสว.ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี

ถามว่า มีการมองว่านายทักษิณเสื่อมมนตร์ขลังแล้ว นายสุริยะกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการเลือกตั้ง สว. พรรคก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ตอนนี้ สว.ใหม่ก็ไม่มีอำนาจเรื่องการเลือกนายกฯ แต่มีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าเมื่อกฎหมายผ่านสภาโดยผ่านความเห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งตามข่าวระบุว่าคนของพรรคภูมิใจไทยเข้าไปเป็น สว.จำนวนมาก ดังนั้นโอกาสที่กฎหมายจะผ่านก็ยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่

ซักว่า แบบนี้โอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยได้ สส.เข้ามาจำนวนมาก ตำแหน่งรัฐมนตรีก็จะคละกันไปตามโควตาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับอำนาจต่อรองที่จะลดน้อยลง

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายสมชายไม่ได้รับเลือกเป็น สว. ก็สะท้อนพรรคเพื่อไทยปล่อยและไม่ได้ไปแทรกแซงตรงนี้ ผลจึงออกมาแบบนี้ เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องยึดอำนาจ ครองอำนาจ ระบบเก่าจะกลับมา ก็ขอให้เลิกคิดได้เลย ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปตามวิถีของประชาชน

ถามว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่โดนบีบในเกมการเมืองที่เอาสภาสูงมาต่อรองกับสภาล่างใช่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ไม่มี ใครจะไปยึดสภาสูง ข่าวที่ออกมาอาจจะไม่ใช่แบบนั้น แต่อำนาจ สว.ก็ไม่ได้มากเหมือนเดิมแล้ว ไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ มีเพียงการกลั่นกรองกฎหมาย เลือกองค์กรอิสระจึงไม่มีผลมาก

ซักว่า กระแสการเมืองโฟกัสไปที่นายอนุทินและพรรคภูมิใจไทยกำลังมาแรง นายสุทินกล่าวว่า ไม่หรอก ใครจะไปเดาใจประชาชนได้ อย่าไปคิดกันเอง ให้ไปถามใจประชาชน แล้วทำไมไม่คิดว่าสุทินมาแรงบ้างล่ะ ส่วนที่ จ.มหาสารคามไม่มีผู้สมัครหลุดเข้ามาเป็น สว.ได้นั้น เพราะเราปล่อยอิสรเสรี ไม่ได้เข้าไปจัดตั้งอะไร

"ผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. แม้จะไม่ค่อยรู้จัก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เก่ง ซึ่งผมมองว่าคนหน้าใหม่ก็ดีเหมือนกัน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ถ้าได้แต่คนหน้าเก่าก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่าเรายังไม่รู้จักดี เขาอาจจะเก่งกว่าเราก็ได้ ก็ต้องลองดู เพราะเมื่อกติกาเขียนแบบนั้น และผลออกมาสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการยอมรับและให้โอกาสในการทำงาน" นายสุทินกล่าว

อนุทินปัดอย่าโยงภูมิใจไทย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึง สว.ที่ได้รับเลือกหลายคนมีความเชื่อมโยงกับพรรคภูมิใจไทยว่า มันเชื่อมโยงไม่ได้ เพราะพรรคการเมืองยุ่งเรื่อง สว.ได้หรือไม่ มีการพูดให้ร้ายตนอยู่เรื่อย ตนเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกหนังสือถึง 2 ครั้งห้ามยุ่งเรื่องนี้ ตนทำหน้าที่ของตนไปหมดแล้ว ใครจะมาโยงก็โยงไม่ได้ แล้วถึงวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเขาเลือกกันอย่างไร เคยให้ที่ปรึกษามาอธิบายว่าเลือกกันอย่างไร จนถึงวันนี้ยังไม่เข้าใจ

ถามว่า เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ที่มี สว.เกี่ยวโยงกับบุรีรัมย์จำนวนมาก นายอนุทินกล่าวว่า อย่างไรต้องไปดูวิธีการ ระบบเป็นอย่างไร และเท่าที่ตรวจสอบทุกคนที่เข้ามาก็เข้ามาตามระบบ เรื่องเลือก สว. ตนยุ่งเกี่ยวอย่างเดียวคือให้กลไกของกระทรวงมหาดไทยในการคัดเลือกรอบแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส ซึ่งต้องชื่นชมนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดีกรมการปกครอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตนยุ่งเกี่ยวแค่เข้าไปบอกว่าให้ทำทุกอย่างให้เรียบร้อย เป็นไปตามไทม์ไลน์ ไม่ให้มีเรื่องร้องเรียน ตนชื่นชมนายอำเภอ ชื่นชม กกต. ตอนนี้พูดได้อย่างเดียวคือต้องแสดงความยินดีกับว่าที่ สว.

"เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยชี้แจงไม่ได้ พรรคไม่เกี่ยวข้องอะไรสักอย่าง รวมทั้งผู้ที่ได้เป็น สว.ก็รู้จักไม่เกิน 20-30 คน อย่าง พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 รู้จักตอนเรียน วปอ.61 เป็นเพื่อนกัน" นายอนุทินกล่าว

ซักว่า มีการระบุว่าเป็น สว.สายสีน้ำเงิน นายอนุทินกล่าวว่า พูดไปเถอะ พูดอะไรก็พูดไปเรื่อย เกี่ยวอะไรกับตน เมื่อถามว่า พล.อ.เกรียงไกรมีชื่อจะเป็นประธานวุฒิสภา นายอนุทินกล่าวว่า ตนเป็น สส. เป็นพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกัน สว.ชุดเดิมตนก็มีเพื่อน ทั้งเพื่อนทั้งพี่เยอะแยะ แล้วทำอะไรได้บ้าง และเพิ่งทราบตอนที่ พล.อ.เกรียงไกรมาลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาไปสมัคร สว. เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจอะไรกันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เพื่อนก็คือเพื่อน แต่ตนจะไปยุ่งเกี่ยวอะไรได้ เขาก็ไปสมัคร สว.ที่สุราษฎร์ธานี แต่เมียตนอยู่ระนอง

ถามว่า สว.หลายคนมีความสนิทสนมกับนายอนุทิน จนวิเคราะห์ว่ามีการวางหมากไว้ นายอนุทินปฏิเสธว่า ขนาดพี่สาวของนายเนวิน ชิดชอบ ยังตกรอบเลย เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อคนขับรถของนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เป็น สว. นายอนุทินกล่าวว่า ไม่รู้จัก คนขับรถของปู่ชัยคนไหนตนยังไม่รู้จักเลย ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า เขาวิจารณ์เป็น สว.สายสีน้ำเงิน นายอนุทินร้อง “หึ" พร้อมระบุว่า พูดอะไรก็พูดอยู่เรื่อย พูดกันไปเถอะ แล้วจะเกี่ยวอะไรกับตน

ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการเลือก สว.ว่า จากที่ได้ติดตามการเลือก สว.ชุดใหม่ 200 คนแล้ว มีหลากหลายอาชีพ และเชื่อว่าจะทำหน้าที่ยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการตรวจสอบเป็นหน้าที่ กกต.

"จากที่ผมเห็นข่าวมีการด้อยค่าอาชีพของ สว. คิดว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากทุกคนมีอาชีพที่สุจริตและมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ขอให้สังคมให้เกียรติแต่ละอาชีพ และอย่าด้อยค่า หากมีเรื่องใดไม่ถูกต้องก็ตรวจสอบตามกระบวนการได้" นายธนกรกล่าว

ชำแหละ 3 ข้อ 'สมชาย' แห้ว

ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ สว.ชุดใหม่บางส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองว่า การทำงานก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่ทำได้ ดังนั้นเชื่อว่า สว.ชุดใหม่น่าจะมีความเป็นอิสระ แต่ในอนาคตไม่รู้ว่าจะมีการจับกลุ่มรวมตัวกันหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป 

"การเมืองก็มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพราะทั้งสองฝ่ายจะต้องทำงานร่วมกัน เช่น สภาผู้แทนราษฎรก็มาจากฝ่ายการเมือง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ และ สว.ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเมือง จะบอกว่า สว.เป็นอิสระจากการเมืองคงไม่ใช่" นายพรเพชรกล่าว

วันเดียวกัน นายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญของวุฒิสภา  ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงนายอิทธิพร บุญประคอง  ประธาน กกต. เรื่องข้อเสนอแนะเพื่อประกอบการพิจารณาของ กกต. กรณีมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

หนังสือตอนหนึ่งระบุว่า กรรมาธิการได้ติดตามพัฒนาการในเรื่องดังกล่าว และมีความห่วงกังวลต่อเหตุอันควรสงสัยดังขั้นต้นอย่างมาก  และมีความเห็นว่า ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ที่ประสงค์ให้การเลือกเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งมีผลให้ประชาชนขาดความไม่เชื่อมั่นในการจัด สว.ของ กกต. และผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.และวุฒิสภา

"กมธ.จึงมีความเห็นว่า กกต.ควรพิจารณาใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาปี 2561 มาตรา 59 ที่กำหนดว่า ก่อนการประกาศผลเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ กกต.มีอำนาจสั่งระงับยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือก และสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่หรือนับคะแนนใหม่.. อย่างจริงจัง เพื่อให้สังคมมีความมั่นใจในการดำเนินการของ กกต. ที่จะให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาตามที่เห็นสมควร และขอเป็นกำลังใจให้ กกต.ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย" นายกล้านรงค์กล่าว

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และน้องเขยนายทักษิณไม่ได้รับเลือกเป็น สว.ว่า สาเหตุที่คุณสมชายพลาดจากการเป็น สว. น่าจะมาจากเหตุผลหลักๆ คือ 1.การจัดตั้งผู้สมัคร สว.ไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ ทำเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งสามารถผ่านมาได้ในรอบระดับอำเภอและจังหวัด แต่เมื่อเข้าสู่รอบระดับประเทศ ซึ่งต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากการเลือกไขว้ของผู้สมัครทุกกลุ่มทั่วทั้งประเทศ ก็เป็นเรื่องยาก 2.น่าจะมาจากกลุ่มต่อต้านคุณสมชายเพื่อไม่ให้ผ่านเข้ามาเป็น สว. เพราะถ้าหากว่าเป็น สว.แล้ว จะเป็นแคนดิเดตประธานวุฒิสภา แย่งกับกลุ่ม สว.สายสีน้ำเงิน ทำให้คุณสมชายถูกเตะตัดขาออกไปเสียก่อน และ 3.คุณสมชายมีกระแสคั่วประธานวุฒิสภามาแรงมาก สังคมเกิดความกลัวระบอบทักษิณจะครอบงำวุฒิสภา จึงถูกต่อต้านจากกลุ่มผู้สมัคร สว.สายทั่วไป ที่เขม่นความเป็นน้องเขยคุณทักษิณ และไม่ได้คะแนนจากกลุ่มผู้สมัคร สว.สายสีน้ำเงิน ที่แพ็กทีมกันมาเป็นอย่างดี

ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw และ We Watch จัดเสวนา สว.67 ทางข้างหน้า? จากสิ่งที่เห็น สะท้อนปัญหาทั้งการบริหารจัดการของ กกต. และระบบการเลือก สว.ที่ใช้อยู่ รวมถึงร่วมมองอนาคตการเมืองไทยหลังได้เห็นหน้าว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน โดยช่วงแรก ดูการเปิดข้อมูลที่ค้นพบจากการวิเคราะห์ผลการลงคะแนนโดยทีมงาน iLaw

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw ชี้ว่า  ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะประกาศผลเลือก สว. เพราะมีปัญหามากมายเกิดขึ้นในกระบวนการเลือกที่ผ่านมา มีตัวเลขที่ชี้เห็นชัดเจนถึงการได้มาของสว.ที่ไม่ปกติ แสดงให้เห็นว่าคนที่ได้เป็น สว.ฝ่าฟันระบบเลือกนี้มาอย่างชาญฉลาดและสนุกสนาน แต่ขอฝาก กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติและประวัติว่าที่ สว.อย่างละเอียดอีกครั้ง แม้จะผ่านการเลือก สว.ไปแล้ว หากพบว่าขาดคุณสมบัติก็จะต้องไม่ประกาศรับรองผล รวมถึงต้องตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดผู้สมัครที่เข้าสู่กระบวนการเลือก สว.กว่า 4 หมื่นคนทั้งหมด

"ได้แกะรอยจาก 8 จังหวัดคือ พระนครศรีอยุธยา บุรีรัมย์ สตูล อ่างทอง เลย อำนาจเจริญ ยโสธร สุรินทร์ ที่มีผู้สมัครผ่านเข้ารอบเลือกไขว้ 258 คน และเป็น สว. 52 คน เท่ากับอัตราส่วน 1 ใน 4 ซึ่งผิดปกติ มีคะแนนโดด ลักษณะรวมกันเราอยู่แยกกันเป็น สว. และเปรียบเทียบกับ สส.พรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ 8 จังหวัดดังกล่าว ที่ได้จำนวน สส.มากในจังหวัดเหล่านี้เช่นกัน" ตัวแทนจาก iLaw ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลเลือกตั้ง นายกอบจ.ปทุมธานี ’ลุงชาญ’ ปาดหน้าชนะ ‘บิ๊กแจ๊ส’ 1,969 คะแนน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการนับคะแนนคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี(อย่างไม่เป็นทางการ) ณ เวลา 21.18 น. ครบทุกหน่วยเลือกตั้ง

‘ดิเรกฤทธิ์’ เหนื่อยใจ ‘กกต.’ ทำมึนไม่ฟังเสียงทักท้วง ฮั้วเลือก สว.

กกต.ทำมึน มองไม่เห็นข้อบกพร่องตนเอง สุดท้ายตรวจอะไรไม่ได้ หาคนผิดไม่เจอ สามารถประกาศรายชื่อ สว.200 คน  ได้ตามเป้าหมายโดยสมบูรณ์

ยุ่งแล้ว! อดีตผู้สมัคร สว. จ่อร้องศาลปค.สูงสุด ไต่สวนคุ้มครองประกาศผลเลือก สว.

อดีตผู้สมัครสว. จ่อยื่นศาลปกครองสูงสุด ขอไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราวประกาศผลเลือกสว.ชุดเชื่อมโยงการเมือง ชี้เป็นการเลือกสว.ที่มีการหักหลังกันอย่างน่าเกลียด น่าเวทนา จี้กกต.ฟันสว.นกแล และผู้สมัครแจ้งประวัติไม่ตรงกลุ่มอาชีพ

จ่อสอบผู้สมัครสว.กว่า4หมื่นคน

เลขาฯ กกต.ยกคำพิพากษาศาลวินิจฉัยสมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพไม่ผิด สิทธิการรับสมัครเป็นคนละส่วนกับเอกสารรับสมัครเป็นเท็จ