อิ๊งค์ปัดตั้งแม้ว แค่ให้กำลังใจ ‘นิด’ทัวร์อีสาน

“อิ๊งค์” เผยยังไม่ตั้ง “ทักษิณ” ช่วยงานพรรค แค่ปล่อยมุกเฉยๆ แต่ปกติปรึกษาที่บ้านอยู่แล้ว ยกพ่อแรงบันดาลใจให้คนในพรรค อยากให้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ทั้งหมด เผื่อแผ่ไปถึงพรรคอื่นด้วย ด้าน กมธ.นิรโทษกรรมนัดประชุม ถก 4 ประเด็นหลัก  บอกยังมีเวลาทำงานอีก 1 เดือน

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ที่ไปรษณีย์กลางบางรัก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยายให้กับ สส.ใหม่ที่พรรคเพื่อไทย และระบุว่าพร้อมนั่งผู้ช่วยหัวหน้าพรรคว่า พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างองค์ความรู้ให้กับ สส.มากขึ้น โดยการเชิญนักวิชาการและผู้มีประสบการณ์ด้านต่างๆ มาให้ความรู้กับสส.และบุคลากรในพรรค แม้ตนไม่ได้เป็น สส. แต่เป็นหัวหน้าพรรค ก็เข้าไปนั่งเรียนด้วย ซึ่งเป็นเพื่อไทยอคาเดมีรุ่นที่ 1 โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณกว่า 20 คน และนายทักษิณมาเป็นวิทยากรปิด ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเซอร์ไพรส์ เพราะไม่มีใครทราบว่าจะมา และเป็นเพียงการปล่อยมุกเรื่องที่จะมาเป็นผู้ช่วย ซึ่งความจริงในครอบครัวคุยกันอยู่แล้วว่าถ้ามีอะไรก็มาปรึกษากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการตั้งนายทักษิณอย่างเป็นทางการหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า คงไม่มีอย่างนั้น เพราะนายทักษิณมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำ แต่การขอคำปรึกษาก็เป็นเรื่องที่ทำได้อยู่แล้ว และถ้ามีโอกาสก็เห็นว่านายทักษิณสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ให้ได้หมด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ สส.ของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น คิดว่าแค่เด็กสนใจที่อยากจะเป็นนักการเมืองก็ได้ หรือพรรคอื่นที่อยากถามประสบการณ์ของนายทักษิณที่เคยเป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีมาก็ได้ เป็นการแชร์ความรู้กัน เพราะสังคมโลกที่เปลี่ยนไปทุกอย่างปรับตัวเร็วมาก อยากจึงอยากให้มองทุกอย่างเป็นประโยชน์

เมื่อถามย้ำว่า จะให้นายทักษิณมาช่วยงานที่พรรคมากขึ้นหรือไม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยชี้แจง ถ้าช่วยพรรคโดยตรงคงไม่มี ซึ่งแน่นอนว่านายทักษิณเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของคนในพรรคอยู่แล้ว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาเจอท่านก็จะมีความสุขและมีกำลังใจ พร้อมสู้ ซึ่งนายทักษิณก็ให้กำลังใจน่าจะเป็นเรื่องแบบนี้มากกว่า

น.ส.แพทองธารยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่าพรรคเพื่อไทยเตรียมแก้รัฐธรรมนูญไม่ให้มี สส.บัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ว่า เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาทำกันแบบง่ายดาย เพราะต้องอาศัยกระบวนการอยู่แล้ว และไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย รวมถึงไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้กันในพรรคเลย

ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กมธ.นัดประชุมวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 13.00 น. โดยมีวาระพิจารณาและเตรียมลงมติใน 4 ประเด็นคือ การนิรโทษกรรมโดยใช้รูปแบบกรรมการ ซึ่งมีรายละเอียด อาทิ รูปแบบคณะกรรมการ หน้าที่ และอำนาจ โครงสร้างองค์ประกอบ วาระ หน่วยธุรการ งบประมาณ การตรวจสอบและติดตาม นอกจากนั้นคือมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ กระบวนการสร้างความสมานฉันท์ เช่น การยอมรับผิด และการให้อภัย การล้างมลทิน การคืนสิทธิ รวมถึงคดีฐานความผิด หรือการกระทำที่จะได้รับการนิรโทษกรรม

 “ในรายละเอียดที่เตรียมไว้ หากประเด็นใดสามารถพิจารณาได้จะพิจารณา รวมถึงการให้ความเห็นชอบด้วย อย่างไรก็ดีในรายละเอียดการทำงานของ กมธ. ยังมีกรอบเวลาอีก 1 เดือน โดยจะสรุปรายงานให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค. ก่อนจะส่งให้สภาพิจารณาต่อไป ดังนั้นในประเด็นการทำงานของ กมธ.ยังมีเวลา” นายนิกรกล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลวันเดียวกันนี้ ถึงกำหนดการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย.-2 ก.ค.67 โดยวันที่ 27 มิ.ย. นายกฯ จะเดินทางไปศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.น่าน วันที่ 28 มิ.ย. เดินทางลงพื้นที่ภาคอีสาน โดยวันที่ 28 มิ.ย.ช่วงบ่ายลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ดูการศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน ที่วัดฝั่งแดง อ.ธวัชบุรี ในช่วงเย็นเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี กราบนมัสการพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง และชมกรรมวิธีการจัดทำต้นเทียนพรรษา ประเภทติดพิมพ์ ที่วัดมหาวนารามพระอารามหลวง อ.เมืองอุบลราชธานี ก่อนไปพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่ถนนคนเดินเรียบแม่น้ำมูล เทศบาลนครอุบลราชธานี และพักค้างคืน

ต่อมาวันที่ 29 มิ.ย. ลงพื้นที่ติดตามงานในพื้นที่ อ.วารินชำราบ เสร็จแล้วเดินทางไป จ.ศรีสะเกษ เป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดและปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และวันที่ 30 มิ.ย. เดินทางลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์น้ำ  ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “WORLD PRIDE PaRADE 2024” ที่สนามกีฬาแห่งชาติ (สนามศุภชลาศัย)

จากนั้นในช่วงค่ำนายกฯ เดินทางกลับไปค้างคืนที่ จ.นครราชสีมา ก่อนวันที่ 1 ก.ค. ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ชัยภูมิ และพักค้างคืนที่ จ.นครราชสีมาอีก 1 คืน และวันที่ 2 ก.ค. เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.นครราชสีมา และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อสอบผู้สมัครสว.กว่า4หมื่นคน

เลขาฯ กกต.ยกคำพิพากษาศาลวินิจฉัยสมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพไม่ผิด สิทธิการรับสมัครเป็นคนละส่วนกับเอกสารรับสมัครเป็นเท็จ

นช.อัดศึกสีกากีวุ่นวาย ‘บิ๊กโจ๊ก’ลุยฟ้องรายวัน

“ทักษิณ” ชี้เกาเหลาบิ๊กสีกากีเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่ยืนยันไม่ยุ่งเพราะไม่มีหน้าที่ "เอก"  แฉ "บิ๊กโจ๊ก" ขอพบเล่าเรื่องบิ๊กตำรวจเป็นสิบ