รับหมดท่าจับฮั้วสว. ‘แสวง’ปูดมีร้อง333เรื่อง คนทำมีอำนาจ-เงิน-ความรู้

กกต.ติวเข้มเจ้าหน้าที่ทีม Adventure เลือก สว. 26 มิ.ย.นี้ เลขาฯ กกต.เผยมีร้องเรียนรวม 333 เรื่อง รับจับคนโกงไม่ง่ายเหตุคนทำมีทั้งอำนาจ-เงิน-ความรู้ ส่ง จนท.ตรวจสอบการเปิดห้องโรงแรมล็อบบี้กัน ประธาน กกต.ขู่ผู้สมัครหากมีหลักฐานทำผิด กม.จะจับกุมทันที กำชับ จนท.นับช้าๆ ขานคะแนนชัดๆ ป้องกันร้องเรียน ปธ.กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ จี้ กกต.ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว. พร้อมขอผลนับคะแนนระดับอำเภอ-จังหวัดภายใน 30 มิ.ย.นี้ อดีตรองโฆษก ปชป.สิ้นหวัง กกต.บ้อท่า ฟันธงจะได้ สว.ฮั้วซูเอี๋ยการเมืองตบหน้าคนออกแบบ

ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือก (กปล.) สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำสถานที่คัดเลือก สว. และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ประมาณ 300 คน ในการปฏิบัติงานการคัดเลือก สว.ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย. 2567

โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ประธานในพิธีเปิดการอบรม กล่าวตอนหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่เปรียบเหมือนทีม  Adventure เป็นตัวแทนสำนักงาน กกต. ซึ่งในวันที่ 26 มิ.ย.นี้จะมีการเลือก สว.ระดับประเทศ ยอมรับว่าสถานการณ์อยู่ในช่วงที่ยิ้มยาก แต่เชื่อว่าทุกคนยังยิ้มได้ เพราะตอนนี้เหลืองานไม่ถึง 10% จึงอยากให้ทุกคนภูมิใจในตัวเอง กับสำนักงานที่เราช่วยกันทำงานมาถึงตรงนี้ได้ ในแนวทางปฏิบัติอาจมีช่องว่างให้เราเดินลำบากมาก คือเรื่องของกฎหมายที่มีช่องว่าง พร้อมที่จะทำให้เราล้มคว่ำได้ตลอดเวลาระหว่างทาง บางเรื่องไม่อยู่ในมือของเรา หลายเรื่องที่ทุกคนก็เห็นว่าถ้าไม่ดีจริงๆ ก็คงไปไม่รอด เราได้ทำดีที่สุดแล้ว

ภายหลังการมอบนโยบาย นายแสวงให้สัมภาษณ์ว่า เราผ่านมา 2 สนาม ทั้งการเลือกระดับอำเภอและระดับจังหวัด การเลือกระดับประเทศ กปล.จะต้องบริหารเวลา  อย่าให้ผู้สมัครประท้วง ถ้าเกิดปัญหาให้ กปล.ชี้แจง และให้ผู้สมัครที่ไม่เห็นด้วยเขียนแบบฟอร์มทักท้วง อย่าปล่อยให้ต่อล้อต่อเถียงจนให้คนอื่นเสียเวลา ผู้ทักท้วงจะไปใช้สิทธิ์ที่ไหนก็ได้ แต่อย่ามาใช้ในเวทีนี้เพื่อประโยชน์อะไรไม่รู้ ต้องไม่ทำให้คนอื่นเสียเวลา

เมื่อถามว่า ยังมีข้อกังวลเรื่องการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการล้มการคัดเลือก สว.หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ไม่ได้กังวล ในฐานะผู้ที่รับผิดชอบต้องรักษากระบวนการการเลือก สว.ไว้ นั่นคือการรักษาเป้าหมายให้ได้ สว.ครบ 200 คนตามระยะเวลาที่กำหนด ถ้ากระบวนการมีปัญหาอาจมีคนนำไปร้องให้การเลือกเป็นโมฆะ จึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์ปิดช่องว่างเหล่านี้ ให้ผู้ปฏิบัติงานรับทราบว่าเรากำลังอยู่ตรงไหน ทำหน้าที่อะไร

นายแสวงยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ กกต.พบความเคลื่อนไหวในการทุจริตเลือก สว. 4 รูปแบบว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอย่างที่เราเคยได้ยิน White Collar Crime หรืออาชญากรรมคอปกขาว คือผู้กระทำเป็นผู้ที่มีความรู้ มีอำนาจ มีทุน ยิ่งถ้าเป็นการเมืองก็จะมีเครือข่าย มีผู้สนับสนุน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองอยู่แล้ว และเชื่อว่ามีอยู่ทุกประเทศ ซึ่งข้อมูลที่เรารับมามีทั้งเป็นเบาะแส เรื่องเล่า เรื่องคนนำมาร้อง อย่างเรื่องรับจ้างหรือจ้างคนลงมาสมัคร ให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ถือเป็นความผิดทั้งนั้น

จับตาเปิดโรงแรมล็อบบี้กัน

"อย่างกรณีที่มีข่าวมีการเปิดโรงแรมจองห้องพักเพื่อล็อบบี้กันนั้น โรงแรมใกล้สถานที่เลือกมีไม่เยอะ เราก็ตรวจสอบพบว่ามีผู้สมัครมาจองห้องเต็มหมด เพราะสะดวกต่อการเดินทางในวันที่ 26 มิ.ย. แต่จะมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่สำนักงานต้องไปดูแล อยากฝากไปยังผู้สมัครว่าท่านจะต้องไปรับผิดชอบประเทศชาติ อยากให้เคารพกฎหมาย"

เลขาฯ กกต.ยืนยันว่า การเลือก สว.จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ ความผิดที่เกิดขึ้นมีอยู่ 3 กลุ่ม รวม 333 เรื่อง 200 เรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติและการลงผิดกลุ่ม รู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์สมัคร ซึ่งศาลฎีกาและ กกต.ได้วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว กลุ่มที่ 2 การดำเนินการในวันเลือก ซึ่งการเลือกทั้งในระดับอำเภอและระดับจังหวัดมีอยู่ 39 เรื่อง ซึ่ง กกต.จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกลำดับถัดไป  กลุ่มที่ 3 การเลือกที่ไม่สุจริต มีประมาณ 90 เรื่อง ซึ่งต้องใช้เวลา แต่คิดว่าจากจำนวนทั้งหมดยังถือว่าน้อยถ้าเทียบกับจำนวนผู้สมัครทั้งประเทศที่มีกว่า 4 หมื่นคน

เมื่อถามว่า กรณีมีฝ่ายการเมืองเข้ามาสนับสนุนผู้สมัครในการคัดเลือก สว.จะทำเช่นไร นายแสวงกล่าวว่า ตามกฎหมายให้คนที่เป็น สว.ต้องเป็นกลาง แต่กฎหมายห้ามนักการเมือง 2-3 เรื่อง คือห้ามช่วยให้ได้รับเลือกเป็น สว. และผู้สมัครเองก็ต้องไม่ให้ฝ่ายการเมืองช่วยให้ตัวเองได้รับการเลือก แต่การเมืองบางทีก็เป็นเรื่องของการสมยอมสมประโยชน์กัน ทำให้ กกต.ทำงานยากขึ้นในการที่จะเข้าไปจับกุม แต่ก็มีในบางส่วนที่เป็นเรื่องที่ กกต.หาเอง จึงให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อมีการกล่าวหาว่ามีการให้ทรัพย์สิน แลกตำแหน่ง เช่นมาอยู่ทีมเดียวกัน ถ้าตนได้เป็นสว.ก็จะให้มาเป็นผู้ช่วยหรือนั่งเป็นกรรมาธิการ แต่กฎหมายได้ออกแบบไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อไทม์ไลน์แน่นอน

ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การอบรม และกล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดที่ออกแบบมาให้ดำเนินการเลือก สว. ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ถือว่าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างชัดเจน ขณะที่ระเบียบต่างๆ ที่ กกต.ออกไป ก็ถือว่าเป็นการเลือก สว.ครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้ ซึ่งเป็นการหาสิ่งที่ถูกต้องมากที่สุด และเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุด  จนนำมาสู่การปรับปรุงระเบียบหลายครั้ง และได้มีการทำหนังสือสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ปฏิบัติตาม อาจทำให้ทุกคนปวดหัว และ กกต.เองก็ปวดหัวด้วยเช่นกัน อยากให้ทุกคนทำการซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง ให้ซ้อมในทุกกลุ่มเพื่อความเข้าใจซึ่งกันและกัน

กำชับ จนท.นับคะแนนช้าๆ ชัดๆ

"การนับคะแนนตอนนั้นเป็นช็อตสำคัญที่สุด ช้าๆ ชัดๆ  มองตากันให้ดี คลี่กระดาษดูช้าๆ อ่านช้าๆ กลุ่มเรามีกี่คนให้เห็นแบบทั่วไปหมด แล้วพอพูดอะไรไป มองตาคนที่ขีด คนขีดตอบมาทวนมา ตรงกัน ชัดเจน คนที่ฟังก็จะเข้าใจและมีความชัดเจน ประเด็นที่อาจจะเป็นปัญหาที่ได้มาจากคำร้อง คือผู้สมัครบอกว่าก็นั่งฟังได้ยินการขานเบอร์ 5 ห้าครั้ง  ทำไมบนกระดานมี 4 ถ้าเผื่อเราขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ ตรวจทานซึ่งกันและกัน ผู้สมัครคนอื่นที่ไม่เห็นความผิดปกติก็ไม่ค้าน คนที่จะค้านก็มีคนเดียว ที่เหลือก็สามารถจะเป็นพยานให้กับเราได้ในอนาคตหากมีการร้องขึ้นมา” นายอิทธิพร กล่าว

นายอิทธิพรกล่าวถึงหนังสือจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่แนบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับคำร้องให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ว่า ในขั้นตอนเริ่มต้นของการสมัคร ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมาย และไม่มีลักษณะต้องห้าม โดยผู้สมัครจะต้องรับรองตนเอง รวมถึงการรับรองความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปีประกอบการสมัคร ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรน่าสงสัยก็รับสมัครได้ แต่หากหลังจากนั้นพบว่าแจ้งคุณสมบัติอันเป็นเท็จ ทั้งผู้สมัครและผู้รับรองจะมีโทษตามกฎหมาย

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวผู้สมัครพักในโรงแรมเดียวกันจำนวนมาก นายอิทธิพรกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ปกติและปกติ เพราะการจัดเลือกครั้งนี้เป็นการจัดเลือกระดับประเทศ และมีสถานที่เพียงสถานที่เดียว คือที่อิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี ซึ่งผู้สมัครเลือกที่จะมาพักบริเวณใกล้สถานที่เลือกเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งเบื้องต้นไม่ได้หมายความว่าเจตนามารวมกลุ่มกัน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมาอยู่ในสถานที่ที่สะดวกที่สุด เพื่อที่จะไปสถานที่เลือก ซึ่ง กกต.ได้ตระหนักในประเด็นนี้ตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ว่าหากไปรวมตัวที่ไหนให้มีการตั้งข้อสงสัย  เพราะผู้สมัครบางคนอาจจะมีความน่าสงสัย กกต.ได้มีการสั่งให้จับตาดูตั้งแต่การเลือกตั้งระดับอำเภอแล้ว และให้สายข่าวได้ติดตาม

"กกต.ก็เชื่อมั่นว่าผู้สมัครที่จะมาเป็น สว. ทำหน้าที่ในสภาฯ ต้องมีเกียรติและศักดิ์ศรี และยึดมั่นในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งหากมีพยานหลักฐานชัดเจนนำไปสู่การจับกุม กกต.จะทำทันที โดยประชาชนที่มีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริต สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง กกต.ได้ "

นายอิทธิพรกล่าวทิ้งท้ายว่า กระบวนการเลือก สว.ครั้งนี้นั้น กกต.ทำไปตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ให้เป็นไปตามกฎหมายมากที่สุด และให้ข้อมูลแก่ผู้สมัครผ่านสายด่วน 1444 ขณะเดียวกันเชื่อว่าผู้สมัครมาสมัครเพื่อเป็นตัวแทนประชาชน ก็ควรที่จะทำตามกฎหมาย

ขณะที่การเลือก สว.ระดับจังหวัดที่ผ่านมา ประธาน กกต.กล่าวว่า มีการสั่งให้นับคะแนนใหม่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว ไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เข้ารอบแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่าไม่ได้อยากให้กระบวนการเลือกล่าช้า แต่ต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ

กมธ.สิทธิฯ จี้ กกต.ส่งผลนับคะแนน

ทั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธาน กกต.  ขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พร้อมแนบเอกสารและหลักฐานที่ประชาชนนำส่งให้คณะกรรมาธิการจำนวน 293 แผ่น โดยประชาชนได้อ้างว่า กระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอและระดับจังหวัดพบข้อพิรุธหลายประการ ที่อาจมีขบวนการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภาเกิดขึ้น อาทิ (1) ผู้สมัคร สว.มีคุณสมบัติที่ไม่ตรงกับกลุ่ม อาชีพ หรือผู้สมัครขาดคุณสมบัติ (2) ผลการลงคะแนนที่มีผู้สมัครได้คะแนนเป็น “ศูนย์” ในหลายอำเภอ ที่อาจเป็นผลจากการเกณฑ์มวลชนหรือบุคคลให้มาเป็นผู้เลือก โดยที่บุคคลเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาเพื่อที่จะสมัครเป็น สว. แต่เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้เลือกเท่านั้น (3) มีผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ที่อาจมาจากการจัดตั้งของพรรคการเมือง เป็นต้น

จึงขอให้ดำเนินการตรวจสอบกระบวนการเลือก สว.ตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้การเลือก สว.เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม พร้อมขอความอนุเคราะห์นำส่งรายงานผลการนับคะแนนการเลือก สว.ระดับอำเภอและระดับจังหวัดทั่วประเทศให้ กมธ.เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2567

นายเชาว์ มีขวด ทนายความและอดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า "เลือก สว.ซับซ้อน ซ่อน 'ฮั้ว'  VS กกต.ขี้กลัว เห็นข่าวนายแสวง บุญมี เลขาฯ กกต. เปิดข้อมูลเรื่องร้องเรียน สว. พร้อมยอมรับจับคนโกงไม่ง่าย เพราะคนทำมีทั้งอำนาจและเงินแล้ว 'สิ้นหวัง' กับการทำงานขององค์กรอิสระอย่าง กกต. ต้องบอกว่ายังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่คำถามมากมายถึงประสิทธิภาพในการจับโกงตั้งแต่การเลือกตั้ง สส. ปี 2566"

"มาถึงการเลือก สว. ที่ยอมรับกันทั่วประเทศแล้วว่า เป็นระบบที่ซับซ้อนซ่อนฮั้ว ขณะที่เลขาฯ กกต.ยังสะท้อน มุมมองขี้กลัว ที่ไม่น่าจะออกจากปากคนทำงานองค์กรอิสระอีก การระบุว่าจับโกงยาก เพราะคนทำมีทั้งอำนาจและเงิน  เป็นคำพูดที่คนธรรมดาพูดได้ แต่คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบพูดไม่ได้ หน้าที่ของพวกท่านคือ ไม่ว่ามีเงินแค่ไหน ครองอำนาจล้นฟ้าอย่างไร ต้องลากมาลงโทษให้ได้หากกระทำความผิด"

"การเลือก สว.ระดับประเทศที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ผมทำนายล่วงหน้าว่า เราจะได้ สว.ฮั้วพร้อมซูเอี๋ยการเมือง ตบหน้าคนออกแบบกลไกนี้ ที่ปฏิเสธ รังเกียจนักการเมือง ทั้งๆ ที่คนทำหน้าที่ สว.คือมาทำงานการเมือง  การออกแบบที่ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติ ของคนที่อยู่บนหอคอยงาช้าง ก็จะได้ผลลัพธ์แบบหัวมังกุท้ายมังกร ท่าดีทีเหลว เหมือนที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน สิ่งที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือ การกินรวบทั้งสภาล่างและสภาสูง ที่เคยเกิดขึ้นในยุคทักษิณ ที่มีแนวโน้มกลับมารุนแรงอีกครั้ง ไม่เชื่อก็รอดู" นายเชาว์ ระบุ.