ข้าว10ปีกลิ่นตุ ภูมิธรรมเลื่อน แถลงชื่อผู้ชนะ

ข้าว 10 ปีเลื่อนรอบ 2! “ภูมิธรรม” ทำหนังสือถึง อคส. ขีดเส้น 7 วันเคลียร์ประเด็นข้อสงสัย “วีเอท” ให้จบ ทั้งเรื่องนอมินี-ฮั้ว-เงินทุน โยนคณะกรรมการตัดสินหากมีปัญหาเรียกรายที่ 2 และ 3 มาต่อรองได้หรือไม่ หรือเปิดประมูลใหม่ “หมอวรงค์” แฉเหตุล่าช้าอาจเพราะข้าวไม่ตรงปกหรือไม่

เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลกว่า 1.5 หมื่นตันว่า ขณะนี้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ยังไม่ได้ประกาศผลการเปิดประมูล เพราะผู้ยื่นประมูลและให้ราคาสูงสุดคือ บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ที่เสนอราคาซื้อสูงสุดกิโลกรัม (กก.) ละ 19.070 บาทนั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเป็นนอมินี การฮั้วประมูล และเรื่องทุนจดทะเบียนที่มีเพียง 2 ล้านบาท งบดุลปีละกว่า 1 ล้านบาท และยังติดลบอีก 3 ล้านบาท ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะซื้อข้าวได้จริงหรือไม่ จึงต้องคลายความสงสัยให้จบ

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการ อคส.ขอให้ไปตรวจสอบเรื่องทั้งหมด โดยให้เวลา 7 วัน ต้องดูว่าข้อกล่าวหา ข้อสงสัยอยู่ตรงไหนอย่างไร ขอให้ผู้อำนวยการ อคส.ไปทำให้ชัดเจน เพราะมีอำนาจเต็ม ถ้าชัดเจนแล้วก็รีบดำเนินการขั้นต่อไป ถ้าไม่มีอะไรให้สงสัยหรือสิ้นสงสัยแล้ว ราคา 19 บาทก็ถือว่าสูง ก็สามารถประกาศได้ เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะพิจารณา

 “ไม่ต้องการให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าเป็นการฮั้วกันของรัฐบาล ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีก็ปล่อย ถ้าตรวจแล้วมีเป็นนอมินีจริง หรือไม่มั่นใจว่าจะขายของได้ คณะกรรมการก็ต้องพิจารณา โดยผู้ยื่นประมูลรายที่ 1 อยู่ในขั้นต่อรอง แต่ที่ 1 ถูกวิจารณ์ เล่นละครฮั้วกันมา ก็ต้องให้ ผอ.อคส.ไปตรวจสอบตรงนี้ไม่ให้ประชาชนสงสัย เมื่อไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ดำเนินการตามทีโออาร์ ตามกฎหมายต่อได้เลย เพราะผมต้องทำให้โปร่งใส ทำให้เป็นไปตามทีโออาร์ อยู่ที่บริษัท วีเอทฯ ต้องพิสูจน์ตัวเอง แล้วคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณา" นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีบริษัท วีเอทฯ ทำหนังสือยืนยันการเสนอราคากับ อคส.ว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ยังไม่ได้ต่อรอง ยังไม่ได้เรียกเบอร์อื่นๆ มาเจรจา ถ้าเขายืนยัน เราพอใจ และพิสูจน์ได้ว่าไม่มีปัญหานอมินี ไม่มีปัญหาการบริหารจัดการข้าวที่ประมูลก็ปล่อยไป ถ้าพบว่ามีปัญหาไม่ถูกต้องผิดทีโออาร์ ก็ต้องให้คณะกรรมการพิจารณาอย่างเคร่งครัดตามทีโออาร์ตามกฎหมาย เขารู้อยู่แล้วต้องทำอะไรบ้าง

 “การเรียกรายอื่นมาเจรจาต่อรองต้องไปดูทีโออาร์ว่าให้ทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็เรียกรายอื่นมาเจรจาต่อรองได้ ถ้ารายที่ 1 มีปัญหา แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเปิดประมูลใหม่ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณา”

ทั้งนี้ ผลประมูลข้าวได้ถูกเลื่อนเป็นครั้งที่สองแล้ว จากเดิมจะประกาศวันที่ 21 มิ.ย.และ 24 มิ.ย. โดยการเปิดประมูลข้าวสาร 1.5 หมื่นตันเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.นั้น ประมูลจาก 2 คลัง ได้แก่ คลังที่ 1 คลังกิตติชัยหลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) มีปริมาณ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ โดย 3 บริษัทที่ได้ยื่นราคาสูงสุดคือ 1.บริษัท วีเอทฯ มูลค่า 64,010,216.32 บาท เฉลี่ยราคา 19,070 บาทต่อตัน 2.บริษัท สหธัญ จำกัด มูลค่า 62,734,711.23 บาท เฉลี่ย 18,690 บาทต่อตัน และ 3.บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด มูลค่า 60,482,800 บาท เฉลี่ย 18,019 บาทต่อตัน ส่วนคลัง 2 คือ  คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รวมปริมาณ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ โดย 3 บริษัทที่ได้ยื่นราคาสูงสุด คือ 1.บริษัท วีเอทฯ 222,292,403.32 บาท เฉลี่ยราคา 19,070 บาทต่อตัน 2.บริษัท ธนสรร ไรซ์ มูลค่า 209,843,000 บาท เฉลี่ย 18,001.99 บาทต่อตัน และ 3.บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ฯ 182,046,000 บาท เฉลี่ย 15,617.35 บาทต่อตัน

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อว่า "ทำไมประมูลแล้ว แต่ข้าว 10 ปียังมีปัญหาไม่จบ" ว่าหลังจากที่บริษัท วีเอทฯ ประมูลได้ในราคา  19.07 ต่อ กก. วงเงินรวม 286 ล้านบาท เกิดปัญหาดรามาว่าเป็นนอมินีหรือไม่ เพราะบริษัทเพิ่งตั้งทุนจดทะเบียนแค่ 2 ล้านบาท ซึ่งหลังจากติดตามต่อเนื่องพบว่าเขาประมูลถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลายเป็นผิดคิว แต่เดิมคาดว่าบริษัทธนสรร ไรซ์ฯ จะเป็นผู้ชนะ ถึงขนาดมีความพยายามหาทางให้ธนสรร ไรซ์ ยื่นซองใหม่ในราคาที่สูงกว่า แต่เกรงผิด  พ.ร.บ.ฮั้ว คำถามที่ต้องถามคือ ทำไมข้าว 10 ปีจึงยังไม่จบ  ทำไมต้องการให้ ธนสรร ไรซ์ เป็นผู้ชนะประมูล

“จุดที่น่าสงสัยคือ เป็นไปได้ไหมที่ข้าว 10 ปียังคงมีปัญหาเดิมที่บริษัทชนะประมูลเดิมไม่ยอมรับข้าว นั่นคือมีข้าวขาวปลอมปน หรือมาตรฐานข้าว ถ้าเป็นบริษัท วีเอทฯ ชนะ เขาประมูลแบบตรงไปตรงมา เมื่อรับข้าวไปแล้วหากข้าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ประกาศ จะยิ่งเป็นการฉีกหน้ากากผู้จัดประมูล แต่ถ้าธนสรร ไรซ์ชนะ ยังพอคุยกันได้หรือไม่ นี่คือข้อสงสัย ทำไมเรื่องข้าว 10 ปีจึงยังไม่จบและพยายามหาทางให้ ธนสรร ไรซ์ ชนะ ใครทำอะไรไม่ดีกับข้าว ที่มีแม่พระโพสพดูแลก็จะเกิดปัญหายุ่งยากแบบนี้ นี่ยังไม่นับรวมการส่งออกข้าวในเดือน พ.ค.หลังจากกินข้าว 10 ปีโชว์สื่อ ยอดส่งออกเดือน พ.ค.ตกลงทันที 22.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คุ้มไหมที่ทำแบบนี้” นพ.วรงค์โพสต์.