“เศรษฐา” เมินก้าวไกลขู่ฟ้องศาลหากพบดิจิทัลวอลเล็ตในงบประมาณปี 2568 ลั่นไทม์ไลน์ยังเหมือนเดิม ไตรมาส 4 ได้ใช้เงินหมื่น “ชูศักดิ์” สำทับไม่เคยพบมีช่องไหนร้องศาลปกครองได้ “นายกฯ” แจงเรื่องขยายเวลาเช่าที่ดินให้ต่างชาติประเทศอื่นก็ทำ ไม่ใช่ขายที่ดิน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุว่าจะยื่นให้ศาลระงับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ผ่านในวาระ 3 จะทำให้รัฐบาลเสียสมาธิหรือไม่ว่า ไม่เสียสมาธิ เพราะเราก็ยึดมั่นว่าเราทำถูกต้อง นโยบายใดก็ตามเราต้องทำให้ถูกต้อง สุจริต ตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านระบุว่าไม่อยากให้กู้ แต่อยากให้ใช้งบประมาณปกติในการทำดิจิทัลวอลเล็ต แต่พอไม่กู้แล้วใช้งบประมาณปกติก็บอกว่าอาจผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เหมือนเป็นการจ้องจับผิดกันหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่หรอก เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่ต้องดูแลการใช้งบประมาณแผ่นดินให้ใช้ไปในทางที่ถูก เราก็เข้าใจตรงนี้ หน้าที่รัฐบาลคือตอบคำถามให้ทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงฝ่ายค้าน แต่รวมถึงประชาชน ให้สบายใจได้ว่าการดำเนินนโยบายต่างๆ ต้องมีความโปร่งใส สุจริต ตรวจสอบได้ ไม่ได้คิดอะไรมาก
เมื่อถามว่า หากมีการยื่นศาลปกครองจริง จะสะดุดกับไทม์ไลน์หรือไม่ ที่ไตรมาส 4 จะจ่ายเงินในโครงการดังกล่าว นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เชื่อมั่นอย่างนั้น และก่อนที่เราจะทำเราก็ต้องมั่นใจแล้ว ก็ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น และคิดว่าคงไปไม่ถึงจุดนั้น
เมื่อถามว่า หากดูช่องทางตามข้อกฎหมายของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้วไม่ได้ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ถ้าผิดกฎหมายทำไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากฟังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประมาณฯ ที่ผ่านมา มีอะไรที่รัฐบาลจะหยิบความคิดเห็นจากฝ่ายค้านมาปรับใช้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวเรามานั่งคุยกันก่อนในทีมงาน ซึ่งมีหลายข้อที่ฟังแล้วน่าสนใจ
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ยังไม่เห็นช่องทางทางกฎหมายว่าไปอย่างไร เพราะหากงบประมาณผ่านวาระ 3 ก็ต้องถูกส่งไปที่ทางวุฒิสภา ไม่เห็นว่าช่องทางนั้นคืออะไร ฟังแล้วก็งง ปัญหาใหญ่ไม่ว่าจะไปศาลอะไรก็ตาม แต่มีช่องทางรัฐธรรมนูญให้ไปอย่างไร และหากสภาผ่านร่างกฎหมายแล้วมีช่องทางเดียวคือไปศาลรัฐธรรมนูญว่ากฎหมายนั้นขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร แต่ศาลปกครองยังไม่เคยได้ยิน และไม่เคยเห็นว่าจะไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะทำให้บั่นทอนจิตใจการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลก็เดินหน้าตามกฎหมายต่อไป ไม่เกี่ยว เพราะวิเคราะห์แล้วมันไปยาก ไปลำบาก ไม่เห็นช่องทาง เราก็ทำงานกันไป และฝ่ายค้านก็มีหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ส่วนเป็นจริงเป็นเท็จจะไปได้หรือไม่ได้ ก็เป็นเรื่องของประชาชนที่เขาจะตัดสิน แต่ส่วนตัวไม่คิดว่าจะไปได้อย่างไร
ถามอีกว่า จะกระทบความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะไม่เคยมีที่อยู่ดีๆ ที่ผ่านวาระ 3 แล้วจะไปศาลปกครอง ไม่เคยเห็น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 ในวาระ 1 นายชูศักดิ์กล่าวว่า ฝ่ายค้านเขาก็เตรียมตัวมาตามสไตล์เขา และรัฐบาลก็เตรียมตัวมาพอสมควร แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองของประชาชนแต่ละคนที่ดูอยู่นั้นจะเป็นอย่างไร ไม่อยากวิจารณ์ใคร เพราะเขาก็ทำหน้าที่ของเขา เราก็ทำหน้าที่ของเรา เพียงแค่ต้องชี้แจงว่าอะไรที่ไม่ใช่
ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กล่าวถึงการประชุม กมธ.นัดแรก ในวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย. ว่าจะเป็นการพิจารณาเลือกตำแหน่งต่างๆ ใน กมธ. รวมถึงการวางกรอบระยะเวลาที่จะประชุมในแต่ละวันด้วย ส่วนประธาน กมธ.จะเป็นใครนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผลการประชุมในวันพรุ่งนี้
มีรายงานว่า พท.มีการพูดคุยกันเรื่องการเสนอบุคคลที่จะนั่งตำแหน่งต่างๆ อีกครั้งในวันที่ 24 มิ.ย. ก่อนที่จะมีการประชุม กมธ. แต่คาดว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง จะได้นั่งตำแหน่งประธาน กมธ.งบฯ ตามธรรมเนียม ขณะที่พรรค ก.ก.จะยังไม่รับตำแหน่งใดๆ ใน กมธ.เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
วันเดียวกัน นายเศรษฐายังกล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายช่วยภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยให้ต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมได้ 75% จากเดิม 49% ได้มีการสั่งการกระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ ว่ามีอยู่ 2 เรื่อง โดยมีข้อเสนอแนะจากกระทรวงการคลังขึ้นมาเพื่อผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่หนึ่งคือการเช่าระยะยาว ซึ่งมีกฎหมายอยู่แล้ว 30 ปี เป็น 50+50 แต่เราคิดว่าถ้าทำเป็น 99 ปีมันจะดีกว่า ซึ่งไม่ได้เป็นการซื้อขายขาด ซึ่งในทุกประเทศเขาก็มีให้เช่า ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือการถือครองคอนโดฯ ของชาวต่างชาติในการออกเสียงจาก 49% เป็น 75% ตรงนี้ต้องลงรายละเอียดนิดหนึ่ง คือคนที่มีสิทธิ์โหวตให้นิติบุคคลทำอะไรต่างๆ ได้ก็อยู่แค่ 49% แสดงว่าคนไทยก็ยังเป็นใหญ่ เพราะยังถืออยู่ 51% แต่การขึ้นจาก 49% ไปเป็น 75% ซึ่ง 26% ตรงนี้เป็นส่วนที่เกินมาจะไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียงโหวตอะไร ได้เพียงแต่เข้าไปอยู่อาศัยได้เท่านั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่มีเสียงวิจารณ์เรื่องการเอื้อประโยชน์ให้นายทุน นายเศรษฐากล่าวว่า คิดว่าคงไม่ได้กระทบอะไร เพราะเรื่องที่เราจะเช่าระยะยาวก็มีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้โครงการลักษณะนี้เคยถูกพับไปรอบหนึ่งแล้ว รัฐบาลนี้อาจต้องพิจารณาให้รอบคอบมากขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เข้าใจว่าเรื่องที่ถูกพับไปเป็นเรื่องขายที่ดิน อันนี้เป็นประเด็นใหญ่มากกว่า ซึ่งเราไม่ได้เสนอตรงนี้เข้ามา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อนายกฯเคลียร์MOUสยบม็อบ
อิ๊งค์พร้อม! จัดชุดใหญ่แถลงผลงานรัฐบาล ลั่นรอจังหวะไปตอบกระทู้
พปชร.ขับก๊วนธรรมนัส ตัดจบที่ดิน‘หวานใจลุง’
"บิ๊กป้อม" ไฟเขียว พปชร.มีมติขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัสพ้นพรรค "ไพบูลย์" เผยเหตุอุดมการณ์ไม่ตรงกัน
รบ.อิ๊งค์ไม่มีปฏิวัติ! ทักษิณชิ่งสั่งยึดกองทัพ เหน็บอนุทินชิงหล่อเกิน
"ทักษิณ" โบ้ยไม่รู้ "หัวเขียง" ชงแก้ร่าง กม.จัดระเบียบกลาโหม
คิกออฟแพ็กเกจแก้หนี้ ลุ้นบอร์ดขึ้นค่าแรง400
นายกฯ เผยข่าวดี ครม.คลอดชุดใหญ่แก้หนี้ครัวเรือน "คลัง-แบงก์ชาติ"
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
นายกฯ อิ๊งค์บอกข่าวดี! เมียนมาจะปล่อย 4 คนไทยหลังปีใหม่
นายกฯ เผยข่าวดีปม 4 คนไทยเรียบร้อยหลังปีใหม่ ส่วนเรื่องคดีความต้องคุยกันต่อ