“คลัง” กลับลำ “สมาร์ทโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า” จ่อแห้วร่วมดิจิทัลวอลเล็ต แจง “เศรษฐา” สั่งถอยหลังสังคมวิจารณ์หนัก โยนการบ้านพาณิชย์เร่งกลับไปพิจารณา ขีดเส้น 1 สัปดาห์ได้ข้อสรุป "จุลพันธ์" รับการเมืองร้อนระอุขย่มดัชนีตลาดหุ้นไทยดิ่งต่อเนื่อง มั่นใจแค่ช่วงสั้นหลังสถานการณ์คลี่คลายตลาดทุนจะกลับเป็นปกติ ขณะนักลงทุนผวา 3 คดีการเมือง ส่งผลดัชนีหุ้นไทยหลุด 1,300 จุด
เมื่อวันจันทร์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปทบทวนเรื่องสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ (Negative List) โดยเฉพาะสินค้าอิมพอร์ตคอนเทนต์ อาทิ สมาร์ทโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ข้อสรุปแล้วว่าสินค้าดังกล่าวสามารถเข้าร่วมโครงการได้ เนื่องจากถือเป็นปัจจัยที่ 5 และเป็นเครื่องมือทำมาหากิน โดยให้กลับไปเร่งพิจารณาและนำข้อสรุปมาเสนออีกครั้งในสัปดาห์หน้า
“เรื่องสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าตอนนี้ยังไม่จบ เพราะหลังจากที่มีข่าวออกไปก็มีการถกเถียงกันในสังคม ก็ถือว่าเป็นข้อดีของสังคมประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟัง และนายกฯ ได้แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงอยากให้ส่วนงานที่รับผิดชอบกลับไปทบทวนเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ดังนั้นที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปทบทวนอีกครั้ง เพราะต้องเข้าใจก่อนว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภคและการผลิตภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลก็ห่วงว่าสินค้าอิมพอร์ตคอนเทนต์นี้ เมื่อมีการใช้จ่ายเงินซื้่อในรอบแรก เงินจะไหลไปต่างประเทศ ซึ่งอาจจะผิดคอนเซปต์ของโครงการ” นายจุลพันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยอมรับว่าประเด็นเรื่องอิมพอร์ตคอนเทนต์ค่อนข้างกว้างมาก และมีความยากในเรื่องการกำกับดูแลพอสมควร เช่นกรณีเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีทั้งที่ผลิตในประเทศและนอกประเทศ ตรงนี้ก็ต้องหาวิธีการกำหนด การกำกับที่จะสามารถทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะสินค้าอิมพอร์ตคอนเทนต์ไม่ได้มีแค่เฉพาะสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือในรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการลงทะเบียนของประชาชนและร้านค้า ซึ่งยังยืนยันตามกำหนดการเดิมคือ ในไตรมาส 3/2567 รวมถึงการเชื่อมระบบในลักษณะ Open Loop ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องหารือในรายละเอียดต่อไป และจะต้องมีการพูดคุยกับส่วนงานที่ไม่ใช่ราชการ เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มระบบอีเพย์เมนต์ เป็นต้น รวมถึงมีการพูดคุยถึงกลไกในการเปิดช่องทางเพื่อให้ประชาชนสามารถยื่นอุทธรณ์สิทธิ์ได้ และเร็วๆ นี้รัฐบาลจะเร่งประชาสัมพันธ์โครงการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจนให้แก่ประชาชน
"ยืนยันว่าประชาชนทุกกลุ่มจะได้รับเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทพร้อมกันทั้งหมด ไม่มีการให้แยกกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก่อนแน่นอน และยืนยันอีกว่าระบบการลงทะเบียนของรัฐที่เตรียมไว้จะสามารถรองรับความต้องการของประชาชนได้อย่างแน่นอน ส่วนประเด็นเรื่องการสอบถามไปยังกฤษฎีกา กรณีดึงเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1.72 แสนล้านบาทมาใช้เพื่อรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ยังไม่ได้ดำเนินการ โดยจะทำเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำ เพราะขณะนี้ยังมีเวลา" นายจุพลันธ์กล่าว
นายจุลพันธ์กล่าวถึงกรณีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ว่า หลักๆ คงเป็นประเด็นความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ โดยเฉพาะจากสถานการณ์ทางการเมือง เพราะในเดือน มิ.ย.นี้มีปัจจัยทางการเมืองหลายอย่างที่เข้ามาพร้อมกัน ก็อาจจะทำให้เกิดความลังเลและความสงสัยในหมู่นักลงทุนในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นเท่านั้น เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย มีความชัดเจนในทิศทางต่างๆ มากขึ้น ก็เชื่อว่าสถานการณ์ทางด้านการค้าและการลงทุนจะกลับมาเป็นปกติได้
ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กำลังเร่งพิจารณาสร้างกลไกและหาช่องทางในการกระตุ้น และสร้างความเชื่อมั่นในการสนับสนุนการลงทุนให้ตลาดทุนไทยที่มีความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาเรื่องกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือกองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย (Thai ESG) เหล่านี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
นายจุลพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งบุคลากรด้านตลาดทุนว่า ยืนยันว่ารัฐบาลมีความโปร่งใส แต่เรื่องนี้อยู่นอกเหนือการกำกับของตน ส่วนประเด็นการแต่งตั้ง เลขานุการ รมช.การคลังนั้น ทันทีที่ทราบเรื่องก็ได้แสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขอย่างทันทีภายใน 1 วัน ตรงนี้จึงไม่มีประเด็นอะไร ส่วนกระบวนการทำงานต่างๆ ไม่ได้มีการเข้าไปแทรกแซงหรือเข้าไปมีความพยายามใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ได้ชี้แจงกรณีการแต่งตั้งนายธันว์ วุฒิธรรม เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง [นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์]) โดยยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องคดีความมาก่อน และทราบภายหลังการแต่งตั้งแล้วจากข่าว โดยนายธันว์ได้ทำงานในคณะทำงานมาระยะหนึ่ง โดยไม่เคยมีพฤติกรรมเสื่อมเสียหรือผิดกฎหมาย หลังจากทราบข่าวเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายจุลพันธ์ ก็ได้พูดคุยกับนายธันว์และทราบว่าคดีอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ โดยนายธันว์พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และได้ขอลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ
นายจุลพันธ์ระบุว่า ตนไม่เคยกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายธันว์ไม่เคยหารือเรื่องคดีด้วย พร้อมทั้งย้ำว่าไม่เคยใช้ความสัมพันธ์ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ใดๆ หากแทรกแซงคดีคงไม่ปรากฏในช่วงที่ผ่านมา และยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากความหละหลวมของตน และขอโทษกับความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ นายธันว์ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษในความผิดปั่นหุ้น บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN พร้อมกับพวกรวม 12 คน นำโดยนายชนน วังตาล และถูกสั่งปรับจำนวน 1.16 ล้านบาท พร้อมถูกสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเวลา 20 เดือน ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 40 เดือน
มีรายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนไทย อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงหลุด 1,300 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อ 3 ปัจจัยจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ ได้แก่ คดีนายทักษิณผิดมาตรา 112, คดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา) และคดียุบพรรคก้าวไกล ทำให้มีแรงขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,296.59 จุด ลดลง 9.97 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.76% มูลค่าการซื้อขาย 40,649.58 ล้านบาท
ขณะที่ราคาทองคำภายในประเทศ แม้ตลอดทั้งวันจะปรับขึ้นและลดลงรวม 5 ครั้ง แต่ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ราคาทองคำไทย ทองแท่งรับซื้อที่บาทละ 40,350 บาท ขายออกที่บาทละ 40,450 บาท ส่วนราคาทองคำรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 39,628.24 บาท ขายออกที่บาทละ 40,950 บาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทร.บวงสรวง เรือพระที่นั่ง นำลงน้ำ4ก.ค.
สิริมงคล "กองทัพเรือ" บวงสรวงเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค
ไฟเขียวรบ.ก่อหนี้ใหม่ กู้ทะลุ1ล้านล้านบาท
ครม.อนุมัติปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่สอง ปีงบ 67
ครม.สัญจรหนีม็อบ ทุ่มงบเอาใจอีสาน
"เศรษฐา" หลบม็อบเหมืองโปรแตช เปลี่ยนเส้นทางพร้อมเลิกชมนิทรรศการ
กฤษฎีกาเบรกชาญนายกอบจ.
เลขาฯ ป.ป.ช.แจงปมชี้มูล “ชาญ” ทุจริตอยู่ขั้นสืบพยานในชั้นศาล
วุ่น!เลื่อนรับรองสว. กกต.ไม่ทันแห่ร้องฮั้วอื้อ จับตาเลือก‘ปปช.-ตศร.’
"กกต." วุ่น! เจอแห่ร้องเรียนเลือก สว.รายวัน ต้องเพิ่มเวลาตรวจสอบ
ดันไทยสารพัดศูนย์กลาง จับตากวาดล้างยาเสพติด
"เศรษฐา" ร่อนอีสานตีปี๊บโคราชโมเดล มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต