‘ก้าวไกล’ขู่ถล่มอภิปรายงบปี68

ศึกงบ 68 เดือดแน่! “ก้าวไกล” ปล่อยแคมเปญโหมโรง "เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้"  จัดทัพใหญ่ 34 สส.รอกะซวกดิจิทัลวอลเล็ต-งบกองทัพ "เพื่อไทย" มั่นใจผ่านฉลุย "อุ๊งอิ๊ง" คุมเอง วาง 20 ขุนพลหลักอภิปรายหนุนงบรายกระทรวง  “ธนกร” ดักคอฝ่ายค้าน ไม่ใช่เวทีซ้อมซักฟอกรัฐบาล เลี่ยงวาทกรรมรุนแรง ตีปี๊บ "คุยกับเศรษฐา"  เทปแรก รอชมนายกฯ ถอดสูทเปิดเบื้องหลังการทำงาน

วันที่ 16 มิถุนายน น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความพร้อมของรายการ "คุยกับเศรษฐา" ซึ่งจะออกอากาศตอนแรกในวันเสาร์ที่ 22 มิ.ย.นี้ ทางช่อง NBT ว่า เป็นรายการสนทนาวิสัยทัศน์ มุมมอง และแนวทางการทํางานของรัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รายการดังกล่าวจะมีพิธีกรสลับกันมาทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อสงสัยและข้อคําถามของพี่น้องประชาชนจากแหล่งต่างๆ มาสอบถามโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันยังเป็นเวทีที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นํารัฐบาล จะได้ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงรายงานความคืบหน้าการทํางาน ทำให้ประชาชนได้ทราบถึงทิศทางของนโยบาย  บทบาทและหน้าที่ของรัฐบาล

โดยในเทปแรก ผู้ชมจะได้เห็นนายกรัฐมนตรีในภาพลักษณ์กระฉับกระเฉง ทะมัดทะแมง แบบถอดสูทพับแขนเสื้อ พูดคุยกับพิธีกรถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในบรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยในแต่ละเทปจะมีการถ่ายทำในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไปตามเนื้อหาที่จะมีการพูดคุยในรายการ ทั้งนี้ เชิญชวนทุกคนติดตามรายการ "คุยกับเศรษฐา" ซึ่งจะออกอากาศทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือน เวลา 08.00-08.30 น.

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานหัวหินในการรับเที่ยวบินพาณิชย์ เพื่อมุ่งให้เป็นฮับสำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ร่วมลงพื้นที่ด้วย

 ต่อมานายเศรษฐาทวีตผ่าน X ว่า สนามบินเพชรหัวหินคืบหน้าไปมาก เราเดินสู่การเป็น Aviation Hub และ Tourism Hub วันนี้ใช้เวลาช่วงวันหยุดมาตรวจความพร้อมของที่นี่อีกครั้ง เพราะตอนนี้มีสายการบินพาณิชย์ของแอร์เอเชียเปิดให้บริการในเส้นทางบินหัวหิน-เชียงใหม่แล้ว วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นประตูบานหนึ่งสู่การเป็น Aviation Hub และ Tourism Hub โดยทางสายการบินแอร์เอเชียพร้อมเปิดเส้นทางบินจากภูมิภาคอื่นทั้งอีสานและใต้มาลงที่นี่เพิ่มเติมด้วย ซึ่งได้กำชับ รมว.คมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคม  เร่งดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการ และประสานกับสายการบินพาณิชย์ต่างๆ ที่พร้อมให้บริการในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมาก

วันเดียวกัน นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุม สส.พรรคในวันที่ 17 มิ.ย.ว่า เป็นการประชุม สส.เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งจะมีเรื่องของการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และการวางขุนพลเพื่อที่จะอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 19-21 มิ.ย.

ถกงบ 68 อุ๊งอิ๊งคุมเอง

นายดนุพรกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลงมาดูเอง และบอกว่าอยากให้มีคนพูดถึงนโยบายกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะ ไม่ใช่ สส.มาลงชื่อ แต่ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรบ้าง บางคนพูดซ้ำกัน ซึ่งประชาชนจะงงและน่าเบื่อ ดังนั้นในการอภิปรายครั้งนี้ จึงมีการวางขุนพลหลักๆ ไว้ประมาณ 20 คนที่จะมาพูดในรายกระทรวงนั้นๆ แต่หากมี สส.ที่จะพูดเสริมในรายกระทรวงนั้นๆ สามารถจะทำได้ ซึ่งจะเป็น สส.รุ่นใหม่ที่จะสื่อสารไปถึงประชาชนว่าการจัดทำงบประมาณในปีนี้มีนโยบายอะไรบ้าง หลักการในการจัดทำงบประมาณเป็นอย่างไรบ้าง โดยในวันที่้ 17 มิ.ย. นอกจากจะมีการประชุม สส.ของพรรคแล้ว จะมีการซักซ้อมผู้ที่จะอภิปรายหลักๆ ด้วย

เมื่อถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตและโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย จะต้องมีการอภิปรายสนับสนุนหรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า จะมีผู้ที่อภิปรายทุกด้านอยู่แล้ว ซึ่ง สส.ของรัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายค้าน คนที่จะตอบโต้หรือลุกขึ้นชี้แจงได้ก็คือรัฐมนตรี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ฝ่ายค้านจะมีข้อท้วงติงในเรื่องของการจัดงบประมาณ ไม่น่าห่วงอะไร ทั้งนี้ มั่นใจร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 ผ่านสภา ซึ่งเป็นงบประมาณปีแรกที่รัฐบาลนายเศรษฐาทำเอง และเป็นความรับผิดชอบของพรรคร่วมรัฐบาล 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกกระทรวงพร้อมตอบทุกคำถาม

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ  และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า รัฐบาล รวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติมีความพร้อม ทั้งนี้ อยากเห็นการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ หากมีการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ สามารถทำได้ตามหลักการ ไม่ใช้อารมณ์หรือวาทกรรมทางการเมือง ไม่อยากเห็นการใช้เวทีอภิปรายงบประมาณ เป็นเวทีซักซ้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นขอให้หลีกเลี่ยงการใช้วาทกรรมที่รุนแรง เลี่ยงการสร้างคอนเทนต์ดรามาเพื่อเอาไปลงในโซเชียล ขอให้ยึดผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ไม่คิดตีกินทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลเปิดแคมเปญการเมือง สำหรับการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2568 ในช่วง 19-21 มิ.ย. ภายใต้ชื่อแคมเปญว่า "เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้" โดยช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพจพรรคก้าวไกลได้เผยแพร่โปสเตอร์แคมเปญดังกล่าวพร้อมข้อความในเพจ ในหัวข้อ "เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้" โดยระบุว่า

"แม้ดิจิทัลวอลเล็ตจะเป็นนโยบายเรือธงตอนหาเสียงเลือกตั้ง แต่รัฐบาลกลับไม่มีความพร้อมในการทำนโยบายให้เกิดขึ้นจริง ได้แต่ตามแก้ไขปะผุไปตามสถานการณ์เรื่อยมา ซ้ำร้ายเมื่อรัฐบาลมีอำนาจเต็มในการจัดสรรงบประมาณปี 2568 จำนวน 3.7 ล้านล้านบาท กลับทำได้เพียงซุกซ่อนเบียดบังงบส่วนอื่นๆ ตัดลดโครงการดีๆ จำนวนมาก เพื่อกันเงินไว้สำหรับใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยไม่สนว่าประเทศต้องเสียโอกาสอะไรไปบ้าง ไม่ห่วงว่าจะทำร้ายอนาคตอย่างไร ตรงกับวลีที่ว่า เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ พรรคก้าวไกลพร้อมชำแหละปัญหาของงบ 68 และเสนอแนวทางการทำงบประมาณแบบก้าวไกลที่สามารถระเบิดศักยภาพประเทศระดับบิ๊กแบง สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนอยากเห็นและประเทศไทยที่มีอนาคต พบกัน 19-21 มิถุนายน 2567"

ด้านนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่ติดตามตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงกลาโหมและกองทัพมาตลอด เผยว่า กำลังศึกษารายละเอียดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ ซึ่งจะมีเรื่องของงบการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธของเหล่าทัพ โดยพบว่ารูปแบบการตั้งงบจะเขียนไว้ในโครงการต่างๆ เช่น งบในโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ งบในโครงการซ่อมแซมและปรับปรุงยุทโธปกรณ์ ซึ่งได้แจ้งกับพรรคเบื้องต้นว่าจะขอใช้สิทธิ์อภิปราย โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลที่ตนมียังไม่ดีพออาจไม่อภิปรายก็ได้ แล้วไปใช้สิทธิ์อภิปรายตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2568 วาระสองแทน

เปิดไส้ใน 'งบทหาร'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ของกระทรวงกลาโหมและงบกองทัพ พบว่างบในส่วนของกระทรวงกลาโหมรอบนี้ ได้งบร่วม 200,923,780,500 บาท ขณะที่งบของกองทัพบกได้ 96,605,260,400 บาท โดยมีงบหลายตัวที่น่าสนใจและฝ่ายค้านอาจมีการอภิปราย เช่น ค่าใช้จ่ายในการเรียกเกณฑ์และตรวจเลือกทหารกองประจำการ 125,447,500 บาท ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ 3,014,053,800 บาท เงินราชการลับ  290,046,000 บาท

งบค่าใช้จ่ายในการเสริมสร้างกำลังกองทัพ เช่น ค่าใช้จ่ายในการฝึก ศึกษาทางการทหาร 2,653,538,700 บาท, ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุน การส่งกำลังและซ่อมบำรุง และผลิตเพื่อแจกจ่าย 3,903,603,400 บาท, ค่าใช้จ่ายในการจัดหาส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนซ่อมคงคลัง 1,095,000,000 บาท, ค่าใช้จ่ายในการเตรียมกำลังพลสำรองเพื่อป้องกันประเทศ 93,960,000 บาท, งบในโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ 2,699,089,600 บาท, โครงการซ่อมแซมและปรับปรุงยุทโธปกรณ์ 2,902,008,700 บาท, โครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรอง  เช่น ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 197,347,400 บาท และงบโครงการจัดหายุทโธปกรณ์สนับสนุนหน่วยในการปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 326,077,000 บาท เป็นต้น

ขณะที่งบลับ-เงินราชการลับ พบว่าทั้งกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ยังคงตั้งงบดังกล่าวไว้เหมือนทุกปี เช่น เงินราชการลับของกองทัพเรืออยู่ที่ 62,694,000 บาท ส่วนกองทัพอากาศอยู่ที่ 30,000,000 บาท, กองทัพบก 290,046,000 บาท เป็นต้น

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลได้เวลาในการอภิปรายประมาณกว่า 800 นาที และมี สส.ของพรรคแจ้งความจำนงจะขออภิปรายประมาณ 34 คนแล้ว โดยตอนนี้กำลังติว สส.ที่จะอภิปรายเพื่อเตรียมข้อมูลและประเด็นการอภิปราย ทั้งนี้ จะมีการอภิปรายงบประมาณเกือบทุกกระทรวง โดยจะมีไฮไลต์การอภิปรายสลับกันไป ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเรื่องที่หลายคนสนใจ เช่นงบที่จะทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะพบว่ามีการตั้งงบไว้สำหรับทำโครงการดังกล่าวไว้สูงมาก รวมถึงนโยบายหลักๆ รัฐบาลที่อยู่ในกระทรวงต่างๆ ทั้งในส่วนกระทรวงกลาโหม กองทัพด้วย

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผู้อภิปรายจะได้รับผิดชอบในประเด็นที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ซึ่งธีมใหญ่จะแบ่งออกเป็นสองด้าน ดังนี้ ด้านแรก ชี้ให้เห็นว่าทำไมงบ 68 ที่รัฐบาลจัดสรรไม่ตอบโจทย์กับอนาคตของประเทศ แต่กลายเป็นการจัดสรรที่เบียดบังทุกส่วน เพื่อทุ่มให้กับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และอีกด้านจะฉายภาพให้เห็นว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะจัดสรรงบให้ดีกว่านี้ได้อย่างไร เพื่อระเบิดศักยภาพของประเทศ และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนจับต้องได้ ซึ่งจะล้อไปตาม 6 บิ๊กแบง

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากที่ได้ศึกษาดูเอกสารร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2568 แล้ว เห็นว่างบประมาณดังกล่าวไม่ค่อยแตกต่างอะไรกับงบประมาณในปีที่ผ่านๆ สิ่งที่น่ากังวลคือรัฐบาลจะมีรายได้ตามเป้าจริงหรือไม่ ทำให้รัฐบาลต้องกู้เพื่อชดเชยเงินคงคลังสูงขึ้นไปอีก ยิ่งกู้มากรัฐบาลก็เสี่ยงต่อการกู้ชนเพดานอันจะเกิดผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องให้ความกระจ่างกับประชาชนคือ เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสามารถซื้อโทรศัพท์ได้หรือไม่ เพราะถ้าหากซื้อได้ อาจเป็นการเอื้อนายทุนค่ายมือถือรายใหญ่ที่ขายเครื่องพร้อมแพ็กเกจให้กับประชาชน โดยใช้เงินจากโครงการของรัฐบาลงบปี 2568.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง