“บิ๊กเต่า” ลั่นเอาจริงเร่งทำคดีเรือน้ำมันเถื่อนล่องหน พร้อมตอบประชาชนทุกข้อสงสัยสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะเรื่องฟันวินัย-อาญาเจ้าหน้าที่เอี่ยว “ผู้บังคับการตำรวจน้ำ” คาดลอยลำอยู่ในน่านน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.2567 ยังคงมีความต่อเนื่องกรณีเรือบรรทุกน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร ซึ่งเป็นของกลางจำนวน 3 ลำ หายจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบเส้นทางการเดินเรือ พบว่าเรือทั้ง 3 ลํามุ่งลงไปยังภาคใต้แล้ว โดยล่องจากพื้นที่ประเทศกัมพูชาไปทางเวียดนาม ก่อนเข้าสู่พื้นที่ภาคใต้ของไทย ซึ่งผู้บังคับการตำรวจน้ำได้ประสานกับทางการของทุกประเทศ รวมถึงทางการมาเลเซีย เพื่อติดตามเรือทั้ง 3 ลํา รวมถึงกดดันให้ผู้กระทําผิดเข้ามอบตัว ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีและมีแนวโน้มเชิงบวก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติยังกล่าวถึงการเรียกผู้ต้องหาทั้ง 16 คนมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย.ว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือส่งไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่อาจมีบางรายที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ ซึ่งต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบพยานทุกปากในที่เกิดเหตุเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
สําหรับการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติยืนยันว่า ได้ทำทุกมิติ หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินการทั้งหมด เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลล้วงคองูเห่า เรายอมไม่ได้ ยังไงเราก็ต้องสู้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติยังกล่าวถึงการตรวจสอบทางวินัยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ว่า ได้กำชับไปยังผู้บังคับการตำรวจน้ำและผู้บังคับการ บก.ปปป. ให้ดำเนินการมีความคืบหน้าภายใน 7 วัน เพื่อให้เห็นแนวโน้มข้อสรุป ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ระยะเวลายืดยาวออกไป ต้องสามารถตอบคำถามสังคมได้ และจะพยายามให้เรื่องนี้จบภายในสัปดาห์หน้า ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจ เพราะว่า ผบช.ก.ได้สั่งการให้ตนลงมาควบคุมดูแล และสั่งการขั้นเด็ดขาดให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะดำเนินการในข้อกล่าวหาบกพร่องจนทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการอย่างร้ายแรง
ด้าน พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.) กล่าวถึงการเอาผิดความบกพร่องต่อหน้าที่ ว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติกำลังสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบการดูแลของกลางที่สูญหายไป รวมทั้งการติดตามเพื่อดำเนินคดีกับบรรดาลูกเรือที่หายไปกับเรือด้วย โดยทีมสืบสวนของกองปราบฯ กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวต่อว่า ส่วนหน้าที่ของ บก.รน. คือติดตามหาเรือของกลางที่สูญหายไปทั้ง 3 ลำ ซึ่งมีการประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตลอด ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า มีผู้พบเห็นเรือน้ำมันของกลางทั้ง 3 ลำไปอยู่ในน่านน้ำของกัมพูชานั้น เรื่องนี้มีการตรวจสอบแล้ว ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง ล่าสุดจากการประสานกันระหว่าง 4 ประเทศที่มีน่านน้ำติดกันคือ กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และไทย ทำให้พอที่จะทราบว่าเรือทั้ง 3 ลำน่าจะยังลอยลำอยู่ในน่านน้ำที่เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ค่อนออกไปทางทะเลหลวงใกล้ๆ กับน่านน้ำทะเลของมาเลเซีย ซึ่งได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ลูกเรือจะพาเรือไปถ่ายน้ำมันออกแล้วยอมทิ้งเรือไว้นั้น พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวว่า จากสมมุติฐานราคาน้ำมันของกลาง 3 แสนลิตร ถ้าขายอยู่ในวงการน้ำมันราคาอยู่ที่ลิตรละ 10-12 บาทเท่านั้น ตีราคาทั้งหมดราคาราวๆ 3 ล้านบาท ซึ่งถ้าในวงการจะรู้กันว่าไม่ได้เยอะมาก แต่เรือของกลางจากสภาพล่าสุด พบว่าราคาสูงอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทต่อลำ จึงเป็นไปได้ยากที่จะเอาแต่น้ำมันแล้วทิ้งเรือไว้ เพราะมันไม่คุ้มค่าน่าจะตัดประเด็นนี้ทิ้งได้เลย
พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์กล่าวถึงกรณีพบเห็นคราบสีดำคล้ายๆ กับคราบน้ำมันลอยอยู่ในทะเลแถวพัทยาและหาดจอมเทียน จนเกิดข้อสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีเรือน้ำมันเถื่อนสูญหายหรือไม่นั้น ว่าได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้ว ทราบว่าคราบสีดำที่พบเห็นลอยอยู่ในทะเลนั้นปรากฏว่าเป็นน้ำเสียที่ถูกลักลอบปล่อยมาลงทะเล ซึ่งจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ได้มีการพบคราบน้ำมันในทะเลบริเวณอ่าวเมืองพัทยากระจายตัวเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะแนวชายหาดบริเวณติดเขื่อนกันคลื่นของโอเชียนมารีน่า ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นระยะทางยาวราว 100 เมตร โดยยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า สิ่งที่พบจะเป็นคราบน้ำมันหรือไม่ ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทร.บวงสรวง เรือพระที่นั่ง นำลงน้ำ4ก.ค.
สิริมงคล "กองทัพเรือ" บวงสรวงเรือพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค
ไฟเขียวรบ.ก่อหนี้ใหม่ กู้ทะลุ1ล้านล้านบาท
ครม.อนุมัติปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่สอง ปีงบ 67
ครม.สัญจรหนีม็อบ ทุ่มงบเอาใจอีสาน
"เศรษฐา" หลบม็อบเหมืองโปรแตช เปลี่ยนเส้นทางพร้อมเลิกชมนิทรรศการ
กฤษฎีกาเบรกชาญนายกอบจ.
เลขาฯ ป.ป.ช.แจงปมชี้มูล “ชาญ” ทุจริตอยู่ขั้นสืบพยานในชั้นศาล
วุ่น!เลื่อนรับรองสว. กกต.ไม่ทันแห่ร้องฮั้วอื้อ จับตาเลือก‘ปปช.-ตศร.’
"กกต." วุ่น! เจอแห่ร้องเรียนเลือก สว.รายวัน ต้องเพิ่มเวลาตรวจสอบ
ดันไทยสารพัดศูนย์กลาง จับตากวาดล้างยาเสพติด
"เศรษฐา" ร่อนอีสานตีปี๊บโคราชโมเดล มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต