เด้ง‘ผู้พัน’ดูดส้วม หัวคิวทหารเกณฑ์ กห.สั่งสอบทั่วปท.

เด้ง "ผู้พันดูดส้วม" ปมเอกสารตั้งแท่นตัดเงินทหารเกณฑ์ "สุทิน"   แจงแค่ตั้งเรื่อง สั่งจเรทหารตรวจสอบทั่วประเทศ เชื่อมีไม่มาก  "นายกฯ" รับไม่ได้ ลั่น รมว.กลาโหมรู้หน้าที่ควรทำอะไร  "วิโรจน์" ซัด รมต.มัวแต่ "งง" จี้แก้ที่ระบบ ออกระเบียบคุม จองกฐิน งบฯ กห. เคลมผลงานลดกำลังพล ทั้งที่เป็นแผนเดิม ประหยัดงบแค่จิ๊บๆ

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่เอกสารการหักค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ใหม่ สังกัดกองพันทหารเกณฑ์เสนารักษ์ที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ที่มีการระบุค่าดูดส้วม จำนวน 500 บาท ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ตนเข้าใจว่านายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ก็คงจะมีการตรวจสอบ เพราะเรื่องนี้ไม่สมควรจะเกิดขึ้น และยอมรับไม่ได้ เมื่อถามว่าเงินของทหารเกณฑ์มีประเด็นที่ถูกหักออกไปเยอะ นายกฯ จะกำชับอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าเขารู้หน้าที่อยู่แล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร

ทางด้าน พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวชี้แจงว่า เบื้องต้นได้สั่งย้าย พ.อ.อาชวิน อัคพิน ผู้บังคับกองพันของกองพันส่งกำลังและบริการที่ 22 ไปช่วยราชการที่กองทัพภาคที่ 2 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน ทั้งนี้ มีข้อมูลบางส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงและข้อมูลบางส่วนที่ไม่จริง โดยเอกสารดังกล่าวทางผู้ฝึกได้นำเสนอไปยังผู้พัน โดยผู้พันจะทำหน้าที่พิจารณาและกลั่นกรองว่าควรหักค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องค่าดูดส้วมหรือค่าประกอบเลี้ยงพิเศษ จะโดนตัดออกในตอนท้ายอยู่แล้ว ซึ่งไปหักค่าใช้จ่ายไม่ได้ เพียงแต่เอกสารดังกล่าวได้หลุดออกไปก่อน ซึ่งเอกสารที่ผ่านการกลั่นกรองแล้ว จะมีรายละเอียดที่ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อแก้ตัว ส่วนกรณีที่มีการสั่งย้ายผู้พันไปช่วยราชการไว้ก่อนนั้น เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ ต้องดูแลกำลังพล ซึ่งเป็นบุตรหลานของประชาชนที่เข้ามาเป็นทหารกองประจำการ และยอมรับว่าข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบภาพลักษณ์ของกองทัพ จึงอยากขอความเป็นธรรม

กองทัพบกได้ออกเอกสารชี้แจงว่า  กองทัพบกได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันส่งกำลังและบริการที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (พัน.สบร.22บชร.2) เพื่อใช้สำหรับการประชุมหารือพิจารณาความเหมาะสมในการจัดการค่าใช้จ่ายของทหารใหม่และหน่วยฝึก โดยยังไม่ได้มีการอนุมัติหรือดำเนินการหักเงินของทหารใหม่ตามรายการในเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันหลังจากที่ทางหน่วยฝึกได้ประชุมพิจารณารายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นไปตามแนวทางการฝึกทหารใหม่ของกองทัพบกแล้ว ทางหน่วยได้มีการปรับรายการใหม่ โดยไม่มีการหักค่าสาธารณูปโภค 990 บาท คงเหลือเงินจ่ายให้ทหารใหม่จำนวน 6,170บาท ส่วนรายการค่าเครื่องแต่งกายเพิ่มเติม เช่น ชุดวอร์ม, ชุดฝึกพราง และกระเป๋า เป็นการอำนวยความสะดวกของหน่วยฝึกในการจัดหาของใช้เพิ่มเติมให้กับทหารใหม่เป็นส่วนรวม ซึ่งทางหน่วยฝึกได้มีการสอบถามและชี้แจงให้ทหารใหม่ได้รับทราบแล้ว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า กองทัพบกมีหน่วยฝึกทหารใหม่มากกว่า 200 หน่วย ไม่เคยมีการเรียกเก็บค่าสูบส้วมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดของหน่วยงานใด กระทรวงกลาโหมและกองทัพบกจะดำเนินการลงโทษตามระเบียบต่อไป

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า เท่าที่ตนได้สอบถาม เข้าใจว่าคนบันทึกเสนอหักเงินมาอาจจะไม่เข้าใจรายละเอียดและระเบียบ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่อนุญาตอนุมัติ ส่วนที่มองว่าไม่ควรเสนอตั้งแต่แรกนั้น คนเสนออาจจะไม่รู้เรื่อง ตนมองว่าไม่ควรไปดูที่คนเสนอ แต่ดูที่คนอนุมัติ และดูข้อเท็จจริงว่าหักจริงตามนั้นหรือไม่ เพราะเท่าที่ฟังมายังไม่มีการหัก ยืนยันว่าคนผิดจะต้องมีคนรับผิด ถูกลงโทษ และและต้องให้ความเป็นธรรมเขา แต่เมื่อเกิดเรื่องแล้วเราไปชี้ นั่นเท่ากับเรายังไม่ให้ความเป็นธรรมเขา แต่ถ้าชี้แล้วผิด เราดำเนินการอยู่แล้ว ถ้าตนปกป้องกองทัพ ประชาชนก็ไม่ปกป้องตนอย่างไรก็ตามได้สั่งจเรทหารลงไปตรวจสอบดูภาพรวมทั่วประเทศ ซึ่งก็ยังไม่มีรายงานขึ้นมา

เมื่อถามว่า พอเกิดเรื่องขึ้นมาหลายคนมองว่ากองทัพเป็นแดนสนธยา เพราะมีการหักหัวคิวใช่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คงไม่ใช่แบบนั้น น่าจะอยู่ในระยะปรับตัว ซึ่งอาจจะทำมาก่อน ที่ตนมอบนโยบายไป เพราะฉะนั้นตนได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย ก็น่าจะเชื่อว่าอยู่ระหว่างการปรับตัว ซึ่งวันนี้ก็มีการปรับตัวกันมาก เพราะเราส่งสัญญาณชัดมากๆ  เราก็ดำเนินการในเคสนี้ และตนคิดว่า เคสต่อๆ ไปก็ไม่น่าจะมี

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าโทษที่คน ต้องโทษที่ระบบ ตนเชื่อว่าการหักค่าสูบส้วมไม่ได้เกิดขึ้นในรุ่นนี้ น่าจะหักกันมาหลายรุ่นแล้ว ดังนั้นควรทำให้เป็นระบบทันที นายสุทินจะได้ไม่ต้องงงแล้ว

“ถ้าลำพังคุณสุทินยังคิดได้แค่นี้ว่าเดี๋ยวฉันจะสั่งการเรื่องค่าสูบส้วม งงว่าทำไมไม่ทำตาม เดี๋ยวจะมีค่าเอกสารอีก เดี๋ยวจะมีค่า Wi-Fi อีก แล้วก็จะงงอีก แล้วสั่งการไปแล้วไม่ให้หักค่า Wi-Fi ทำไมยังหักอีก เฮ้ย งง ผมว่ารัฐมนตรีไม่ใช่มาสั่งอะไรแบบนี้หรอก ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องสูบส้วม คงต้องคิดค่ากระดาษชำระด้วย”

เมื่อถามว่า 1,200 บาทสำหรับค่า Wi-Fi แพงไปหรือไม่ นายวิโรจน์หัวเราะและกล่าวว่า แพงไปจริงๆ ซื้ออินเทอร์เน็ตเองน่าจะถูกกว่า ตอนที่ตนพูดถึงเรื่องการจัดซื้ออาวุธ ควรจะสั่งการดันไปขอร้อง เรื่องที่ขอร้องดันไปสั่งการ สมควรแล้วที่พวงมาลัยใคร ใครก็ไม่รับ

นายวิโรจน์ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 68 ในวันที่ 19-21 มิ.ย.ในส่วนของงบกระทรวงกลาโหมว่า งบบุคลากรลดลงแบบจิ๊บๆ ลดลงแบบธรรมชาติ แต่ก็เอามาเคลมว่าเป็นผลงาน เช่น หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา และ 6 ตุลา 19 ช่วงนั้นจะมีการบรรจุทหารจำนวนมาก ซึ่งข้าราชการในส่วนนั้นมาทยอยปลดเกษียณในช่วงนี้พอดี ดังนั้นกระบวนการกำลังพลก็ลดลงเองตามธรรมชาติ จึงทำให้งบประมาณด้านบุคลากรลดลง แต่การควบรวม ก็ควบรวมเพียงไม่กี่หน่วย ประหยัดงบประมาณได้แค่ 30 กว่าล้านบาท แทนจะตัดอัตรากำลังก็ยังไม่ตัดอัตรา

ที่สำคัญที่สุดคืองบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในภาพรวมยังเพิ่มขึ้นอีก แต่ไปเพิ่มในส่วนไหน เพราะส่วนที่ควรเพิ่มก็ไม่เพิ่ม งบซ่อมสร้าง การซ่อมบำรุงยานเกราะล้อยางมีแค่ 40 ล้านบาท ทั้งที่มีความจำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจชายแดนไทย-เมียนมา ที่ยาวถึง 2,401 กิโลเมตร แต่มีการซื้อโดรนแค่ 10 ลำ และยานเกราะล้อยางที่มีเป้าหมายต้องดำรงสภาพในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 เงิน 40 ล้านบาทคิดว่าจะพอซ่อมหรือไม่

เมื่อถามถึงการจัดซื้อเรือฟริเกต ฝ่ายค้านจะอภิปรายอย่างไร นายวิโรจน์กล่าวว่า ในร่างงบประมาณไม่มี ตนถึงบอกว่ามีการไปตัดงบฟริเกตที่มีอยู่ในงบปี 67 ดังนั้นจึงเข้าไม่ทันงบปี 68 เพราะต้องผ่านหลายกระทรวง และหลายหน่วยงาน นี่คือการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศจากอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ คำถามคือแล้วใครจะไปลงทุนถ้ารออีก 2 ปีงบประมาณ จึงต้องมาลุ้นในปี 69 ซึ่งตนถึงบอกว่าอะไรที่ควรจะจัดซื้อก็ไม่จัดซื้อ แต่พอเรือดำน้ำก็ง้อ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทม์ไลน์เคาะเครื่องบินรบ แง้มเส้นทางเรือดำน้ำเข้าครม.

เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนที่กองทัพอากาศจะคัดเลือกแบบเครื่องบินรบฝูงใหม่ทดแทน เพื่อนำเข้าประจำการแทนเครื่องที่กำลังปลดประจำการ