"เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย" ผิดหวัง "สมศักดิ์" ยืนกรานเดินหน้าออกประกาศ สธ. นำกัญชากลับเป็นยาเสพติด เตรียมระดม 1 หมื่นคนชุมนุมหน้าทำเนียบฯ กดดัน "เศรษฐา" รับข้อเสนอ "รมว.สธ." จับเข่าคุย "ทอม เครือโสภณ" พร้อมภาคธุรกิจไทย-ต่างชาติ ดันกัญชาการแพทย์ "ชาดา" เอือมหลานเสพไอซ์ บอก ตร.ทำคดีเต็มที่
ที่กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 12 มิ.ย. เวลา 15.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเวทีหารือปมการปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด ยกเว้นใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ โดยเชิญภาคธุรกิจ เครือข่ายธุรกิจกัญชา อาทิ นายจุลภาส เครือโสภณ หรือทอม ผู้ก่อตั้งบริษัท Golden Triangle Health จำกัด (GTH) และภาคธุรกิจต่างชาติ รวมถึงธุรกิจของคนไทย มีสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา เข้าร่วมหารือ ซึ่งล้วนสนับสนุนนโยบายรัฐบาลนำคืนยาเสพติด ยกเว้นทางการแพทย์และสุขภาพ
ส่วนด้านนอก นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย และตัวแทนเครือข่ายประมาณ 10 คน เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุขด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วงแรกเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาฯ ปฏิเสธเข้าร่วมเวทีดังกล่าว เนื่องจากประเด็นหารือวัตถุประสงค์แตกต่าง เพราะเครือข่ายเน้นประชาชนได้ใช้ประโยชน์ จึงไม่ขอเข้าร่วมในห้องประชุมใหญ่ที่มีกลุ่มธุรกิจ และยืนรอเพื่อหารือกับ รมว.สธ.หน้าห้อง
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายสมศักดิ์ได้เข้าหารือร่วมกับเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โดยภาคธุรกิจออกจากห้องประชุมกันหมด ยกเว้นนายจุลภาสที่นั่งฟังในวงประชุมด้วย โดยนายประสิทธิ์ชัย เสนอ 2 ข้อคือ 1.ยืนยันให้มี พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่หนุนควบคุมกัญชาโดยประมวลกฎหมายยาเสพติด และ 2.ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันทุกฝ่ายก่อนนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด
"หากรัฐยังยืนยันจะกลับไปเป็นยาเสพติด ควบคุมโดยประมวลกฎหมายยาเสพติด พวกผมก็ต้องชุมนุมยืดเยื้อกันต่อไป เราไม่อยากขัดแย้งกับใคร ไม่อยากมานอนหน้าทำเนียบฯ แต่จะมีวิธีอะไรในการแสดงออก" นายประสิทธิ์ชัยกล่าว
นายสมศักดิ์ชี้แจงว่า จากการรับฟังแม้จะประกาศเป็นยาเสพติด พวกท่านก็ยังสามารถใช้ทางการแพทย์และสุขภาพได้โดยเราไม่ได้ห้าม เพียงแต่ว่าต้องมีการควบคุม การเสนอร่าง พ.ร.บ.ของทางเครือข่ายทำได้ แต่ในส่วนของตนและ สธ.การจะร่าง พ.ร.บ.อาจจะไม่ทัน สิ่งสำคัญในส่วนของกระทรวงตอนนี้ทำได้เร็วสุดคือ ออกประกาศ แต่ก็ใช้ในแนวเป็นซอฟต์ดรัก ซึ่งทางการแพทย์ สุขภาพใช้ได้ สังคมยังใช้ได้ แต่ต้องควบคุม
"กรณีนี้ไม่ได้ตัดสิทธิ์ท่าน ท่านก็เสนอตามกระบวนการ หากสุดท้าย พ.ร.บ.ผ่าน ตัวประกาศกระทรวงฯ ก็ต้องหยุดไป เพราะ พ.ร.บ.ใหญ่กว่า ดังนั้นทั้งท่านและผมจะมาบังคับเรื่องการทำกฎหมายไม่ได้ ไม่ต้องกดดันกัน ยืนยันว่าไม่ได้ตัดสิทธิ์กัน" นายสมศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างถามตอบยังไม่ได้ข้อสรุป นายประสิทธิ์ชัยและเครือข่ายต่างทยอยเดินออกจากห้องประชุม โดยนายประสิทธิ์ชัยให้สัมภาษณ์ว่า รมว.สธ.จะเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด โดยไม่รับฟังข้อเสนอใดๆ จากประชาชน นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าของระบบสาธารณสุข แต่ รมว.สธ.กลับตอบว่าพวกเราจะทำพ.ร.บ.ก็ทำ ส่วน รมว.สธ.จะทำประกาศ เราอยู่คนละประเทศหรืออย่างไร ซึ่งไม่ได้ คำชี้แจงของ รมว.สธ.เป็นคำลวง ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง แม้เสนอคณะกรรมการร่วมก็ปฏิเสธอีก และที่น่าสังเกตคือ วันนี้ รมว.สธ.กลับมีแกนนำนักธุรกิจนั่งข้างๆ กันด้วย นี่คือกระบวนการทุนพรากกัญชาออกจากประชาชน
“พวกเราจะยืนยันชุมนุมต่อไป และจะคุยกับนายกฯ เศรษฐาเท่านั้น หากยังไม่ยอมรับอีก เราก็จะหากลไกอื่นๆ ต่อไป โดยการยกระดับการชุมนุม จะขอหารือกันว่าจะทำอย่างไร เพราะชัดเจนแล้วว่าจะถูกพรากยากัญชา หากไม่อยากเจอสภาวะนี้ เราจะประกาศชุมนุมครั้งใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนี้เราจะไม่ใช่แค่ 20 คน แต่จะระดมคนทั่วประเทศ ผู้ป่วยต่างๆ ให้ได้หมื่นคน” นายประสิทธิ์ชัยกล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ก็ให้พูดจนจบแล้ว และเสนอจุดยืนและหาทางออกให้ดีที่สุด ทั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องประกาศ ทุกอย่างต้องเป็นเหตุเป็นผล
ถามว่า เครือข่ายจะรวมตัวไปทำเนียบฯ เพื่อแสดงออก นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้การแสดงความคิดเห็น ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการเป็นยาเสพติดมีมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการแสดงความคิดเห็น สามารถมาแสดงออกได้จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน ผ่านเว็บไซต์ LAW และของเว็บไซต์ อย. จากนั้นมาพูดคุยกฎเกณฑ์กันต่อไป
ด้านความคืบหน้าคดีที่นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ที่ถูกจับภายในห้องพักโรงแรมดังย่านห้วยขวาง พร้อมยึดของกลางยาเสพติด อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนนั้น นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ระหว่างร่วมพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียว่า นายนรเศรษฐ์เป็นหลานของตนจริงๆ
"คนนี้มันแสบไปทั่วหมด ก็สมควรแล้ว แม้จะเป็นหลานของรัฐมนตรี ผมก็ต้องขอบอกว่าเอาให้เต็มที่เลย ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้เต็มที่เลย และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว ที่ผ่านมาผมก็เคยตักเตือนว่ากล่าวไปตั้งนานแล้ว และเขาไม่ค่อยได้เข้าบ้านผม เพราะที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนเกเร" นายชาดาระบุ
พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน กล่าวถึงคดีว่า ผลการตรวจปัสสาวะจากโรงพยาบาลออกแล้ว พบว่านายนรเศรษฐ์มีสารเสพติดในร่างกาย ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เสพสารเสพติดประเภท 1 ก่อนจะนำตัวส่งศาลอาญาต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
'สมศักดิ์' ขึงขังจัดการ รพ.ปลอมใบรับรองแพทย์!
'สมศักดิ์' ฮึ่มจัดการเด็ดขาด รพ.ปลอมใบรับรองแพทย์ ต้องเจอคุก ขอส่งข้อมูลให้ สธ.-ตร.พร้อมจัดการให้ไว 1-2 วัน