กนง.ใจแข็ง! มติ 6 ต่อ 1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ต่อปี พร้อมคงคาดการณ์จีดีพีปีนี้ 2.6% แอบลุ้นรัฐติดเครื่องเร่งรัฐเบิกจ่ายลงทุน-ดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยกระทุ้งโตถึง 3% รับห่วงหนี้ครัวเรือนสูง “เศรษฐา” โยน “พิชัย” ปมเลือกประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่ ยัน “กิตติรัตน์” หมดสิทธิ์ เหตุนั่ง ปธ.ที่ปรึกษาของนายกฯ
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ต่อปี โดย 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้จากอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว โดยยังมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 2.6% และปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 3.0% ขณะที่การส่งออกยังขยายตัวได้ในระดับต่ำ
“การประมาณการเศรษฐกิจในครั้งนี้ ได้มีการรวมมาตรการภาครัฐบางส่วนที่มีความชัดเจนแล้ว นั่นคือที่อยู่ในงบประมาณ ทั้งงบลงทุนและเบิกจ่าย ส่วนมาตรการเสริมได้พูดคุยกันว่าผลกระทบจะมากน้อยแค่ไหน เป็น Upside risk ที่กรรมการพิจารณา ส่วน Digital Wallet ก็ดูว่าจะเพิ่มในไตรมาส 4/2567 และต้นปีหน้า ก็พิจารณาเช่นกัน แต่ถือว่าเป็นภาพรวม ไม่ว่ามาตรการภาครัฐจะมามากกว่าที่มองหรือไม่ แต่ภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก และจุดยืนนโยบายการเงินรองรับความเสี่ยงด้านสูงได้ พร้อมความเสี่ยงด้านต่ำด้วย ซึ่งพิจารณาทุกมาตรการรัฐทั้งหมดแล้ว และในภาพรวมทิศทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ประมาณนี้” นายปิติระบุ
ส่วนกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประเมินว่าหากเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณแล้วจะส่งผลให้จีดีพีปีนี้โตได้ถึง 3% นั้น นายปิติกล่าวว่า เป็นไปได้ หากมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณได้จริง และมีโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เข้ามา
ขณะที่ภาคการส่งออกปีนี้จะยังขยายตัวต่ำ โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 1.8% และปี 2568 ที่ 2.6% ส่วนหนึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างและความท้าทายจากความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลง และสินค้าบางกลุ่มโดยเฉพาะหมวดยานยนต์เผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 0.6% ปีหน้าที่ 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 0.5% และปีหน้าที่ 0.9% โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย
นอกจากนี้ ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 35.5 ล้านคน และปี 2568 ที่ 39.5 ล้านคน ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปีหน้าที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ ปรับอ่อนค่าตามทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับปัจจัยในประเทศในช่วงที่ผ่านมา
"กนง.กังวลสัดส่วนหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเห็นว่าการให้สินเชื่อควรสอดคล้องกับกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาว จึงสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ควบคู่กับการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้" เลขานุการ กนง.ระบุ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงิน ที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน กรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปรับดีขึ้น รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว โดยยังต้องติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและมาตรการภาครัฐ โดยกรรมการจะพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งแทนนายปรเมธี วิมลศิริ ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ใกล้หมดวาระหรือยังว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ยังไม่มีการคุยเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของการจัดตั้ง
ส่วนมีข่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จะมานั่งเก้าอี้ดังกล่าวแทนนั้น นายกฯ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ตนเคยรีทวีตข้อความไปแล้วว่าเป็นไม่ได้ เพราะนายกิตติรัตน์เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ อยู่ หากจะทำหน้าที่ดังกล่าวต้องปลอดจากตำแหน่งไป 1 ปี
เมื่อถามว่า คนใหม่ที่จะมานั่งตำแหน่งนี้ จะต้องมีแนวนโยบายเดียวกับรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายพิชัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องเศรษฐกิจตอนนี้ถือเป็นหนึ่งเดียวกันหรือยังกับหน่วยงานต่างๆ นายกฯ กล่าวว่า จิตวิญญาณของรัฐบาลนี้เป็นหนึ่งเดียวกันตลอด และทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมฯ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีการพูดคุยกันตลอด ภาษาวงสนทนาที่ใช้เป็นคำพูดที่คิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่เข้าใจกันได้ คุยกันรู้เรื่อง
เมื่อถามย้ำว่า แม้ว่าไม่ลดดอกเบี้ย รัฐบาลยังคงมีการเดินหน้าในการสร้างเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเดินหน้าตลอดเวลาอยู่แล้ว พยายามที่จะทำทุกอย่าง หากติดขัดตรงไหนพยายามอ้อมไปอีกทางหนึ่ง โดยยึดข้อกฎหมายและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าไม่ได้ทางนี้เราก็ไปอีกทางหนึ่งให้ได้ ไม่เอามาเป็นข้ออ้างหรือคำอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ ก็ต้องทำงานกันต่อไป
ทางด้านนายพิชัยกล่าวว่า เมื่อให้ตนพิจารณาเรื่องนี้ พร้อมที่จะนำมาดู แต่ขอพิจารณาในรายละเอียดก่อน ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยเบื้องต้นต้องดูบุคคลที่จะเข้ามาทำงานช่วยกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ชาญ’นำ‘แจ๊ส’นายกอบจ.ปทุม
ลุ้นมันหยด ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี กกต.ปทุมฯ ตั้งเป้าผู้ออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 70 ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ "บิ๊กแจ๊ส" กับ "ลุงชาญ" คะแนนเบียดกันสูสี ก่อนที่ลุงชาญจะขึ้นนำในช่วงท้าย
‘สมชาย’ทิ้งทวน ชงปปช.สอบยธ. เอื้อ‘นช.ทักษิณ’
"สว.สมชาย" สวมหมวก ปธ.กมธ.สิทธิฯ ทิ้งทวนทำหน้าที่ยื่น "ป.ป.ช." สอบ "จนท.ราชทัณฑ์-ยธ." ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
โพลยกพิธาเหนือนิด ซัดกกต.2มาตรฐาน
"เศรษฐา" ร่ายผลงานทัวร์อีสาน 4 จังหวัด โปรยยาหอมเรื่องน้ำ-สินค้าเกษตร
เตือนเช่าที่99ปีไทยกึ่งเมืองขึ้น
นายกฯ หวัง "เงินดิจิทัล" ผ่านวาระ 3 กระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4
จัดทัพคุมอำนาจสว. ค่ายสีน้ำเงินซุ่มเปิดเซฟเฮาส์/จ่อยื่นศาลเบรกประกาศผล
"สว.สีน้ำเงิน" ขยับแล้ว รอเปิดเซฟเฮาส์พบปะหลังวันพุธ 3 ก.ค.
บ่นหวยขายไม่ออก แม่ค้าครวญต่อหน้า ‘เศรษฐา’! ถามเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะได้กี่โมง
"เศรษฐา" ยังคงลุยพื้นที่อีสาน ไปอุบลราชธานี "อนุทิน" ขนลูกพรรคภูมิใจไทยต้อนรับคึกคัก