ไฟเขียวยาบ้า1เม็ดผู้เสพ จับหลานชาดาปาร์ตี้ไอซ์

ครม.เห็นชอบแก้กฎกระทรวง สธ. ลดจำนวนครอบครองยาบ้าเหลือ 1 เม็ดจาก 5 เม็ด "สมศักดิ์" ชี้มีผลภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ยันหากทุกฝ่ายช่วยกันยานรกหมด ปท. ขณะที่ตำรวจสืบ 1 บุกจับหลาน “ชาดา” เปิด รร.กลางกรุงปาร์ตี้ยาไอซ์-พกปืน นายกฯ  ยังไม่ทราบ เชื่อไม่มีอภิสิทธิ์เหนือ กม. “อนุทิน” ยันไม่เกี่ยวกับ "มท.3" เหตุมีญาติเป็นพันคน โอดไม่แฟร์เปิดนามสกุลคนเดียว ขณะที่เจ้าตัวลาราชการไปพิธีฮัจญ์ซาอุฯ

  เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 11 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน   นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎหมายเพิ่มปริมาณให้กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ ที่ให้สันนิษฐานว่ามีในครอบครองเพื่อเสพ   โดยมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 1 ยาบ้า ยาไอซ์ ที่ให้สันนิษฐานว่ามีในครอบครองเพื่อเสพใหม่ กำหนดแอมเฟตามีนมีปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 เม็ด รวมถึงกำหนดให้แอมเฟตามีนและยาไอซ์มีปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้เช่นกัน โดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปตรวจสอบความชัดเจนของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอีกครั้ง

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่..) พ.ศ..... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567 เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (แอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน) ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพใหม่ เพื่อให้การกำหนดปริมาณยาเสพติดดังกล่าวสอดคล้องกับสถาณการณ์ยาเสพติดปัจจุบัน

โดยร่างกฎกระทรวงที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567 เพื่อกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยได้กำหนดให้แอมเฟตามีน (ยาบ้า) มีปริมาณไม่เกิน 1 เม็ด หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม (เดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 5 เม็ด หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม) และกำหนดให้เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) มีปริมาณไม่เกิน 1 เม็ด หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 20 มิลลิกรัม (เดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 5 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ศาลหรือผู้เกี่ยวข้อง มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน

สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นไปเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่ต้องการให้โอกาสแก่ผู้ที่ครอบครองยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ไว้เพื่อการเสพ โดยไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรงและได้รับการพิจารณาให้เข้ารับการบำบัดรักษา โดยให้พิจารณาควบคู่กับพฤติกรรมอื่นที่เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือระดับความรุนแรงของการเสพยาเสพติดของบุคคลนั้นร่วมด้วย  รวมทั้งเพื่อป้องกันการแพร่กระจายยาเสพติดและการใช้ยาเสพติดอันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการจำแนกระหว่างผู้ค้ากับผู้เสพ ซึ่งการกำหนดปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือ 1 เม็ด จะทำให้ผู้ค้ารายย่อยลดลง ถือเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติดและลดการถือครองยาเสพติดเพื่อค้า

บังคับใช้สิ้นเดือน มิ.ย.   

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวกรณีหาก ครม.เห็นชอบ  กระทรวงสาธารณสุขจะออกกฎกระทรวงให้มีผลบังคับใช้เมื่อใดว่า หากครม.เห็นชอบวันนี้ก็ต้องผ่านให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ จากนั้น เมื่อตรวจสอบเสร็จก็ส่งให้ ครม.เห็นชอบอีกครั้ง ก่อนที่กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศได้ ซึ่งคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะจบภายในเดือน มิ.ย. โดยจะมีประกาศกฎกระทรวงที่ชัดเจน

เมื่อถามว่า เมื่อลดจำนวนการครอบครองเหลือ 1 เม็ด จะทำให้สถานการณ์ติดยาบ้าลดลงหรือไม่ รวมถึงคุกและสถานบำบัดจะมีจำนวนเพียงพอที่จะรองรับหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เราเน้นไปที่ผู้ขาย เมื่อก่อนคนถือ 5 เม็ด หรือ 3 เม็ด หากประสงค์บำบัดก็จะได้รับการบำบัด

 แต่ตอนนี้เราจะต้องได้ผู้ค้าเข้ามา 1 คน และจะมีการยึดทรัพย์ย้อนหลัง รวมถึงมรดกเก่าที่มีความเชื่อมโยงในการได้มาจากการค้ายาเสพติด ซึ่งหากจะทำได้ตามที่ตนกล่าวมานั้น ซึ่งขณะนี้เครื่องมือมีครบหมดแล้ว จึงต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะกระบวนการยึดทรัพย์ กฎหมายเปิดช่องทางไว้ และให้รางวัลคนทำคดี 25% รวมถึงคนแจ้งเบาะแสก็ได้รางวัลด้วย 5% ซึ่งเชื่อว่าหากทำได้ตามนี้ จะไม่มียาเสพติดเหลือในประเทศไทย แต่หากทำไม่ครบตามกระบวนการ ยาเสพติดก็จะไม่หมดไป เพราะทุกคนปล่อยปละละเลย

จับหลานชาดาปาร์ตี้ยาไอซ์

อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กลางดึกวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) บุกเข้าจับกุมนายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย (มท.3),   นายกิจจา จุลมุสิทธ์, น.ส.วาลิส ทัศนเอกจิต และ น.ส.อัญชลีพร เหมือนแก้ว ที่ห้องพัก 304 โรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 6 ถุง, อาวุธปืน 11 มม. 1 กระบอก และกระสุนปืน 6 นัด หลังรับแจ้งมั่วสุมเสพยาเสพติดในห้องพักดังกล่าว

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันแจ้งข้อหานายนรเศรษฐ์เพิ่มอีกข้อหาคือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ

รายงานข่าวแจ้งว่า ความสัมพันธ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนี้ นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ เป็นญาติของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และนายกิจจา เป็นคนขับรถของนายนรเศรษฐ์ ส่วน น.ส.วาลิสและ น.ส.อัญชลีพรไม่ใช่เด็กเอ็น แต่ว่าเป็นคนรู้จักของทั้งคู่ที่รู้จักกันมานาน

  ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งห้องควบคุมขัง สน.มักกะสัน  ก่อนจะนำตัวทั้ง 4 คนไปฝากขังที่ศาลอาญาในวันที่ 12 มิ.ย. เวลา 10.00 น.  โดยทนายได้ให้ข้อมูลว่าเบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พรุ่งนี้ญาติได้เตรียมหลักทรัพย์ไปประกันตัวในชั้นศาล ซึ่งต่างคนต่างยื่นเป็นเงินสดจำนวน 40,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่มีอาการเครียด

 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เมื่อสักครู่ประชุมเตรียมการประชุม ครม. หากเจอจะได้มีการสอบถาม แต่เนื่องจากวันเดียวกันนี้ นายชาดาติดภารกิจเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ลาการประชุม ครม. ย้ำว่ายังไม่ทราบเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เรื่องนี้ค่อนข้างรุนแรง เพราะการจับกุมมีทั้งยาเสพติดและอาวุธปืน ต้องมีการประสานพูดคุยกับทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องจริงๆ แต่ส่วนตัวคิดว่ามีกลไกทางกฎหมายอยู่แล้ว ก็ให้ประสานงานตามขั้นตอน และเชื่อว่าจะไม่มีอภิสิทธิ์อะไร

'อนุทิน' ยันไม่เกี่ยวกับ 'มท.3'

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.สส.บก.น.1 บุกห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในแขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จับกุมผู้ต้องหาคือ 1.นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ 2.นายกิจจา 3.น.ส.วาลิส และ 4.น.ส.อัญชลีพร ข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมายว่า หูย อย่าไปนับกันขนาดนั้น ตนก็อ่านข่าวคนอื่นสงวนชื่อหมด ยกเว้นคนเดียวที่มีนามสกุลไทยเศรษฐ์คนเดียวไม่ยอมสงวน ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่

นายอนุทินกล่าวว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรค ภท. มีญาติเป็นร้อยเป็นพัน ใครทำผิดอะไร เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือมีอภิสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น ชัดเจนอยู่แล้ว และนายชาดาเองก็ไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย อย่าไปทำอะไรให้ท่านกวนใจ เชื่อว่านายชาดาไม่เคยพูดถึงบุคคลดังกล่าว ในชีวิตท่าน ท่านพูดว่ามีคนเติบโตมาด้วยกันเพียงแค่สองคน คือตัวท่านเองและ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นน้องสาว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024

นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด