"น.ช.ทักษิณ" ออกลายเดิมดิ้นหาช่องสู้คดี ม.112 ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมถึง อสส.อีก อ้างพนักงานสอบสวนยุคนั้นถูกข่มขู่จากรัฐบาล คสช.จนไม่ได้รับความเป็นอิสระ ขอให้ อสส.ทบทวนคำสั่งฟ้อง นายกฯ เลี่ยงวิจารณ์ “ทักษิณ” ปมคนบ้านป่า ย้ำผู้ใหญ่เป็นห่วงบ้านเมือง "ภูมิธรรม" เชื่อไม่กระทบคดีนายกฯ และพรรคร่วมขออย่าตีความ "ธรรมนัส" ป้อง "ทักษิณ" ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร ยันความสัมพันธ์รัฐบาลแน่นปึ้ก "เทพไท" จี้ อสส.ชี้แจงปมทักษิณพาดพิงสั่งฟ้องเพราะถูกขู่ "คปท." จวก "แม้ว" ไม่ได้สู้ด้วยข้อเท็จจริงแต่ชี้นำด้วยเกมการเมือง
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน มีรายงานจากสำนักงานอัยการสูงสุดว่า เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทีมกฎหมายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมถึงอัยการสูงสุด (อสส.) กรณีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 พาดพิง สถาบันเบื้องสูง ทีมทนายความได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงอัยการสูงสุด (อสส.) เรื่องการพิจารณาสั่งฟ้องนายทักษิณตามมาตรา 112
สรุปว่า พนักงานสอบสวน (พงส.) ขณะนั้นถูกข่มขู่จากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จนขาดความเป็นอิสระในการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ทำให้นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมการพิจารณาสั่งคดีจากอัยการสูงสุด จึงขอให้อัยการสูงสุดทบทวนการสั่งฟ้องนายทักษิณ ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้ง เพื่อความยุติธรรมด้วย
สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมทีมรองโฆษกได้แถลงว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และผู้ต้องหาตามความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม วันดังกล่าวนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังการสั่งคดีของอัยการสูงสุด โดยอ้างว่ามีอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องพักรักษาดูอาการ จึงไม่สามารถมาพบอัยการพิเศษสำนักงานคดีอาญา 8 ตามนัดได้
โดยอัยการนัดให้นายทักษิณมารายงานตัวกับพนักงานอัยการวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. โดยคดีนี้มีอายุความ 15 ปี และคดีจะหมดอายุความปี 2573
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณระบุว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาจากคนบ้านป่าจะกระทบกับนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า การพูดคุยสื่อสารของแต่ละคนและผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เชื่อว่ามีความเป็นห่วงบ้านเมือง แต่ละคนมีข้อมูลต่างกันไป หน้าที่ของตนในฐานะผู้นำรัฐบาล ของพรรคร่วมรัฐบาล เรามีปัญหาอะไรก็ต้องพูดคุยกัน จะกระทบหรือไม่กระทบเป็นขั้นที่สองขั้นที่สามที่จะตามมา ในฐานะผู้นำรัฐบาลมีความประสงค์อยากให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ดี และอยู่ด้วยกันมาวันนี้มีความเห็นตรงบ้างเห็นต่างบ้าง ต้องมาคุยในส่วนที่เห็นต่างว่าแก้ไขตรงไหนได้บ้าง
เมื่อถามว่า การไปพาดพิงถึงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะทำให้เกิดความหมางใจขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมไม่ทราบว่านายทักษิณหมายถึงใคร" ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่าในทางการเมือง เมื่อพูดถึงบ้านป่าฯ ก็รับรู้กันได้ว่าหมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร. นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยเจอ พล.อ.ประวิตร ทุกทีก็คุยผ่านตัวแทนพรรคที่อยู่ในรัฐบาล คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ ที่เป็นน้องชาย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นเลขาธิการพรรค ไม่จำเป็นต้องคุยกับ พล.อ.ประวิตรโดยตรง
พรรคร่วมฯ ยังแน่นปึ้ก
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรคร่วมรัฐบาลจะนัดพูดคุยหารือกันในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายกฯ จะไปร่วมด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่เข้าใจว่าไม่ได้อยู่ในตารางงาน น่าจะเป็นในลักษณะของหัวหน้าพรรคหรือแกนนำพูดคุยกันน่าจะดีกว่า เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่พูดคุยกันได้ในบางอย่าง
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในเดือน มิ.ย.อย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวตั้งดีกว่า ส่วนเรื่องของพรรคก้าวไกลไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร ส่วนเรื่องของนายทักษิณ ก็เป็นคดีส่วนบุคคล เรื่องของตนก็ส่งคำชี้แจงเรียบร้อยแล้ว วันนี้มีอำนาจเต็มที่ทำงานได้ และคอยว่าขั้นตอนต่อไปศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร ส่วนที่บอกว่าเป็นเดือนอันตรายก็ไม่มีอะไรชัดเจนออกมา
ถามว่า การพูดของนายทักษิณไม่ทำให้หนักใจ หรือกระทบกับการบริหารราชการแผ่นดินใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ผมหนักใจและไม่สบายใจ เพราะทุกเรื่องก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนรัฐบาลก็ต้องโฟกัสในหน้าที่ที่ถูกมอบหมาย คือการดูแลประชาชน"
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณไปร่วมงานเลี้ยงฉลองบวชนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชายคนสุดท้องของนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ (นายกเบี้ยว) นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และพูดถึงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองมาจากคนที่อยู่บ้านในป่าฯ ว่า เห็นท่านทักษิณบอกว่าไม่รู้ว่าบ้านไหน ไปวิจารณ์ในสิ่งที่ไม่รู้ว่าท่านคิดอะไร ตนคงพูดยาก สำหรับพรรคเพื่อไทยดูแต่เรื่องที่ตัวเองเกี่ยวข้อง และพยายามแก้ปัญหาเหล่านั้น บางประเด็นมีความเห็นต่างกันบ้าง ส่วนประเด็นที่เป็นเรื่องค้างคาที่กระบวนการยุติธรรมต้องการให้จบ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมไป
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณพูดเช่นนั้นจะส่งผลให้การต่อสู้คดีของนายเศรษฐาเกิดความยุ่งยากหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลย เป็นปกติที่แต่ละคนมีความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ และแสดงออกก็เป็นเรื่องของท่าน ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองหรือใครทั้งสิ้น สถานการณ์ของนายกฯ และคดีต่างๆ ก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครแทรกแซงได้
ส่วนที่มองว่า การที่นายทักษิณออกมาพูดจะเป็นผลเสียมากกว่า นายภูมิธรรมกล่าวว่า คิดมากเกินไป ไม่ต้องไปคิดมาก ต้องไปถามท่าน เราเป็นคนฟัง และตนก็ไม่ได้ฟังจากปาก เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดอะไรแทน และก็ไม่เห็นมีพรรคร่วมไหนที่ไม่สบายใจ โทรศัพท์คุยกันก็ยังปกติ และนายทักษิณก็ไม่ได้บอกว่าบ้านป่าที่ไหน บอกแค่บ้านในป่า
เมื่อถามย้ำว่า ในทางการเมืองก็รู้กันดีว่าเป็นบ้านใคร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่หรอก ทั้งในทางการเมืองและปกติก็เหมือนกัน ถ้าเป็นการพูดไม่ชัดเจนหรือพูดลอยๆ ก็อย่าไปตีความ เพราะมันตีความได้หลายอย่าง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา ยืนยันว่าไม่ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล และเราก็เจอกันอยู่บ่อยๆ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า สื่อเข้าใจไปเองหรือไม่ เพราะไม่เห็นนายทักษิณเอ่ยชื่อใครเลย เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า เมื่อพูดถึงบ้านในป่าก็มีแต่จะหมายถึง พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนก็เพิ่งมาจากป่าชัยภูมิ ขออย่าไปคิดมาก ตนคุยกับนายกฯ ทุกอาทิตย์ ยืนยันว่าความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นอยู่ อย่าไปคิดมาก
เมื่อถามว่า ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรบ้างหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดเลยยังไม่ได้คุยอะไรกัน เมื่อถามยํ้าว่าจะต้องไปคุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราอย่าไปคิดมาก อย่าคิดไปไกล
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสจะเป็นกาวใจให้นายทักษิณ กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ตนว่าเราอย่าคิดกันไปไกล ตนไม่ได้คุยกับใคร กับ พล.อ.ประวิตรตนก็ไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้ว และไม่มีแรงกระเพื่อมในพรรค พปชร. พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหา ส่วนการนัดรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป คาดว่าจะเป็นภายในเดือนนี้
แม้วเล่นเกมไม่สู้ข้อเท็จจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อยากให้อัยการสูงสุดสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการของสำนักงาน อสส. ไปถอดเทปการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งได้พาดพิงถึงการทำงานของสำนักงาน อสส.เกี่ยวกับการสั่งฟ้องคดีความผิดมาตรา 112 ของนายทักษิณ ที่มีเนื้อหาว่าคดีดังกล่าวไม่มีข้อมูลความผิดอะไรเลย เป็นการยัดเยียดข้อหาในช่วงเกิดรัฐประหาร เหตุผลที่สั่งฟ้องเพราะมีผู้บังคับบัญชาบังคับข่มขู่ให้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้องนายทักษิณ การให้สัมภาษณ์ได้พาดพิงและดูหมิ่นดูแคลนการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน อสส.ไม่มีมาตรฐานและไม่มีหลักกฎหมายรองรับคำสั่งฟ้อง เป็นการทำงานและตัดสินใจสั่งฟ้องตามกระแสกดดันของสังคม สร้างความเสียหายให้กับสำนักงาน อสส.เป็นอย่างมาก
นายเทพไทยระบุว่า ถ้าสำนักงาน อสส.เพิกเฉยไม่ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้สังคมได้รับทราบถึงแนวทางการทำงาน และยืนยันข้อกฎหมายว่า อสส.มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณด้วยเหตุผลใด จะทำให้สำนักงาน อสส.เสียหาย สร้างความเสื่อมเสีย และเกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนว่า สำนักงาน อสส.เป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจเก่า ที่ต้องการเล่นงานนายทักษิณ ตามที่นายทักษิณกล่าวอ้างเรื่องผลไม้พิษที่เกิดจากต้นไม้พิษ ได้ยัดเยียดความผิดให้นายทักษิณหลายคดี
"การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณในประเด็นนี้เป็นการโยนหินถามทาง เพื่อเปิดช่องให้ทนายความยื่นขอความเป็นธรรม เพื่อทบทวนคำสั่งฟ้องใหม่ และเป็นการยื้อเวลาการส่งตัวฟ้องศาลของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือไม่ เพราะฉะนั้นเพื่อให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง และดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณโดยเร็วที่สุด" นายเทพไทระบุ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อเรื่อง "เกมส์มวลชน ทักษิณพูดที่งานบวชว่า 'ผมกลับมาแล้ว คนเสื้อแดงก็กลับมาอยู่ด้วยกัน' 'ผมถูกยัดข้อหาให้ผิด ม.112 เป็นผลพวงจากรัฐประหาร ต้นไม้พิษ' วันนี้ทักษิณให้ทนายไปยื่นขอความเป็นธรรมที่อัยการสูงสุด ประเด็นที่ยื่นถูกนำมาเปิดเผยทางสังคมว่า 'พนักงานสอบสวนถูกกดดัน มีคนสั่ง' ทักษิณไม่ได้สู้ในข้อเท็จจริง แต่เป็นการชี้นำด้วยเกมส์การเมืองที่พยายามอธิบายให้เข้าใจว่า ถูกรัฐประหารกลั่นแกล้ง การอธิบายว่าถูกยัดเยียดข้อหาจากรัฐประหาร และการบอกให้คนเสื้อแดงกลับมาหาตน คือการเล่นเกมส์เอามวลชนมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ตัวเองทำผิด แต่ใช้ประชาชนเป็นโล่ป้องกัน มันน่าไม่อายจริงๆ".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ควักใบแดงถีบพ้นรัฐบาล ในโฟกัส"พีระพันธุ์-รทสช." ทักษิณจ้องยึด"ก.พลังงาน"
แวดวงการเมืองต่างเทน้ำหนักไปทางเดียวกัน โดยมองว่าน่าจะเป็นจริงอย่างที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ-รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “สัญญาณเตือน-เตรียมควักใบแดง ถีบออกจากรัฐบาล” ของทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง
ลุยมาเฟียปราจีนฯ ไร้เงาคนสนิทโกทร
นายกฯ อิ๊งค์พร้อมนั่งหัวโต๊ะทีมเฉพาะกิจปราบมาเฟียตามบัญชาพ่อ
พท.ฝัน‘หน่อย’ ชิงอบจ.โคราช ในนามเพื่อไทย
“อนุทิน” ตอกย้ำ “ภูมิใจไทย” ไม่ลงเล่นสนามท้องถิ่น เด็กเพื่อไทยยังหวัง
ตีปี๊บโลกยกย่องนายกฯ ‘แพทองธาร’ไปมาเลย์
“รมต.น้ำ” แห่ตีปี๊บ “ฟอร์บส์” จัดอันดับ “แพทองธาร” ติดอันดับ 29
เชื่อ2วัน‘น้ำท่วมใต้’ลดลง
นายกฯ กำชับ ศปช.เร่งบรรเทาน้ำท่วมใต้ 4 จังหวัดยังหนัก คาด 2 วันคลี่คลาย
อิ๊งค์แก้ต่างแทนพ่อ อ้างพูดให้พรรคร่วมช่วยกัน/อนุทินชี้ดรามาจบแล้ว
“อิ๊งค์” แจง "พ่อนายกฯ" พูดถึงพรรคร่วมในภาพกว้าง ต้องช่วยกัน