รุมจวก‘พิธา’พาล ‘เศรษฐา’แจงศาล

"เศรษฐา" เผยส่งคำชี้แจงถึงศาล รธน.แล้ว แต่ไม่ขอเปิดแนวทางต่อสู้ หากศาลยังขาดข้อมูลอะไรเรียกมาได้ "ธนกร” ฟาด “พิธา" ไม่เคารพคำสั่งศาลที่เตือนแล้วว่าไม่ควรชี้นำ ซ้ำบิดเบือนข้อเท็จจริงเอาดีเข้าตัว ทั้งที่ศาลขยายเวลาชี้แจงให้ถึง 3 ครั้ง เย้ยคงกังวลเรื่องคดีเลยพานไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม "สามารถ" ซัด "พิธา" ยึดแต่กฎของกู ยุศาลยุบทิ้งพรรคการเมืองที่เจตนาทำลายสถาบัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 10 มิถุนายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีว่า เรียบร้อยแล้ว  ส่งไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังกังวลอะไรอีกหรือไม่หลังส่งคำชี้แจงไปแล้ว นายเศรษฐากล่าวว่า อย่าถามเรื่องกังวลอีกได้ไหม ถามแล้วก็กังวลอยู่ตลอดเวลา ยังไม่มีอะไรที่คืบหน้ามาก ขอให้อยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า

เมื่อถามว่า สามารถเปิดเผยขั้นตอนการต่อสู้ได้หรือไม่ นายกฯ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่ครับ ไม่ได้ต่อสู้ เป็นการชี้แจง แล้วอย่าไปบอกว่าฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายตุลาการ เมื่อมีคำถามมา เราเป็นฝ่ายบริหารมีหน้าที่ชี้แจงไป เราต้องให้ความเคารพ ตอนนี้ผมคิดว่าได้ส่งไปครบแล้ว ถ้าศาลคิดว่ายังขาดข้อมูลอะไรก็ให้เรียกมา"

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล เปิดแถลง 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกลว่า เป็นการไม่เคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ออกมาเตือนก่อนล่วงหน้าแล้ว ว่าไม่ควรมีการชี้นำให้กระทบความเชื่อมั่นในกระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องยึดมั่น นั่นคือการเคารพกฎหมาย เคารพคำสั่งศาล การออกมาแถลงข้อต่อสู้คดีควรยื่นต่อศาลโดยตรง ไม่ใช่ มาแถลงต่อสื่อมวลชน ต่อประชาชน มากกว่านั้นยังอ้างข้อกฎหมายแบบบิดเบือน เอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่นแบบข้างๆ คูๆ อ้างประชาธิปไตยสารพัด ทั้งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรค ซ้ำยังอ้างว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีกระบวนการยื่นคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก ตนมองว่านายพิธาและพรรคก้าวไกลมีความกังวลค่อนข้างหนักเรื่องคดี จนทำให้พานไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม กระบวนการกฎหมายทั้งระบบ แบบนี้จะเป็นผู้นำประเทศที่ดีได้อย่างไร

เมื่อถามว่า นายพิธาอ้างว่า กกต.ยื่นศาลโดยไม่แจ้งให้พรรคได้ชี้แจง นายธนกรกล่าวว่า ประธาน กกต.ได้ยืนยันการดำเนินการของ กกต.แล้วว่า ไม่ได้ใช้ระเบียบสืบสวนไต่สวน แต่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งไม่จำเป็นต้องแจ้งให้พรรคก้าวไกลทราบ เพราะมีหลักฐานตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนมองว่า ในชั้นกระบวนการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญเอง ก็เปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามที่พรรคขอขยายเวลาถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 15 วัน  จนครบกำหนดยื่นคำชี้แจงแล้ว ถือว่าคดีนี้ กกต.และศาลได้ดำเนินการครบถ้วนตามกระบวนการยุติธรรม หลังจากนี้ก็เป็นดุลยพินิจของศาล ผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบ  พรรคก้าวไกลควรน้อมรับคำตัดสิน

 “การที่นายพิธาและก้าวไกลออกมาแถลง อ้างว่าพรรคการเมืองเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น จะอ้างไม่ได้เพราะถ้าพรรคการเมืองทำผิดกฎหมาย ก็ต้องยอมรับข้อเท็จจริงตรงนี้ การอ้างและชี้นำสังคมว่าศาลไม่มีอำนาจ กกต.ยื่นโดยไม่ชอบ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยคำพูดสวยหรูให้ตัวเองดูดี แต่เป็นการก้าวล่วงและไม่เคารพคำสั่งศาล แบบนี้จะเป็นผู้นำประเทศที่ดีได้อย่างไร" นายธนกรกล่าว

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการการแรงงาน  กล่าวถึงกรณีที่นายพิธาแถลงแนวทางการต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล 9 ข้อ โดยอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลว่า ชาวบ้านฝากมาบอกว่านายพิธารู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องจริง หรือค้านทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง และเป็นคนประเภทที่ว่ายึดแต่กฎของกู ถ้ากูได้ประโยชน์กูเอา ถ้าเสียประโยชน์กูด่า ขอย้อนไปตอนที่ศาล รธน.วินิจฉัยเรื่องการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ที่ศาลระบุว่านายพิธาไม่มีความผิด และนายพิธาออกมาแถลงขอบคุณศาล รธน. แต่พอวันนี้จะถูกยุบพรรคก็ออกมาบอกว่า ศาล รธน.ไม่มีอำนาจ

 นายสามารถกล่าวว่า ที่ผ่านมาศาล รธน.ได้วินิจฉัยยุบพรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองไหนที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเหมือนเช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล และไม่เคยมีพรรคการเมืองใดเอามาตรา 112 มาหาเสียง เพราะทุกคนรู้ว่าสถาบันนั้นทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง ซึ่งในกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ระบุเอาไว้ชัดเจน การกระทำของพรรคก้าวไกล สส.ในพรรคไม่ควรที่จะได้เป็น สส.แม้แต่วันเดียว และแทนที่จะสำนึกผิดในสิ่งที่ทำ กลับออกมาตั้งโต๊ะแถลงว่าศาล รธน.ไม่มีอำนาจยุบพรรค ส่วนกรณีที่ สส.ของพรรคก้าวไกลทั้ง 44 คนที่เซ็นชื่อยื่นแก้ไขมาตรา 112 กกต.ก็ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้ศาล รธน.วินิจฉัยด้วย ซึ่งที่ผ่านมาการไปยืนชู 3 นิ้ว ป.ป.ช.ยังตัดสินว่าน่าจะผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

 "มาพูดอะไรมั่วๆ ผมว่าประเทศสะเทือน จึงฝากให้ ศาล รธน.รีบยุบพรรคการเมืองแบบนี้ในวันพุธที่ 12 มิ.ย.นี้  มะเร็งเวลาตรวจเจอเขาให้ทำลายทิ้ง เช่นพรรคการเมืองที่มีเจตนาทำลายระบบสถาบันก็ต้องยุบทิ้ง ไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง" นายสามารถกล่าว. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง