โพลฉีกหน้าผลงานเศรษฐา

นิด้าโพลตบหน้ารัฐบาล คนส่วนใหญ่บอกชัดไม่พอใจการทำงานยุคเศรษฐา สุดเชื่องช้าไร้การเปลี่ยนแปลงตามราคาคุย ซ้ำร้ายความเชื่อมั่นดิ่งเหว  แต่คาดการณ์อนาคต “เสี่ยนิด” ยังยึดเก้าอี้แน่น นายกฯ ตีมึนบอกน่าคิด  สัปดาห์ก่อนโพลสถิติแห่งชาติยังอวย ข้องใจถามเกษตรกรหรือเปล่า

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนเรื่อง “ขอถามบ้าง … 9 เดือนรัฐบาลนายกฯ  เศรษฐา” ซึ่งทำการสำรวจประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน  ในรอบ 9 เดือน

โดยเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐาในรอบ 9 เดือน พบว่า 34.35% ระบุว่าไม่ค่อยพอใจ เพราะการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ มีความล่าช้า และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจากเดิม, 31.69% ไม่พอใจเลย เพราะไม่มีความก้าวหน้าในการทำงานและไม่สามารถทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้,  25.19% ค่อนข้างพอใจ เพราะมีความพยายามผลักดันนโยบายต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และเห็นผลงานที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา, 7.40% พอใจมาก เพราะมีความตั้งใจในการทำงาน ช่วยเหลือประชาชน ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น และ 1.37% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศ  พบว่า 35.95% ไม่เชื่อมั่นเลย เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ผลงานยังไม่ชัดเจน แก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ, 35.04% ไม่ค่อยเชื่อมั่น เพราะการทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด, 22.14% ค่อนข้างเชื่อมั่น เพราะมีประสบการณ์ในการทำงาน มีทักษะด้านการบริหาร สามารถทำให้ประเทศพัฒนาขึ้นได้, 5.42% เชื่อมั่นมาก เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา มีการบริหารที่ดี สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ และ 1.45% ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐบาลภายในเวลา 2 เดือน พบว่า 43.44% ระบุว่านายกฯ  เศรษฐายังอยู่ในตำแหน่งเหมือนเดิม,  15.65% พรรคร่วมรัฐบาลยังคงเหมือนเดิม, 15.50% จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี, 10.92% จะมีการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่, 10.46% จะมีการเปลี่ยนนายกฯ แต่ยังคงมาจากพรรคเพื่อไทย, 6.56% จะมีการเปลี่ยนนายกฯ โดยนายกฯ คนใหม่จะมาจากพรรคฝ่ายค้าน,  6.11% จะมีการสลับขั้วทางการเมืองเปลี่ยนรัฐบาล, 4.58% จะมีการเปลี่ยนนายกฯ โดยนายกฯ คนใหม่จะมาจากพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน, 3.21% สส.ฝ่ายรัฐบาลจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น, 3.05% ระบุว่า จำนวนพรรคร่วมรัฐบาลจะลดลง, 2.60% จำนวนพรรคร่วมรัฐบาลจะเพิ่มขึ้น และ สส.ฝ่ายรัฐบาลจะมีจำนวนลดลงในสัดส่วนที่เท่ากัน และ 12.67% ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ขณะเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความมั่นคง การเมือง เงินดิจิทัล กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ  จำนวน 1,095 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงการสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลให้ทำระหว่างความมั่นคงของชาติกับแจกเงินดิจิทัล พบว่าเสียงของประชาชนแตกออกเป็น 3 กลุ่มในสัดส่วนพอๆ กันคือ  35.7% สนับสนุนรัฐบาลให้ทำเรื่องความมั่นคงของชาติมากกว่า ในขณะที่ 31.3% สนับสนุนรัฐบาลให้แจกเงินดิจิทัลมากกว่า และ 33% ไม่มีความเห็น

เมื่อสอบถามถึงกระแสความคิดเห็นของประชาชนต่อประเด็นสำคัญทางการเมืองและความมั่นคง พบว่าส่วนใหญ่หรือ 93.6% รู้สึกหมดหวังกับองค์กรอิสระของประเทศไทย, 87.1% ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง การบริหารราชการ การแก้ไขปัญหาเดือดร้อนของประชาชน และ 83.4% ปัญหาการเลือกตั้ง สว.จะบานปลาย ในขณะที่ 54.9% ประเทศมหาอำนาจต่างชาติพยายามชี้นำฝ่ายการเมืองไทย เอื้อประโยชน์ต่างชาติ และ 48.4% ประเทศใกล้เคียงประเทศไทย เช่น กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม กำลังพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อ 40 สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญจัดการกับนายกฯ ส่วนใหญ่หรือ 61.2% ไม่เห็นด้วย ในขณะที่ 38.8% เห็นด้วย

ด้านนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจนิด้าโพล ในระหว่างลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง ว่าน่าคิดอยู่เหมือนกัน เพราะสำนักงานสถิติแห่งชาติก็เพิ่งเผยผลสำรวจออกมาว่าตัวเลขออกมาใช้ได้ แต่อีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง นิด้าโพลก็มีผลสำรวจออกมาในลักษณะย้อนแย้ง  แต่ก็ยินดีว่าเสียงที่เราควรได้ยิน ไม่ใช่เฉพาะเสียงชื่นชมอย่างเดียว ควรจะเป็นเสียงที่มีการติด้วย แต่เราก็ต้องดูว่าวิธีการทำสถิติและการไปเก็บตัวเลขเป็นอย่างไร  ครบทุกหมวดทุกเหล่าหรือเปล่า ถามเกษตรกรหรือเปล่า คิดว่าก็ต้องลงในรายละเอียดด้วย

“สมมุติว่ามีความรู้สึกว่าไม่พอใจ ผมก็คิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่กับผมตรงนี้เรามีความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน และเราก็น้อมรับในผลโพลที่ออกมา เราเองก็ต้องพยายามทำให้ดีขึ้น”นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าในไตรมาส 4 ตัวเลขเศรษฐกิจหรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) จะดีขึ้น นายกฯ กล่าวว่า มั่นใจ

เมื่อถามต่อว่า แต่ภาคเอกชนเป็นห่วงภาคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ นายกฯ กล่าวว่า เหมือนทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์ เรื่องของการเมืองนั้นก็อยู่ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจไทย รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหมด แต่หน้าที่ของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เป็นฝ่ายบริหารก็ต้องทำหน้าที่บริหารต่อไป และพยายามลดทอนในเรื่องของความขัดแย้งหรือการใช้คำพูดอะไรที่เป็นการท้าทาย เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าการเมืองคืออะไร แต่ก็ต้องไม่ให้เรื่องเหล่านี้มาบั่นทอน แต่ละคนมีหน้าที่อะไรก็ขอให้ทำกันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าเราเอาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นที่ตั้ง  เชื่อว่าถนนการเมืองทุกเส้นก็วิ่งสู่ความต้องการของพี่น้องประชาชน ใครจะมีวิธีการอย่างไรก็น้อมรับและยินดีรับฟัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!

"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย

‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา

กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ

เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่

"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน

‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’

ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ