กกต.โต้ข่าวมั่วฮั้วเลือกสว. ธนาธรซัดจ้องล้มกระดาน

"กกต." แจงข่าวเท็จปมอ้างคนเข้าไปชิงรอบตัดเชือกเลือก สว.ระดับประเทศ 149 คน ขณะที่ "สว.สมชาย" จี้ กกต.เร่งสอบ ชี้โพยก๊วนฮั้วเผยแค่ภูเขาน้ำแข็ง แต่ถูกผู้สมัคร สว.โวยขอความเป็นธรรมพร้อมเหน็บเป็นผู้รู้ กม. กลับทำคนอื่นเสียหาย "ไอติม" โดดป้องบางรายชื่อ     "ธนาธร" ซัดคนเห็นแก่ตัวเล่นเกมล้มเลือกตั้ง   

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน สำนักงาน​คณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.)​ ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีการนำเสนอข่าวการเลือก ส.ว.ที่มีความคลาดเคลื่อน      ระบุว่า ตามที่มีผู้นำข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง โดยนำข้อมูลดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก ว่า “...เหตุใดยังไม่ถึงวันเลือกรอบแรกในระดับอำเภอตามที่ กกต.กำหนดนัดหมาย เหตุใดในบัญชีโพยผู้สมัครทั่วประเทศ เขามีรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบผ่านด่านจากอำเภอ และผ่านจังหวัดไป เข้ารอตัดเชือกเลือกในระดับประเทศแบบนอนมา ถึง 149 คนแล้ว...”

กกต.ขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง กล่าวคือ ขณะนี้ การเลือกผู้สมัคร สว. ในระดับอำเภอ, ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ยังไม่ได้ดำเนินการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร สว. การเสนอข่าว “...เข้ารอตัดเชือกเลือกในระดับประเทศแบบนอนมา ถึง 149 คนแล้ว...” นั้น จึงเป็นการคาดเดาของผู้เสนอข่าวโดยไม่มีมูลความจริง และปราศจากพยานหลักฐาน เพื่อยืนยันว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นความจริง ทั้งนี้ กกต.ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ทำการตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของผู้สมัคร สว.ทุกราย หากพบการกระทำความผิด กกต.จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉียบพลัน

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ผู้สมัครคัดเลือกสว. และ บ.ก.ประชาไท เข้ายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หลังจากที่นายสมชาย แสวงการ สว. ได้โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้สมัคร สว. 149 คน อาจเข้าข่ายกระทำการฮั้วคัดเลือก สว. เนื่องจากแต่ละกลุ่มอาชีพมีผู้สมัครไม่เกิน 2 คน โดยนายเทวฤทธิ์กล่าวว่า รายชื่อที่นายสมชายได้โพสต์ได้มีการระบุตัวอักษรย่อของชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ลงสมัคร จังหวัด อำเภอ รายชื่อ และช่วงนี้อยู่ในช่วงของการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 149 รายชื่อ โดยจะรู้ได้เลยว่าในรายชื่อเหล่านั้นมีใครบ้าง 

ทั้งนี้ นายสมชายเคยเป็นหนึ่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2549,  2557 รวมถึงดำรงตำแหน่งเป็น สว. รวมถึงยังเคยทำดุษฎีนิพนธ์ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ที่เหมาะสมกับสังคมไทย นั่นแปลว่านายสมชายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า 149 รายชื่อเป็นใคร รวมถึงสื่อก็สามารถรู้ได้เช่นกันว่ามีใครบ้าง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าว แต่นายสมชายไม่ยี่หระ ไม่ได้มีการตรวจสอบ หรือแก้ต่างให้ด้วย ซึ่งถ้าหากพูดถึงความเป็นธรรม นายสมชายก็เคยเป็นนักข่าวเก่า ก็ควรจะให้ความเป็นธรรมกับตนและคนอื่นๆ บ้าง ซึ่งคนที่มีรายชื่อได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว แม้เป็นเพียงตัวอักษรย่อก็ตาม

ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค  วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. และมีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คนว่า โพยที่เกิดขึ้นมาจากแหล่งข้อมูลดิบ ที่ตนคิดว่าทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือก สว. เพื่ออยากให้ได้ สว.ที่เป็นตัวแทนกลุ่มอาชีพ ทั้ง 20 กลุ่มด้วยความซื่อสัตย์ เที่ยงธรรม  และสุจริตตามที่ กกต.ต้องการ

นายสมชายกล่าวด้วยว่า ขณะนี้พบข้อมูลว่ามีผู้สมัครบางส่วนรับรองกันเอง โดยมีภาพของการขนคนทั้งหมู่บ้าน โดยฝ่ายที่มีผลประโยชน์จะมาฮั้วมาบล็อกโหวต ซึ่งทั้งหมดเป็นเพราะกฎหมายมีการเปิดช่องให้ทำได้ และถ้าพฤติกรรมเหล่านี้ผ่านการเลือกระดับอำเภอมาสู่ระดับจังหวัด แล้วจะมีช่องสู่ระดับประเทศ เพราะไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้ ซึ่งในจังหวัดที่พบว่ามีข้อพิรุธคือ สมุทรสาคร เพชรบุรี สระบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สตูล สงขลา ซึ่งมีการร้องเรียน แต่ยังไม่เห็นปฏิกิริยา กกต.ว่ามีการตรวจสอบ

"โดยสรุป 149 คน เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหาขบวนการทั้งหมด ผมไม่เคยระบุและไม่เคยสนใจชื่อบุคคลเหล่านั้น และไม่ตรวจด้วยว่าท่านเป็นใคร ข้อมูลนั้นจะตรงหรือไม่ตรง จะเป็นการเช็กทางสถิติหรือเป็นการฮั้วหรือไม่ ผมตั้งคำถามให้ กกต.ได้ตอบว่าท่านตรวจสอบแล้วหรือยัง ว่ามันมีข้อบกพร่องของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หรือระเบียบของ กกต. หรือมีการจัด ฮั้วหรือบล็อกโหวตจริงหรือไม่ และฝากสื่อมวลชนทำหน้าที่แทนประชาชน ตรวจสอบการเลือก สว.ครั้งนี้ และขอให้ กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ละเอียด เชื่อว่าหาข่าวได้อยู่แล้ว" นายสมชายกล่าว

เมื่อถามว่า นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. มองว่าอาจมีการล้มกระดานในการเลือก สว.ครั้งนี้ นายสมชายกล่าวว่า เป็นเรื่องของนายเสรี ไม่ใช่เรื่องของตน เชื่อว่าการที่ตรวจสอบจะทำให้การเลือก สว. เป็นไปอย่างถูกต้องและไม่ล้ม แต่ถ้าปล่อยไป ให้การเลือกไปถึงขั้นสุดท้ายระดับประเทศ ตนไม่ทราบว่าใครได้รับประโยชน์ เพราะความผิดจะสำเร็จต่อไป และมีผู้ร่วม กระทำผิดกว่า 2 หมื่นคน ต่างกรรมต่างวาระ เพราะรับจ้างตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน เวลารับโทษก็ต้องนับโทษ ตามกรรมตามวาระ หากปล่อยไว้จะทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านเป็นเหยื่อการเมือง

ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวกรณีนายสมชายเปิดเผยถึงโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. โดยมีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คน ว่าไม่ทราบว่าโพยนั้นมีจริงหรือไม่ ตามที่มีข่าวหลุดมาจากที่สื่อหลายสำนัก และไม่แน่ใจ แต่หากมีจริงก็เป็นหน้าที่ของ กกต.  อยากให้ กกต.ทำหน้าที่ให้การเลือก สว. ครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่อยากให้มีการกะเกณฑ์มาหรือล็อก เพราะจะทำให้สุขภาพของประชาธิปไตยไทยไม่ดี และหากตั้งใจ ทำจริงๆ เหลือเวลา 3-4 วัน ในการตรวจสอบรายชื่อ 149 คน ก็เชื่อว่าจะทันวันเลือกระดับอำเภอ พร้อมให้กำลังใจ กกต.ขอให้จัดการเลือก สว.ครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อถามว่า สว.ชุดปัจจุบันเชื่อว่ามีกระบวนการล้มกระดานเลือก สว.ชุดใหม่ นายธนาธรร้องโอ้โห พร้อมระบุว่า คงเห็นแก่ตัวเกินไป ตนมองว่าเดินมาถึงขณะนี้ ต่อให้กฎกติกาการเลือก สว.ครั้งนี้เราไม่พอใจ แต่ก็เดินหน้ามาแล้ว คงต้องปล่อยให้มี สว.ชุดใหม่เกิดขึ้น และเชื่อว่า สว.ชุดใหม่จะดีจะเลวอย่างไร ก็น่าจะมีความยึดโยงกับประชาชน มากกว่า สว.ชุดปัจจุบันแน่นอน ทั้งนี้ จะไปสังเกตการณ์การเลือกสว.ด้วยตัวเอง แต่จะเป็นที่ใดจะพิจารณาอีกที

ถามอีกว่า สุดท้ายการเลือก สว.จะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่ เพราะแม้แต่เลขาธิการ กกต.เองยังออกมาเปิดเผยถึงเรื่องขบวนการล้มและลากการเลือก สว.ครั้งนี้ นายธนาธรกล่าวว่า จริงๆ แล้วกฎกติกาออกมาเป็นแบบนี้ ทุกฝักทุกฝ่ายพยายามที่จะเล่นเกมกับกติกานี้

ดังนั้นถ้าจะโทษ ต้องโทษคนร่างรัฐธรรมนูญ ที่ร่างรัฐธรรมนูญเขียนกฎกติกาการเลือก สว.แบบนี้ ทุกคนก็พยายามเล่นเกมตามกฎกติกาที่ออกมา ตนคิดว่าเราไม่ชอบกฎกติกาแบบนี้ แต่เราก็เชื่อว่าต่อให้เป็นกฎกติกาแบบนี้ อย่างไรก็จะมี สว.ที่ยึดโยงกับประชาชน ที่ไม่รับใบสั่งจากผู้มีอำนาจทางการเมืองเข้าไปอยู่ในวุฒิสภามากกว่าเดิมแน่นอน ดังนั้นควรปล่อยให้การเลือก สว.แบบนี้ดำเนินหน้าต่อไป

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่องโพยก๊วน 149 ผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบนั้นว่า ประเด็นเรื่อง 149 รายชื่อ ตนเข้าใจว่าอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง ก็เห็นบางคนที่อยู่ในรายชื่อออกมาชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้อง เผอิญว่าเป็นรายชื่อที่อาจจะเป็นคนที่สมัครในกลุ่มอาชีพ ในอำเภอ ที่มีผู้สมัครน้อย ทำให้มีโอกาสเข้ารอบไปสู่ระดับจังหวัดค่อนข้างสูง ดังนั้น ต้องฝากทุกฝ่ายช่วยกันตรวจสอบ อะไรที่มีการจัดตั้งหรือทำผิดกฎหมายต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น.