กกต.ตื่นสอบฮั้วเลือกสว. ‘สมชาย’ขู่ติดคุกทั่วหน้า!

กกต.ประกาศกฎเหล็กจัดสถานที่เลือก สว.ระดับอำเภอ-จังหวัด ไฟเขียว ปชช.ร่วมสังเกตการณ์ ขณะที่ ประธาน กกต.ตีมึนสอบโพยว่อนโซเชียล อ้างยังไม่ได้รับรายงาน ด้าน "แสวง" จุดกระแสอ้างพบกลุ่มเคลื่อนไหว “เลื่อนลาก ล้ม เลือกแต่กดดัน” ด้าน กมธ.องค์กรอิสระเรียกบิ๊ก กกต.ร่วมวง เผยสัญญาณอันตรายแรงล้มกระบวนการ ผงะ! โผล่เป็นดอกเห็ดหลายพื้นที่จ้างลงสมัคร “สมชาย” ขีดเส้นเกียร์ว่างฮั้วเลือก สว.คุกระนาวแน่

เมื่อวันจันทร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่าด้วยระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 กำหนดให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอประกาศกำหนดสถานที่เลือกในเขตอำเภอภายในวันที่ 2 มิ.ย. 2567 และผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดประกาศกำหนดสถานที่เลือกในเขตจังหวัดนั้น ภายในวันที่ 9 มิ.ย. 2567    

ซึ่งสถานที่เลือกดังกล่าวต้องเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก มีขนาดเหมาะสมและเพียงพอต่อการดำเนินการเลือก และควรกำหนดสถานที่ที่เป็นอาคารที่มีแสงสว่างเพียงพอ พร้อมทั้งให้มีป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใด เพื่อแสดงกลุ่มที่ดำเนินการเลือกและสายที่ดำเนินการเลือก รวมทั้งขอบเขตบริเวณของสถานที่เลือกไว้ด้วย 

ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความสะดวกในการลงคะแนนของคนพิการหรือทุพพลภาพ ผู้สูงอายุหรือผู้ประสบปัญหาในการใช้สิทธิเลือก และสามารถควบคุมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยได้ ควรเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถมองเห็นและสังเกตการณ์ในกระบวนการเลือกได้ โดยให้ปิดประกาศไว้ที่ว่าการอำเภอ หรือศาลากลางจังหวัดแล้วแต่กรณี สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด สถานที่เลือกในวันเลือก และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร  

ซึ่งประชาชนสามารถติดตามประกาศกำหนดสถานที่เลือกทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัดได้จากช่องทางดังกล่าว และร่วมสังเกตการณ์ในกระบวนการเลือกระดับอำเภอ ในวันที่ 9 มิ.ย. 2567 และการเลือกระดับจังหวัดในวันที่ 16 มิ.ย. 2567 สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกกำหนด

ที่ท้องสนามหลวง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยโพยก๊วนฮั้วเลือก สว. มีรายชื่อระดับประเทศออกมา 149 คนว่า "คงไม่จริงมั้งครับ ขณะนี้สำนักงานกำลังตรวจสอบอยู่ โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานมายังผม" เมื่อถามว่า คนที่ออกมาเปิดเผยจะมีความผิดหรือไม่ ประธาน กกต. กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ไม่สามารถตอบทันทีได้ การพิจารณาของ กกต.ต้องเข้าคณะที่ประชุม

เมื่อถามว่า กรณีมีคนออกมาข่มขู่หากการเลือก สว.ส่อทุจริตให้เลื่อนออกไปก่อน ประธาน กกต.กล่าวว่า เรื่องนั้นต้องดูข้อกฎหมาย หากพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำผิดไม่จำเป็นต้องสอยทีหลัง ยืนยันเราต้องดูข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทุกเรื่อง และต้องดูว่าที่สุดแล้วจะมีคำร้องอะไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ส่งข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ภายในของสำนักงาน กกต. ถึงพนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า พร้อมรับมือแรงเสียดทาน พี่น้องชาว กกต. อีก 6 วันก็จะถึงวันเลือก สว.ระดับอำเภอแล้ว จากนี้ไปอาจมีแรงเสียดทานที่จะเกิดกับการทำงานของเรามากขึ้น จะหนักจะเบาก็ขึ้นกับสถานการณ์วันต่อวันจากนี้ไป 

นายแสวงระบุว่า เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์และความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา รวมทั้งการรับข้อมูลจากหลายด้าน มีสัญญาณมาโดยตลอดว่า นับแต่มีพระราชกฤษฎีกาเลือก สว. ก็จะมีแรงเสียดทานเข้มข้นมากขึ้นตลอดมา ซึ่งแรงเสียดทานอาจมีรูปแบบเป็นไปตามลักษณะและพฤติการณ์การแสดงออกของกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีแรงจูงใจทางการเมืองทั้งที่ไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง

 “พอจะจำแนกได้เป็นรูปแบบที่ 1 เลื่อนหรือลากการเลือก สว.ออกไป รูปแบบที่ 2 ล้มการเลือก สว. รูปแบบที่ 3 เลือกแต่กดดันให้ได้ผลตามเป้าหมายที่หวังไว้ แต่ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ขอให้เป็นแค่การคาดการณ์ อย่าให้เกิดขึ้นจริง เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงย่อมไม่เกิดผลดีกับบ้านเมืองอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากจะเกิดขึ้นจริงก็น่าจะเป็นเพียงความต้องการของคนบางกลุ่มเท่านั้น ผมว่าเรารับมือเรื่องนี้ได้อย่างมีชั้นเชิง” นายแสวงระบุ

นายแสวงระบุด้วยว่า ถ้ามีคนคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น เพราะบ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย ตนว่าเรารับมือเรื่องแบบนี้ได้อย่างสบาย นิ่ง มีสติ ใช้ปัญญา มีเป้าหมายด้วยหวังดีต่อชาติบ้านเมือง เราต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน ช่วยส่งกำลังใจต่อไปถึงน้องๆ พนักงานทุกคนด้วย สำนักงานเองก็จะมอนิเตอร์เรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา  เพื่อเป็นร่มกันฝนและพายุให้แก่พนักงานทุกคน ขอให้ทำงานเพื่อชาติด้วยความสบายใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ วุฒิสภา ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นประธาน กมธ. ได้นัดประชุม วันที่ 6 มิ.ย. โดยมีวาระพิจารณากระบวนการเลือก สว. ซึ่งได้เชิญเลขาธิการ กกต.เข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้ นายกษิดิศ อาชวคุณ สว. ในฐานะโฆษก กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ได้รับทราบข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ว่ามีทั้งการฮั้ว การส่งตัวแทนเพื่อให้โหวตพวกเดียวกัน ทำให้คนที่มีศักยภาพและตั้งใจจะเป็น สว.อาจไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประเด็นเรื่องโพยก๊วนฮั้ว สว. จะต้องหารือกับเลขาฯ กกต.อย่างไร นายกษิดิศกล่าวว่า ต้องสอบถาม กกต.ว่าจะจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้กมธ.และอนุ กมธ.ที่ติดตามเรื่องดังกล่าวได้ติดตามปัญหาทุกสัปดาห์ และสะท้อนในประเด็นข้อห่วงใยให้ กกต.ไปพิจารณาดำเนินการ

เมื่อถามถึงประเด็นที่ผู้สมัคร สว.นครศรีธรรมราชถูกตัดสิทธิ และออกมาเปิดเผยว่าถูกว่าจ้างให้ลงสมัคร โดยได้ค่าจ้าง 2,500 บาท ถือเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ นายกษิดิศกล่าวว่า ไม่ได้มีเฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราช เพราะเครือข่ายนี้เขาเชื่อมโยงกันหมดและมีทั่วไป บางพื้นที่เขาให้เงินมากกว่านั้นหลักหมื่นบาท และข้อเสนอต่างๆ ให้กับผู้ที่เข้าไปช่วย ถือเป็นสัญญาณอันตรายมากที่สุด

 “สว.ไม่มีอำนาจไปสั่ง แต่ได้แสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ เพราะได้ทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนการล้มนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก กกต.ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น  เพราะ กกต.ไม่ได้ทำงานในหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งที่มีผู้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ แต่ กกต.ละเลย กกต.ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพน้อย ดังนั้นหากมีกระบวนการล้ม จากที่ฟังกระแสและข้อมูลต่างๆ ทั่วประเทศ จะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้น กลายเป็นความล้มเหลวที่จะได้ สว.ปฏิบัติหน้าที่ตามเจตนาของรัฐธรรมนูญ” นายกษิดิศกล่าว

นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก  ระบุว่า "งานนี้มีสิทธิ์ติดคุกกันถ้วนทั่ว ทั้งนักการเมืองผู้จ้างวาน เจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผู้รับจ้างลงสมัคร และผู้รับรองผู้สมัคร กกต.ต้องเร่งสืบสวนสอบสวน กรณีหนุ่มชาวสวนอ้างถูกจ้างสมัคร สว.ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  และใช้โมเดลนี้ตรวจสอบผู้สมัครทั่วประเทศ"

นายสมชายระบุด้วยว่า "โดยมีข้อเสนอตามกฎหมายดังนี้ 1) สืบสวนสาวให้ถึงนักการเมืองท้องถิ่นผู้ว่าจ้าง และหากมีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ขบวนการจ้างลงสมัคร สว.เพื่อจัดฮั้วโดย กกต.ควรกันบุคคลดังกล่าว คือหนุ่มชาวสวนรายนี้และบุคคลอื่นที่ถูกจ้างลงสมัครไว้เป็นพยาน 2) ดำเนินการเอาผิดอย่างจริงจังต่อผู้ใช้จ้างวานและผู้บงการ และ กกต.ต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายฟอกเงินตาม พ.ร.บ. ป.ป.ง ซึ่งมีโทษจำคุกและบทลงโทษหนักด้วย

ข้อสังเกต จากสถิติที่มีประชาชนแห่ลงสมัคร สว. จำนวนมากถึง 48,000 กว่าคนนั้น เริ่มปรากฏข่าวและข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับว่า อาจมีขบวนการจ้างชาวบ้านลงสมัคร สว. ซึ่งชาวบ้านอาจมีความผิดติดคุก 1-10 ปี ถูกตัดสิทธิ 20 ปีจำนวนมาก และหากเป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ทางสถิติของอาจารย์ลอย ว่าอาจมีการจัดตั้งผู้สมัครถึง 53% นั้น นั่นหมายถึงว่าอาจมีชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมายถูกจ้างมาสมัครมากถึง 25,000 คน"

 “และเมื่อสมัครแล้วไม่สามารถถอนตัวได้ จึงเป็นการกระทำผิดต่อเนื่อง ร่วมกับขบวนการไปทุกขั้นตอนต่างกรรมต่างวาระจากระดับอำเภอ ไปจังหวัดหรือต่อเนื่องไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งหากตรวจสอบพบภายหลังการเลือกกันเสร็จสิ้นลง จะทำให้การเลือก สว.ครั้งนี้อาจมีปัญหาตามมามากขึ้น หรืออาจล้มลงได้ จึงอยากให้คณะกรรมการ กกต.และเลขาฯ กกต.เร่งสั่งการให้สืบสวนหาข่าวทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อหาทางเร่งแก้ไขโดยด่วนครับ” นายสมชาย ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นันทนา' คึก! ลั่นปฏิบัติการ สว.เล็กเปลี่ยนสภา

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะแกนนำสว.พันธุ์ใหม่ ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ปฏิ