ปูดโพยก๊วนบล็อกโหวตเลือกสว.

“สมชาย” ปูดมีโพยก๊วนบล็อกโหวต สว. 149 รายออกมาแล้ว จี้ กกต.ต้องเร่งคุ้ยอย่าเงียบหาย “เสรี”   บอกต้องมีหลักฐาน หวั่นมีเกมล้มกระดานทำการเมืองวุ่นวาย เพราะสภาสูงลากตั้งต้องอยู่ยาว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2567   ยังคงมีความต่อเนื่องจากการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในระดับอำเภอที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. โดยนายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ฮั้วเลือก สว.บล็อกโหวต ระบุว่า  โพยก๊วนฮั้วรู้คนได้ สว.แล้ว แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่รู้ กกต.ช่วยตอบหน่อยว่าเหตุใดยังไม่ถึงวันเลือกรอบแรกในระดับอำเภอตามที่ กกต.กำหนดนัดหมาย เหตุใดบัญชีโพยผู้สมัครทั่วประเทศ มีรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ ผ่านด่านจากอำเภอ และผ่านจังหวัดไปเข้ารอตัดเชือกเลือกในระดับประเทศแบบนอนมาถึง 149 คนแล้ว มีช่องว่างหรือบกพร่องตรงไหน บกพร่องตรงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือระเบียบ กกต. หรือการจัดฮั้วส่งคนบล็อกโหวตของพรรคการเมือง หรือ กกต.คาดไม่ถึงแบบที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บางท่านยอมรับ เรื่องนี้ต้องร้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตามคำแนะนำของอดีต กรธ. นายชาติชาย ณ  เชียงใหม่ เพื่อแก้ไขด้วยหรือไม่อย่างไร อยากได้คำตอบจาก กกต.

ทั้งนี้ นายสมชายยังได้นำข้อมูลที่ระบุว่าเป็นรายชื่อผู้สมัคร สว.ที่ผ่านการคัดเลือกจากระดับอำเภอ ระดับจังหวัด  เบื้องต้น 149 คน ที่ได้เข้ารอบตัดเชือกไปรอในระดับประเทศมาเปิดเผยด้วย   โดยระบุเป็นอักษรย่อชื่อ-สกุล เลขกลุ่มและจังหวัด อาทิ มา ณร 9 เพชรบูรณ์,  ภค วล 12 เพชรบูรณ์, วุ โร 12  เพชรบูรณ์, ยง สร 8 แพร่, สุ กึ 8 แพร่, กฤ ทอ 11 แพร่, สุ ธร 10 แม่ฮ่องสอน,  สา วง 12 กระบี่ และ สห รุ 10  กาญจนบุรี เป็นต้น พร้อมทิ้งท้ายว่า กกต.มีหน้าที่อย่าขี้ลืม

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวประเด็นนี้ว่า กกต.ในฐานะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการเลือก สว. ต้องติดตามตรวจสอบ แต่การกล่าวหาไม่ควรกล่าวอ้างแบบลอยๆ ควรมีหลักฐานมาแสดง หรือบุคคลที่อยู่ในการเลือก สว.นั้นออกมายอมรับเอง ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นการพูดโดยไม่มีหลักฐาน อาจมีเจตนาที่ทำให้เกิดกระบวนการล้มกระดานการเลือก สว. ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ เพราะถึงเวลาต้องเปลี่ยน สว.แล้ว แต่เปลี่ยนไม่ได้ อีกทั้งรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติจำกัดวาระของ สว.ไว้ หากประกาศ สว.ใหม่ไม่ได้ คนเก่าอยู่ต่อ บ้านเมืองอาจจะวุ่นวายได้

นายเสรีกล่าวด้วยว่า สำหรับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มี สว.ผ่านการเลือกกันเอง และมีการจ่ายเงินค่าสมัคร ดังนั้นใครที่สมัครเข้าไปสู่กระบวนการเพื่อไปเลือกหรือสมัครไปโหวตนั้น สามารถทำได้โดยไม่ผิดกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ยกเว้นพบการกระทำที่มีการใช้เงินว่าจ้าง หรือใช้เงินซื้อคะแนนโหวต ซึ่ง กกต.ต้องจัดการกับผู้ที่ทำผิด

 “ผมมองว่าที่เปิดประเด็นการฮั้วเลือก สว. หากมีหลักฐานต้องเอาผิด และ กกต.ต้องทำให้เรียบร้อย ส่วนไทม์ไลน์ที่ กกต.วางไว้ว่าจะประกาศ สว.ใหม่ใน 2 ก.ค.นั้น ผมสนับสนุนให้ประกาศไปก่อน หากมีประเด็นต้องตรวจสอบหรือเอาผิด สามารถย้อนหลังได้ เพราะกระบวนการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต้องใช้เวลาและมีขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรมกว่าจะได้ข้อเท็จจริงปรากฏเป็นข้อยุติ” นายเสรีกล่าว

เมื่อถามว่า หากการเลือก สว.ส่อทุจริตให้ กกต.ระงับการรับรองผลเลือก สว.ไปก่อน เพราะหาก กกต.เร่งประกาศไปก่อนอาจเป็นการกระทำที่ส่อผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157   นายเสรีกล่าวว่า เป็นเจตนาที่ต้องการข่มขู่ กกต.แบบรายวัน เพราะตามกฎหมายแล้ว กกต.มีดุลยพินิจ และรัฐธรรมนูญให้สิทธิ กกต.ตัดสินใจ ซึ่งไม่ว่าใครต้องยอมรับในหลักการและกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

นายเสรีกล่าวอีกว่า กระบวนการเลือก สว.ที่เกิดขึ้นก่อนการลงคะแนนเลือกระดับอำเภอ เชื่อว่ามีความโกลาหลพอสมควร โดยเฉพาะกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ เช่น การเสียสิทธิของผู้สมัคร เพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วน บางอำเภอมีผู้สมัครเพียงรายเดียว ทำให้เลือกไขว้ไม่ได้ ส่วนประเด็นที่ว่ามีการฮั้วหรือจัดตั้งนั้น หากมีหลักฐานการใช้เงินว่าจ้างสมัครต้องดำเนินคดีเป็นรายบุคคล แต่ไม่ควรล้มกระดานการเลือก สว.ทั้งหมด ซึ่งในกระบวนการล้มกระดานนั้น อาจทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนได้ เพราะอาจมีคนที่ชอบและไม่ชอบให้อยู่ยาว.