‘ศรีสุวรรณ’โผล่ ยื่นร้องศาลปค. ประมูลข้าว10ปี

“ศรีสุวรรณ” โผล่ร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว ระงับการประมูลข้าวเก่า 10 ปี หวั่นข้าวมีสารปนเปื้อนเล็ดลอดกระทบสุขภาพประชาชนและชื่อเสียงข้าวไทย จี้ตั้ง กก.กลางทดสอบคุณภาพ “ที่ปรึกษาภูมิธรรม” โต้ทันควันทำไมไม่ร้องรัฐบาลที่แล้วที่เปิดประมูลบ้าง     

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2567 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้เดินทางมายื่นหนังสือฟ้องต่อศาลปกครอง โดยระบุว่า ได้รับมอบอำนาจประชาชนที่กังวลต่อกรณีรัฐบาลมีนโยบายนำข้าวสารเก่าที่อายุ 10 ปี จากโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในโกดังจังหวัดสุรินทร์ทั้ง  2 โกดัง ปริมาณ 15,000 ตัน ออกมาประมูลขาย โดยไม่ให้ผู้เข้าร่วมประมูลตรวจสอบคุณภาพข้าว ทั้งที่มีข้อมูลที่ขัดกันระหว่างนักวิชาการจากสถาบันวิชาการต่างๆ กับข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เกี่ยวกับคุณภาพของข้าวเก่า 10 ปีจะนำมาบริโภคได้หรือไม่ โดยประชาชนไม่รู้จะเชื่อข้อมูลของใครดี

นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า ได้มายื่นฟ้ององค์การคลังสินค้า (อคส.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ต่อศาลปกครองกลาง ในข้อหาดำเนินการประมูลขายข้าวเก่า 10 ปีขัดต่อประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณามีคำสั่งระงับ หรือให้ อคส., พณ. หรือ นบข. สั่งทบทวนการจัดทำทีโออาร์ประมูลขายข้าวเก่าดังกล่าวเสียใหม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภคต่อไป 

“ในการยื่นฟ้องในวันนี้ ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือกำหนดมาตรการอย่างใดๆ เพื่อคุ้มครองชั่วคราว ด้วยการสั่งระงับการยื่นซองและเปิดซองประมูลข้าวดังกล่าวที่จะมีขึ้นในเดือน มิ.ย.2567 เพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนไว้ก่อนด้วย”

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า มีนักวิชาการและมหาวิทยาลัยต่างๆ ออกมาบอกว่าข้าวเก่าอายุ 10 ปีไม่มีคุณค่าทางอาหาร รวมถึงมีความเสี่ยงในเรื่องของจุลินทรีย์ เชื้อโรค และสารพิษ เพราะต้องมีการอบข้าวๆ ทุก 6 เดือนอยู่แล้ว โดยอาจมีสารพิษเหล่านี้เจือปนอยู่ แต่รัฐบาลมีความพยายามแก้เกม โดยส่งตัวอย่างไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พิสูจน์ แต่กรมวิทย์ได้พิสูจน์แล้วก็มีบางส่วนที่ระบุว่าข้าวมีการเจือปนของตัวมอด แมลงต่างๆ ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาเป็นอาหาร เพียงแต่ว่าสารพิษต่างๆ ที่มีคนวิตกนั้นไม่เกินไปกว่าที่มาตรฐานกำหนด แต่ในทางวิชาการการหยิบสุ่มตรวจข้าวไม่มีใครรู้ว่าสุ่มจากจุดไหนของกองข้าว หรือนำมาจากแหล่งใด เพราะกรมวิทย์อยู่ที่สำนักงานของตัวเอง เขาไม่ได้ไปสุ่มตรวจที่โกดังข้าว จึงเป็นข้อสงสัยอาจนำข้าวจากที่อื่นมาให้กรมวิทย์สุ่มตรวจก็ได้

 “การที่รัฐบาลผลักดันให้มีการออกมาจำหน่ายข้าว เพื่อให้ข้าวโครงการรับจำนำข้าวเมื่อปี 2555-2556 หมดไป อาจเป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่าคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะเงื่อนไขทีโออาร์ไม่มีข้อจำกัดให้ผู้ที่จะประมูลได้ดำเนินการนำข้าวดังกล่าวไปขายหรือจำหน่ายให้กับประชาชนในประเทศ ซึ่งการส่งออกข้าวก็จะเป็นการดิสเครดิตคุณภาพและชื่อเสียงของข้าวไทยที่สั่งสมมานับ 10 ปี 100 ปี” นายศรีสุวรรณกล่าว         

เมื่อถามว่า ประชาชนยังไม่เชื่อมั่นผลการตรวจสอบสารปนเปื้อนข้าวของรัฐบาล ควรเปิดโอกาสให้แล็บเอกชนมามาร่วมตรวจสอบได้หรือไม่ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า หากรัฐบาลมีความจริงใจต่อประชาชน ควรตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา โดยเชิญนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาหรือแล็บทดสอบต่างๆ มาดำเนินการตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยเริ่มตั้งแต่การไปสุ่มเก็บตัวอย่างให้เป็นไปตามหลักวิชาการในการสุ่มเก็บตัวอย่างกองข้าว ทั้งด้านข้าง ด้านกลาง ด้านใน  ต้องเก็บตัวอย่างให้ครบทุกพื้นที่ ไม่ใช่หยิบเอาตัวอย่างจากไหนมาก็ไม่รู้แล้วมาอ้างว่าเป็นข้าวมาจากโกดังข้าว ซึ่งประชาชนไม่มีใครสนใจแล้ววันนี้

ด้านนายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม) กล่าวโต้ว่า ควรพิจารณาว่าผู้ร้องมีเจตนาสุจริต หรือต้องการเคาะกะลา ข้าวล็อตนี้เคยนำออกประมูลมาก่อนหลายครั้ง ทำไมนายศรีสุวรรณไม่เคยร้องเรียน และในสมัยรัฐบาลก่อนเปิดประมูลข้าวกว่า 10 ล้านตัน อ้างว่าทั้งคนกินได้และกินไม่ได้ ถ้านายศรีสุวรรณต้องการปกป้องผู้บริโภคจริง ทำไมไม่เคยไปร้องศาลปกครองเลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง