ก.ตร.ถกปม‘โจ๊ก’ ยันไม่เพลี่ยงพล้ำ ยึดตามกฎหมาย

"เศรษฐา" ถก ก.ตร.หารือเรื่อง   "บิ๊กโจ๊ก" หลังกฤษฎีกาตอบข้อกฎหมาย   โยน รรท.ผบ.ตร.ตอบแทน "บิ๊กต่าย" ยันไม่เพลี่ยงพล้ำเซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการ ย้ำทุกอย่างยึดตามกฎหมายเป็นตัวตั้ง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 30 พฤษภาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2567 และการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งเป็นการประชุมที่ต่อเนื่องถึง 2 คณะด้วยกัน ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.   ก่อนลงมาชี้แจงกับสื่อมวลชน โดยยอมรับว่า ในที่ประชุม ก.ตร.วันนี้ มีการพิจารณาความเห็นของสำนักงานกฤษฎีกาเรื่องคำสั่งให้ออกจากราชการก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ส่วนรายละเอียด ให้รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็นผู้ชี้แจง

มีรายงานว่า ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ขึ้นมาหารือในที่ประชุม ใช้เวลาประมาณ 10 นาที รรท.ผบ.ตร.ไม่ได้ร่วมประชุมด้วย เพราะมองว่ามีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงการพิจารณากฤษฎีกาตีความเรื่องการออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า ในวาระนั้นตนไม่ได้นั่งอยู่ในที่ประชุม  ทั้งนี้มีการพิจารณาเรื่องคำร้อง แต่ตนต้องออกจากห้องประชุม เนื่องจากอาจจะมีการพิจารณาที่ไม่เป็นกลางได้ เพราะตนเป็นผู้ออกคำสั่งออกจากราชการ เมื่อเป็นผู้ออกคำสั่ง หากชี้แจงอะไร ข้อกฎหมายเกรงว่าอาจจะเข้าข้างตัวเอง เพราะกฎหมายหมายถึงตนอาจเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสีย

 “ส่วนคำสั่งออกจากราชการที่ผ่านมาผมไม่ได้พูดว่ามั่นใจในตัวคำสั่ง เพราะเป็นการพิจารณาตามที่ฝ่ายอำนวยการได้เสนอตามข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 จากนี้จึงเป็นเรื่องระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากับสำนักนายกรัฐมนตรี ในทางกฎหมายเป็นกระบวนการขั้นตอนที่ดำเนินการตามมาตรา 140 ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่ ผมไม่สามารถให้คำนิยามคำนี้ได้" รรท.ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ตามมาตรา 120 ต้องรอผลการพิจารณาจากคณะกรรมการชุดสืบสวน และจากคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) รวมทั้งจะมีการพิจารณาตามมาตรา 131 เรื่องบทลงโทษ ยืนยันว่ามีการพิจารณาตามขั้นตอนที่จะนำไปสู่มาตรา 140 คือการทูลเกล้าฯ ถวาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่กฤษฎีกาตีความประเด็นออกจากราชการกลับมาที่ตร. เป็นการเพลี่ยงพล้ำหรือไม่ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่เพลี่ยงพล้ำ ตร.ดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามมาตรา 140 ส่วนสถานะของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์   ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย การที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กระบวนการต่างๆ พิจารณาตามกฎหมาย ถ้าถามว่าสถานะเป็นอย่างไร คำตอบคืออยู่ในกระบวนการปฏิบัติที่ดำเนินการอยู่   พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังเป็นรอง ผบ.ตร. แต่หยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากคำสั่งออกจากราชการ

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สามารถเข้าร่วมประชุม ก.ตร.ได้หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ท่านน่าจะพิจารณาเองได้

"ไม่หนักใจในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะการลงนามคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ให้จนถึงที่สุดให้ดี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในอนาคต" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป