เจ้าสัว “บุณยสิทธิ์” วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจประเทศไทย เปรียบเหมือน “เศรษฐกิจหาเสียง” ไม่ได้มองระยะยาว แต่หากปรับตัวและตรงจุดยังมีโอกาส ชี้ปรับค่าแรงขั้นต่ำหนุนต่างชาติเข้าทำงานไทยมากขึ้น มองดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว "คลัง" ฟุ้ง ศก.เดือน เม.ย.ยังขยายตัวต่อเนื่อง อานิสงส์ท่องเที่ยวหนุน ต่างชาติเที่ยวไทยคึก ปลื้มส่งออกฟื้นตัว "บีโอไอ" โชว์ผลอนุมัติวีซ่าต่างชาติกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงรวม 5.6 หมื่นคน
เมื่อวันพฤหัสบดี นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า นโยบายเศรษฐกิจส่วนมากของเมืองไทย ส่วนตัวมองว่าเป็นเศรษฐกิจหาเสียง ไม่ใช่การพยายามผลักดันเศรษฐกิจอย่างแท้จริง พยายามโปรโมตเรื่องเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มองถึงระยะยาว และไม่กล้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ไม่มีเมกะโปรเจกต์เกิดขึ้น แต่หากถามว่าเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าดีกว่าในหลายประเทศ แม้ว่ากำลังซื้อในระดับล่างอาจจะยังฝืด แต่ระดับบนยังมีอำนาจการซื้ออยู่
“หากดูการเติบโตเศรษฐกิจของไทย ต้องบอกว่าถ้าเทียบกับทั่วโลกเรายังดีกว่ามาก แต่ก็ต้องรู้จักปรับตัว แต่ขณะเดียวกันหากเทียบกับเวียดนาม ก็อาจจะสู้เขาไม่ได้ เพราะเขาเติบโตเยอะ ส่วนจีนขนาดว่าเป็นประเทศขนาดใหญ่ก็ยังเติบโตถึง 5% แต่ของเราเล็กกว่ามาก และเติบโตได้น้อยกว่า ถามว่าประชาชนอึดอัดไหม ก็มีบ้าง แต่ไม่ถึงกับว่าไม่มีกินมีใช้ การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายวิธี มองว่ารัฐบาลเองก็ตั้งใจทำให้เศรษฐกิจดี แต่ต้องดูว่าตรงจุดไหม ถ้าตรงก็จะขึ้นเร็ว แต่ถ้าไม่ก็จะช้าหน่อย ถ้ารู้จักเปลี่ยนแปลงและทำให้เร็ว เศรษฐกิจไทยก็ยังมีโอกาสอยู่ ส่วนนายกฯ เองส่วนตัวมองว่าเป็นคนขยันดี” นายบุณยสิทธิ์กล่าว
สำหรับประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ นายบุณยสิทธิ์มองว่า ปัจจุบันคนไทยไม่ได้ทำงานในค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มก่อสร้าง หรือแม้แต่ธุรกิจบริการ ส่วนมากจะเป็นแรงงานจากต่างประเทศเข้ามาทำเพื่อรับค่าจ้างในค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า หากปรับค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นการส่งเสริมให้คนต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น ในส่วนของเครือสหพัฒน์ก็สนับสนุนมาตรการดังกล่าว เพราะหากค่าแรงเพิ่ม ก็จะมีการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้คำนึงถึงผลประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับ ไม่ใช่เป็นผลดีกับต่างชาติ
"โรงงานในเครือสหพัฒน์มีการจ่ายเกินค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าอุตสาหกรรมบางประเภทจะมีปัญหา โดยเฉพาะที่ใช้แรงงานเยอะและจ้างในราคาคาถูก แต่ในเครือฯ มีการพัฒนาไปไกลแล้ว โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านการผลิต ทั้งเรื่องออโตเมชันและเอไอ ทำให้ไม่ได้เพิ่มคน ทำให้กระบวนการผลิตเร็วขึ้น และของที่ผลิตก็มีคุณภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย"
นายบุณยสิทธิ์ให้ความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่า อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว ไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย หากจะมีการลดดอกเบี้ย ควรไปดูแลในส่วนนอกระบบธนาคารดีกว่า เพราะขึ้นสูง แต่ถ้าพูดถึงว่าดอกเบี้ยแพงไหม สำหรับพวกเราไม่เกี่ยวเลย แต่ธุรกิจใหญ่ที่กู้เงินมากจะเจ็บตัวมากกว่า
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย. 2567 ว่า เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 2.76 ล้านคน คิดเป็น 26.4% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยในเดือน เม.ย. จำนวน 24.5 ล้านคน คิดเป็น 14.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่ภาคการส่งออกมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 23,278.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 6.8% จากการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หมวดเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ หมวดหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และหมวดเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้าข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง ยางพารา และสิ่งปรุงรสอาหาร ส่วนการส่งออกสินค้าในหมวดผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย และแผงวงจรไฟฟ้าชะลอตัว -4.1
ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่วนผลผลิตภาคเกษตรยังคงหดตัวจากเดือนก่อน ส่วนรายได้เกษตรกรที่แท้จริง เพิ่มขึ้น 2.3% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 62.1 จากระดับ 63.0 ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 90.3 จากระดับ 92.4 ในเดือนก่อนหน้า จากผลกระทบของการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง รวมถึงความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก
“ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อสินค้าคงทน และปริมาณการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายพรชัยกล่าว
อย่างไรก็ดี ในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน เม.ย.2567 อยู่ที่ 0.19% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.37% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 อยู่ที่ 63.4% ต่อจีดีพี ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ล่าสุดอนุมัติวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ผ่านศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (One Stop Service) รวมกว่า 56,000 คน ทั้งแบบวีซ่าพำนักระยะยาว (LTR Visa) วีซ่าประเภทพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกให้ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนหรือทำงานในไทย (Smart Visa) และผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่ทำงานภายใต้โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัญชาติญี่ปุ่น จีน อินเดีย ไต้หวัน และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ ปัจจุบันบุคลากรต่างชาติกว่า 56,000 คน ที่ได้รับอนุมัติให้เข้ามาทำงานและพำนักในไทย เป็นผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่เข้ามาทำงานภายใต้โครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนประมาณ 50,000 คน และเป็นชาวต่างชาติที่ได้รับอนุมัติภายใต้ SMART Visa ซึ่งเป็นวีซ่าเพื่อดึงดูดบุคลากรทักษะสูงเข้ามาทำงาน และพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เน้นขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งกลุ่มสตาร์ทอัปทั้งสิ้น 2,170 คน ส่วนใหญ่มาจากประเทศสหรัฐ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และเยอรมนี
สำหรับ LTR Visa ได้อนุมัติชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่มเข้าสู่ประเทศไทย ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง และผู้เกษียณอายุ รวมทั้งผู้ติดตาม รวมทั้งสิ้นกว่า 4,000 คน สามารถกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง