พท.เมินโพลตามหลังก.ก. ธนาธรปลุกให้ได้250เสียง

“เศรษฐา” เคารพเสียงสะท้อน ปชช. หลังโพลสถาบันพระปกเกล้าคะแนน “ก้าวไกล” นำรัฐบาล พท.  “ภูมิธรรม” เมินผลสำรวจ อ้างไม่ได้สำคัญอะไรอย่าใส่ใจทำงานดีกว่า "ชัย​ธวัช​‘ ไม่ประมาทหลังผลโพล ก.ก.ยังนำเป็นที่ 1 หวังเป้าเก้าอี้ สส.รอบหน้า 200 ที่นั่ง "ธนาธร" ลั่นยังไม่เพียงพอ มีเวลาอีก 3 ปีพรรคพวกต้องทำงานหนักกว่านี้ ให้ได้ 250 เสียงเพื่อเข้าบริหารประเทศ "อนุทิน" สงสัยพรรคที่คะแนนนิยมลดลงทำงานหนักไม่พอ

เมื่อวันจันทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถาบันพระปกเกล้า เปิดผลสำรวจความนิยมของประชาชนต่อพรรคการเมืองและนายกรัฐมนตรี  โดยพบว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่ำกว่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ทั้งเรื่องของตัวบุคคลและคะแนนของรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลต้องเร่งโชว์ผลงานหรือไม่เพราะจะครบ 1 ปีแล้ว แต่พรรคก้าวไกลก็ยังมีคะแนนนำอยู่ ว่าแน่นอน เรื่องนี้เป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน เราต้องให้ความเคารพกับเรื่องของข้อมูลที่ได้มา และอย่างที่บอกเรื่องของงบประมาณเพิ่งออกมาใช้ได้เอง และวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจที่ทำเนียบรัฐบาล

 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโพลสถาบันพระปกเกล้าที่พบว่าหากมีการเลือกตั้งวันนี้ พรรค ก.ก.จะได้ สส. 208 คน และพรรค พ.ท.จะลดเหลือ 105 คน ว่าเรื่องโพลไม่ได้สำคัญอะไร ไม่เห็นมีเรื่องอะไรสำคัญ ส่วนที่คะแนนนิยมตามหลังพรรค ก.ก.นั้น โพลเป็นการรวบรวมวิธีคิดการแสดงความเห็น ก็เป็นเรื่องที่น่าอุทธรณ์  แต่ถ้าไปฟังตัวนายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้าที่ทำโพล เขาก็บอกว่าไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร  เพราะเป็นช่วงหลังจากที่ทำงานมา

"ก็ต้องขอดูกันต่อไป ในส่วนของรัฐบาลเองตอนนี้เราก็ดูตัวเอง และทำงานกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้ามัวมานั่งมองแต่โพล ซึ่งโพลมีหลายสำนักไม่รู้จะเชื่อใครดี" นายภูมิธรรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า โพลของสถาบันพระปกเกล้าเป็นโพลทางด้านวิชาการ น่าจะมีความน่าเชื่อถือ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ว่าสถาบันพระปกเกล้า นิด้า หรือโพลภาคอีสาน มันก็เหมือนกัน อย่าเพิ่งไปใส่ใจเรื่องนี้เลย ทำงานดีกว่า

เมื่อถามว่า จากโพลที่ออกมาจะทำให้การทำงานของพท.หนักขึ้นหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราทำงานหนักของเราเองอยู่แล้ว ตลอดเวลา เราปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้านายเศรษฐาจะขายไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ แต่นายภูมิธรรมไม่ได้ตอบคำถาม

ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้า​พรรค​ก้าวไกล​ กล่าวถึงผลโพลของสถาบันพระปกเกล้าที่พรรค ก.ก.มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ว่า ก็ถือเป็นกำลังใจในการทำงาน แต่จะเอามาเป็นสิ่งที่ทำให้เราประมาทไม่ได้  เพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า รัฐบาลทำงานมาเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ผลโพลพรรค ก.ก.ยังนำอยู่ ถือเป็นผลบวกกับพรรคหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ก็คงมีส่วน ประชาชนคงคาดหวังรัฐบาลที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ มีเป้าหมายและยุทธศาสตร์ชัดเจน

ส่วนที่นายกฯ อ้างเรื่องงบประมาณที่ยังใช้ได้ไม่เต็มที่นั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า แน่นอนการใช้งบประมาณถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด การดำเนินนโยบายมันมีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงบประมาณด้วย สิ่งที่เราวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่วันแถลงนโยบายคือ ยุทธศาสตร์ทิศทางและแผนงานที่ชัดเจน ให้สังคมเห็นว่าเราก้าวไปสู่ทางไหน ซึ่งประชาชนจะเข้าใจได้ว่าส่วนไหนที่รองบประมาณ และส่วนไหนที่ไม่รองบประมาณ 

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ครั้งหน้าจะได้ สส.มากกว่า 250 คนตามที่เคยพูดไว้ นายชัยธวัชกล่าวว่า พูดว่ามั่นใจก็คงไม่ได้เพราะจะเป็นการดูถูกพี่น้องประชาชนเกินไป ประชาชนไม่ใช่ของตายของใคร 200 ที่นั่งน่าจะเป็นเป้าหมายเพื่อจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก.ก.ได้เป็นนายกฯ แต่กว่าจะเดินไปถึงตรงนั้นได้ต้องทำงานเพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนไว้วางใจและเชื่อมั่นอีกเยอะ 

ถามถึงกระแสการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ที่แม้พรรคก้าวไกลไม่ส่งผู้สมัคร แต่ก็ให้การสนับสนุนเป็นคลื่นใต้น้ำ นายชัยธวัชกล่าวปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ตนยืนยันว่า อบจ.ปทุมธานี เราไม่ได้สนับสนุนใครทั้งสิ้น ตนเคยแถลงอย่างชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าเราไม่สามารถส่งได้จริงๆ เราต้องขอโทษพี่น้องชาวปทุมธานีที่ไม่สามารถเฟ้นหาแคนดิเดตนายก อบจ.ได้ทัน เราตั้งใจมาก แต่ต้องยอมรับว่าการส่งคนไปเป็นนายก อบจ.ไม่ใช่ส่งใครก็ได้ แต่ต้องดูความพร้อม ความเหมาะสมที่จะบริหารเมืองขนาดใหญ่แบบนี้

"พื้นที่ปทุมธานีเรายังตั้งเป้าสู้ศึกนายกเทศมนตรี ดังนั้นหากชาวปทุมธานีคนไหนที่อยากเปลี่ยนแปลงบ้านตัวเองก็เชิญชวนให้มาสมัคร เสนอตัวเข้าสู่กระบวนการคัดสรรเป็นนายกเทศมนตรีของปทุมธานีซึ่งมีหลายเขต" นายชัยธวัชกล่าว

ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงผลสำรวจของสถาบันพระปกเกล้าว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเพื่อนของตนในพรรค ก.ก. หวังว่าเพื่อนของตนในพรรค ก.ก.จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำงานโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตน มุ่งมั่นจะพัฒนาประเทศไทย ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ทำให้ประเทศไทยกลับมามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อีกครั้ง           "แต่ตนใส่ 'แต่' ตัวใหญ่ๆ เลย ถึงแม้ผลออกมาจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ แต่ตัวนี้ตัวใหญ่มาก จะเพียงพอหมายถึงต้องได้ 250 เสียง"

"เหลือเวลาอีก 3 ปี จะว่าไปก็ 3 ปีพอดีเลย พรรคก้าวไกลต้องทำงานหนักกว่านี้ เราต้องการข้ามเส้น 250 ให้ได้  ถ้าทำได้ในปี 2570 ทศวรรษ 2570 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง อีก 3 ปีทำงานให้หนัก วันนี้มาไกลกว่าที่พวกเราคิดตอนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้ว แต่ยังไม่พอเรามีเวลาอีก 3 ปีไปสู่จุดนั้น ขอส่งข้อความไปถึงพรรคพวกที่อยู่ในพรรคก้าวไกล 3 ปีนี้ใช้ทุกวันให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ให้ประชาชนเห็นถึงความจริงใจแน่วแน่ของเรา ที่อยากพาประเทศไทยไปข้างหน้าให้ได้มากที่สุด เมื่อวันเลือกตั้งมาถึงเราจะได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ ทำนโยบายของพวกเราให้เป็นจริง" นายธนาธรกล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงผลการสำรวจของสถาบันพระปกเกล้าว่า ก็ดี ก็ต้องแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลที่ความนิยมไม่ตกลงเลย และถือเป็นสัญญาณที่จะทำให้พรรคการเมืองอื่นต้องเร่งทำผลงานให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น ก็ดีที่ผลโพลออกมาตอนนี้ ดีกว่าออกมาตอนใกล้เลือกตั้งแล้วแก้ไขอะไรไม่ทัน

เมื่อถามว่า ที่ไม่มีความกังวลกับผลโพลเป็นเพราะพบว่าหากเลือกตั้งวันนี้พรรค ก.ก.จะได้ สส. 208 คน แต่ไม่ถึง 250 คนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้มองตรงนั้น  มองว่าทำไมเป็นพรรคการเมืองด้วยกัน มี สส.เหมือนกัน มีคนทำงานทางการเมืองเหมือนกัน แล้วทำไมบางพรรคได้ความนิยมมากขึ้น แล้วบางพรรคได้ความนิยมลดลง ซึ่งคำตอบมีอยู่อย่างเดียวคือ พรรคการเมืองที่คะแนนนิยมลดลง สงสัยยังทำงานหนักไม่พอ ยังทำผลงานไม่เข้าตาประชาชน  ซึ่งเราก็ต้องเร่งทำงานให้เข้าตาประชาชนมากยิ่งขึ้น

วันเดียวกัน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำคณะกรรมการบริหารพรรคซึ่งประกอบด้วย นายนริศ ขำนุรักษ์, น.ต.สุธรรม ระหงษ์, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พร้อมคณะ ร่วมกับ สส.พรรคในพื้นที่จังหวัดปัตตานีและจังหวัดสงขลา ไปพบปะแกนนำพรรค สมาชิกพรรค รวมถึงผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นด้วย ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค.

โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาที่จังหวัดปัตตานีโดยเฉพาะ และพื้นที่นี้ก็มี สส.ของพรรคหนึ่งเดียว คือ นายยูนัยดี วาบา ที่ผ่านมาตนทั้งเคยเดินทางมาช่วยหาเสียงเลือกตั้ง และช่วงที่ตนเป็น รมว.เกษตรฯ ก็ได้มาอีก 2-3 ครั้ง ตนเคยพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องชาวปัตตานีว่า ไม่ว่าจะอย่างไร ประชาธิปัตย์จะไม่มีวันทิ้ง แล้ววันนี้เราก็มาตามคำสัญญา

"มั่นใจว่าปัตตานีจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่จะหว่านและเติบโตเป็นอนาคต เป็นความหวังของประชาธิปัตย์ในวันข้างหน้าได้ ประชาธิปัตย์ในยุคที่ผมเป็นหัวหน้าพรรคจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน ไม่ดีแต่พูดอย่างเดียว มั่นใจได้ หลายๆ  คนอาจจะมองว่าทำไมประชาธิปัตย์นิ่งจัง ที่ผ่านมาอาจจะนิ่ง แต่หลังจากมาปัตตานีวันนี้ไม่มีนิ่ง จะเดินหน้าทุกวัน  และขอกำลังใจจากพี่น้องชาวปัตตานีด้วย” นายเฉลิมชัย กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป