คนแก่-พิการสมัครมากสุด

กกต.จำแนกผู้สมัคร สว. 20 กลุ่มอาชีพ "ผู้สูงอายุ-คนพิการ-ชาติพันธุ์" สมัครมากสุด 5.2 พันคน ขณะที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมรั้งท้าย เร่งตรวจคุณสมบัติเสร็จ 29 พ.ค. "สวนดุสิตโพล" ชี้ กกต.อ่อนประชาสัมพันธ์ ปชช.เกินครึ่งไม่รู้ขั้นตอนและวันเลือกรอบแรก คาดหวังวุฒิสภาชุดใหม่ใช้อำนาจในทางที่ถูกต้อง-ซื่อสัตย์สุจริต

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา จำแนกเป็นรายกลุ่ม หลังเปิดรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา ตั้งแต่วันที่ 20-24 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้สมัคร สว.ทั้งหมด 48,117 คน แบ่งตามกลุ่มประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง  ได้แก่ ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 2,487 คน, กลุ่มที่ 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม  ได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา  ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,869 คน

กลุ่มที่ 3 กลุ่มการศึกษา เช่น ครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 4,477 คน, กลุ่มที่ 4 กลุ่มการสาธารณสุข เช่น แพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ พยาบาล เภสัชกร หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,628 คน,  กลุ่มที่ 5 กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 3,422 คน, กลุ่มที่ 6 กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่นๆ  ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 3,628 คน,  กลุ่มที่ 7 กลุ่มพนักงานลูกจ้างที่ไม่ใช่ราชการหรือหน่วยงานรัฐ ผู้ใช้แรงงาน อื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 2,440 คน, กลุ่มที่ 8 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาฯ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,180 คน

กลุ่มที่ 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อยตามกฎหมาย หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,844 คน, กลุ่มที่ 10 กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจาก (9) มีผู้สมัคร 1,200 คน, กลุ่มที่ 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการอื่นหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,177 คน, กลุ่มที่ 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 609 คน, กลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,039 คน

กลุ่มที่ 14 กลุ่มสตรี มีผู้สมัคร 4,589 คน, กลุ่มที่ 15 กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้ทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 5,211 คน, กลุ่มที่ 16 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 1,819 คน, กลุ่มที่ 17 กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 2,168 คน, กลุ่มที่ 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 867 คน, กลุ่มที่ 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน มีผู้สมัคร 3,816 คน และกลุ่มที่ 20 กลุ่มอื่นๆ มีผู้สมัคร 2,656 คน

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอจะตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการสมัคร คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครให้เสร็จสิ้น และภายในวันที่ 29 พ.ค.นี้ จะประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบทุกกลุ่มอาชีพในเขตอำเภอ แยกเป็นรายกลุ่ม โดยมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ซึ่งเรียงลำดับตามตัวอักษรของชื่อตัวผู้สมัครของแต่ละกลุ่ม ชื่อตัวและชื่อสกุลของผู้สมัคร อายุ อาชีพ และวุฒิการศึกษาสูงสุด ประกาศให้ประชาชนทราบที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สถานที่ เลือก และจัดทำข้อมูลเผยแพร่ทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

เมื่อผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอได้ประกาศบัญชีรายชื่อดังกล่าวข้างต้นแล้ว สำนักงาน กกต.จะเผยแพร่บัญชีรายชื่อผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ทางเว็บไชต์ของสำนักงาน กกต. www.ect go.th และแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (Smart Vote) โดยประชาชนสามารถดูรายชื่อผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และข้อมูลแนะนำตัวผู้สมัครได้

 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับการเลือก สว.ชุดใหม่ 2567” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,127 คน ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. 2567 สรุปผลได้ดังนี้ ร้อยละ 54.30 ทราบว่าผู้สมัคร สว.ต้องมีอายุครบ 40 ปี ประสบการณ์ 10 ปี และเสียค่าสมัคร 2,500 บาท, ร้อยละ 57.68 ทราบว่าผู้สมัคร สว.หาเสียงไม่ได้ แนะนำตัวได้เท่านั้น, ร้อยละ 55.81 ไม่ทราบว่ามีการเลือก สว.รอบแรกวันที่ 9 มิ.ย.67, ร้อยละ 50.31 ไม่ทราบว่ามีเฉพาะผู้สมัคร สว.เท่านั้นที่มีสิทธิเลือก สว., ร้อยละ 52.35 ไม่ทราบว่า สว.ชุดใหม่มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรตรวจสอบอิสระ และเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนความคาดหวังของประชาชนต่อ สว.ชุดใหม่ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 56.71 สว.ควรใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ถูกต้อง รองลงมา ร้อยละ 53.88 ประวัติดี ซื่อสัตย์ สุจริต, ร้อยละ 44.24 ตั้งใจทำงาน เป็นที่พึ่งของประชาชน,                 ร้อยละ 36.47 มีวิสัยทัศน์ทันการเปลี่ยนแปลง, ร้อยละ 34.12 เป็นคนรุ่นใหม่                   

 น.ส.พรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนว่าประชาชนขาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการเลือก และบทบาทของ สว. ทั้งๆ ที่ใกล้วันเลือกเข้ามาแล้ว สะท้อนถึงความจำเป็นในการสื่อสารข้อมูล และ กกต.ควรเร่งสื่อสารและให้ความรู้แก่ประชาชนมากขึ้น เพื่อให้การเลือก สว.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน

ผศ.ยอดชาย ชุติกาโม ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในเดือน พ.ค. เป็นบรรยากาศของการรับสมัครเลือก ส.ว.ชุดใหม่ ที่จำนวนผู้สมัครแตกต่างจากที่ กกต.คาดการณ์ไว้พอสมควร จากผลสำรวจของสวนดุสิตโพล ตัวเลขที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานด้านการสื่อสารข้อมูลของ กกต. ที่ส่งผลต่อการรับรู้และความเข้าใจของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ

ทำให้ผลการสำรวจครั้งนี้อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกรณีร้อยละ 50.31 ไม่ทราบว่ามีเฉพาะผู้สมัคร สว. เท่านั้นที่มีสิทธิเลือก สว. ซึ่งเรื่องนี้นักวิชาการและนักการเมืองบางคนมองว่า สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกัน ในเรื่องสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนหรือไม่ อย่างไรก็ดีประชาชนกลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้ถึงคุณสมบัติและข้อจำกัดของ สว.อยู่บ้างในเรื่องข้อจำกัด เรื่องการแนะนำตัว หรือหาเสียง ซึ่งประเด็นเหล่านี้อาจเป็นประเด็นใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อ กกต. ซึ่งเป็นผู้ออกระเบียบปฏิบัติ และขณะนี้มีผู้ไปร้องศาลปกครองอาจส่งผลให้การเลือก สว.ครั้งนี้ต้องถูกยกเลิกหรือต้องขยายระยะเวลาออกไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง