นช.โวย 40สว. ลี้ลับ ‘ทักษิณ’ รู้หมดเป็นคนของใครหวังให้วุ่นวายแต่โค่น ‘เศรษฐา’ ไม่ได้

นครราชสีมา ๐ "ทักษิณ" ท้ารบ 40 สว.   ลั่นรู้หมด! ประเทศไทยใครเคลื่อนไหวอะไรก็จะรู้ว่าคนนี้เป็นคนของใคร  เคลื่อนไหวด้วยเหตุอะไร การเมืองก็ยังเป็นการเมือง มีความลี้ลับอยู่พอสมควร  เชื่อไม่ถึงขั้นล้ม "เศรษฐา" ได้ แต่อาจเป็นการสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองชะงักบ้าง ทัวร์โคราช รัฐมนตรี สส. ยัน ผู้ว่าฯ คนดี โผล่คารวะเพียบ เปิดรายชื่อ 40 สว. คนดังอื้อ

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 เวลา 11.05 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษชายที่อยู่ระหว่างการพักโทษ พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย เดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวไปยังท่าอากาศยานนครราชสีมา เพื่อร่วมงานฌาปนกิจนายวิชัย ช่างเหล็ก อดีตคนขับรถ

โดยนายทักษิณใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมแว่นตาสีดำ มีผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มคนเสื้อแดง นครราชสีมา มายืนถือป้ายรอต้อนรับ

ในจำนวนนี้นำโดยนายสุทิน คลังแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย (รมว.กลาโหม), นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สมาชิกพรรคเพื่อไทย (รมว.ดีอี), น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (รมว.วัฒนธรรม)

และยังมี สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นำโดยนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล  หัวหน้าบ้านใหญ่พรรคเพื่อไทย กลุ่มบ้านใหญ่โคราช และ สส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 12 คน ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ส.อบจ. 32 อำเภอ รวมทั้งนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ไปสังเกตการณ์และรายงาน พร้อมต้อนรับ

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดติดตามได้จัดรถตู้เบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ภษ 1414 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่นายทักษิณใช้เดินทางปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละท้องที่ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยบริการอำนวยความสะดวกตามทางร่วมทางแยก มีตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ,  สภ.เมืองนครราชสีมา, สภ.จอหอ, สภ.โนนสูง, สภ.คง, สภ.สีดา คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับการต้อนรับของบรรดาพี่น้องคนเสื้อแดง มีการเขียนป้ายต้อนรับจำนวนมาก อาทิ มวลชนคนเสื้อแดงและชาวโคราชขอต้อนรับ ฯพณฯ ทักษิณ ชินวัตร ด้วยความเคารพและศรัทธาเชื่อมั่น, ชาวนครราชสีมายินดีต้อนรับ, ชาวพระพุทธยินดีต้อนรับ, ชาวท่าช้างยินดีต้อนรับ, คิดฮอดนายกคนอีสาน, รักและศรัทธาท่านเสมอ นายกในดวงใจ เป็นต้น

พร้อมทั้งมีการฟ้อนรำต้อนรับ โดยระหว่างที่นายทักษิณเดินทักทาย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา และคณะ ส.อบจ. ได้นำผ้าขาวม้าผ้าไหมปักธงชัยคล้องที่เอวอย่างอบอุ่น รวมทั้งมอบดอกกุหลาบ (ไร้หนาม) ให้ และมีชาวบ้านในพื้นที่ที่คิดถึงนายทักษิณมากๆ เดินเข้าสวมกอดทั้งน้ำตาด้วยความรัก ศรัทธา คิดถึง 

ก่อนที่นายทักษิณจะเดินไปขึ้นรถได้เดินไปยังหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับยืนตรงโค้งคำนับ และทักทายผู้ให้การต้อนรับ จากนั้นได้ขึ้นรถเดินทางไปปฏิบัติภารกิจตามกำหนดการที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา

การเมืองลี้ลับ

ที่ร้านส้มตำพันล้าน นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ สว. 40 คน ให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงหรือไม่ ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยอาจมีการวางยานายเศรษฐานั้นว่า ในพรรคเพื่อไทยไม่มีปัญหาแน่นอน  แต่ภายนอกการเมืองก็ยังเป็นการเมือง  มีความลี้ลับอยู่พอสมควร

นักโทษชายรายนี้ยังกล่าวว่า  ประเทศไทยใครเคลื่อนไหวอะไรก็จะรู้ว่าคนนี้เป็นคนของใคร เคลื่อนไหวด้วยเหตุอะไร แต่แน่นอนในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็มีหน้าที่ต้องตอบ ซึ่งต้องเตรียมตอบคำถาม และไม่ว่าใครจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็แล้วแต่ หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็ชี้แจง

ส่วนกรณีที่นักวิชาการให้จับตานายใหญ่ที่จะเช็กบิล 40 สว.นั้น นายทักษิณ ตอบว่า ตนจะไปมีสิทธิ์อะไร วันนี้ตนเป็นคนแก่คนหนึ่งที่ให้คำปรึกษารุ่นน้องๆ ให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเจริญดีกว่า ก็คงไม่มีน้ำยาอะไรหรอก แก่แล้ว

สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 40 สว. มีเบื้องหลังจากกลุ่มอำนาจไหนหรือไม่นั้น นายทักษิณกล่าวว่า สังคมการเมืองเขารู้ว่าใครเป็นคนของใคร อย่างไร เป็นเรื่องธรรมดา มีเช่นนี้มาช้านานแล้ว

"คงไม่ถึงขั้นล้มนายกฯ เศรษฐาได้ แต่อาจเป็นการสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองชะงักบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่มองว่าจะไม่มาก เพราะหากชี้แจงได้ก็ไม่เป็นอะไร และพรรคเพื่อไทยไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร ทำอะไรให้ถูกต้อง ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปหวั่นไหวมาก" นายทักษิณกล่าว

ต่อมา ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ นายทักษิณพร้อมคณะไปกราบไหว้สักการะและประกอบพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) มีกลุ่มคนเสื้อแดงโคราชรวมกว่า 200 คน ยืนรอต้อนรับอย่างเนืองแน่น พร้อมทั้งมีการมอบดอกกุหลาบ ช่อดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกมะลิสด และต่างรุมล้อมขอลายเซ็น ถ่ายเซลฟีกันจนล้นลงถนนราชดำเนินเต็มพื้นที่

ขณะที่บริเวณศาลาพิธี ข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ได้มีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม คปท.โคราช นำโดยนายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล เป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชน จ.นครราชสา รวมตัวกันถือป้ายโจมตีนายทักษิณ ชินวัตร อย่างเผ็ดร้อน อาทิ อยากใหญ่แต่ไม่เคารพกฎหมาย, ทำไมไม่ติดคุก, คนโคราชยินดีต้อนรับนักโทษเทวดา เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงที่นายทักษิณลงจากรถเดินฝ่าฝูงมวลชนคนเสื้อแดงและ FC คนพรรคเพื่อไทย ต่างตะโกนด่าทอ โดยทางนายสมโภชน์ ประสาทไทย แกนนำเสื้อแดง อ.เมืองฯ เดินไปเจรจาพูดคุยขอร้องให้รวมตัวกันด้วยความสงบ ซึ่งทางกลุ่มก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ไม่มีเหตุรุนแรงหรือบานปลายแต่อย่างใด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นายคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

'เศรษฐา' มั่นใจ

วันเดียวกันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เริ่มพูดคุยกับทีมงานฝ่ายกฎหมายแล้วเพื่อเตรียมชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยถือว่าเช้าวันเสาร์ได้เริ่มต้นในการพบปะพูดคุย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระบวนการการทำคำชี้แจง ขอให้รอครบ 15 วันก่อนแล้วกัน แล้วตนจะชี้แจงครั้งเดียวเลยดีกว่า เพื่อให้เกียรติทางทีมทนายด้วย และความจริงเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการและเข้าสู่ระบบของตุลาการ ตนไม่ต้องการมาพูดเป็นรายวันว่าใครทำอะไร ต้องให้เกียรติทั้งสองฝ่ายด้วยเช่นกัน ตนคิดว่าเรื่องนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้วตนก็พร้อมที่จะให้ความกระจ่างกับทุกๆ ฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าจะชี้แจงได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า "มั่นใจครับ ก็มีความสบายใจ ก็คุยกับทางทีมทนายแล้ว เดี๋ยวเราก็เตรียมเรื่อง"

ถามย้ำว่า พร้อมที่จะชี้แจงทั้งในเรื่องของเอกสารและชี้แจงด้วยตัวเองใช่หรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่า ได้ ก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้วตลอดเวลา

เมื่อถามว่า จะทำให้เสียสมาธิอะไรหรือไม่ ในระหว่างที่ยังต้องเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดิน นายกฯ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ไม่หรอกครับ พวกท่านเองก็ถามเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ถามกันทุกวัน และเชื่อว่าพรุ่งนี้ก็ต้องถามอีกว่าเสียสมาธิหรือเปล่า ความจริงแล้วอย่างผม อย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่อายุ 60 ปี ก็ใกล้ 60 ปีกันแล้ว เราผ่านไปเยอะ สามารถทำทุกอย่างในเวลาเดียวกันได้หลายๆ อย่าง

"มันเป็นหน้าที่ที่มากับตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ รองนายกฯ ผู้ว่าฯ กทม. เราเองต้องทำได้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ไม่ห่วงหรอกครับ เพราะอย่างที่บอก เมื่อมีเรื่องนี้เข้ามาก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมไป ผมมีหน้าที่ชี้แจงก็ชี้แจงไป ขณะเดียวกันสำหรับหน้าที่ของฝ่ายบริหาร เราเองก็ต้องไม่ให้หย่อนยาน สบายใจได้ครับ”

วันเดียวกัน จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว. ที่ยื่นเรื่องต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องที่ 1 และนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรมนูญหรือไม่นั้น ซึ่งนายพิชิตได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องในส่วนของนายเศรษฐา และให้ชี้แจงภายใน 15 วันนั้น

เปิดรายชื่อ 40 สว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องดังกล่าว มีนายสมชาย แสวงการ สว. เป็นผู้ยื่นคำร้อง พร้อมรายชื่อ 40 สว. ประกอบด้วย 1.นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ 2.นายจเด็จ อินสว่าง 3.นายจิรชัย มูลทองโร่ย 4.นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร 5.นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต 6.นายจัตุรงค์ เสริมสุข 7.พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ 8.พล.อ.ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ์ 9.ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ 10.นายเชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ

11.นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม 12.พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย 13.นายถนัด มานะพันธุ์นิยม 14.นายถวิล เปลี่ยนศรี 15.นายทวีวงษ์ จุลกมนตรี 16.พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ 17.พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร 18.นายธานี อ่อนละเอียด 19.พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน 20.พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์

21.นางประยูร เหล่าสายเชื้อ 22.น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม 23.นายพลเดช ปิ่นประทีป 24.พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป 25.นายพิทักษ์ ไชยเจริญ 26.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ 27.พล.อ.สุนทร ขำคมกุล 28.พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ 29.ว่าที่ ร.ต.วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี 30.นางวรารัตน์ อติแพทย์

31.นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร 32.นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล 33.พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร 34.ม.ล.สกุล มาลากุล 35.นายสมชาย แสวงการ 36.พล.ต.ท. สมบัติ มิลินทจินดา 37.นายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ 38.นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ 39.นายประพันธุ์ คูณมี 40.พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. กล่าวว่า เห็นรายชื่อจากสื่อแล้ว ยืนยันว่าเป็นรายชื่อจริง แต่ไม่ทราบว่าเขาไปเอามาจากไหน จากธุรการของศาลรัฐธรรมนูญ หรือจากหนังสือให้ส่งคําชี้แจงภายใน 15 วัน เพราะศาลมีขั้นตอนในการชี้แจงต่อคู่กรณี ซึ่งคู่กรณีอาจจะนำมาเปิดเผยก็ได้

นายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันที่มีคนบางกลุ่มมีความพยายามจะล้มนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าตนเห็นใจและรู้สึกสงสารนายกฯ อย่างยิ่ง เพราะตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งมา 8-9 เดือน ท่านขยันขันแข็ง ก้มหน้าก้มตาทำงานหนักตลอดมา ใส่ใจในทุกปัญหา เผชิญหน้าทุกสถานการณ์ ไม่ระราน วิวาทะกับใคร มุ่งไปสู่เป้าหมายคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนด้วยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ยังติดปัญหาอุปสรรคอีกเล็กน้อย

“ในฐานะที่ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งเห็นในความตั้งใจและเชื่อมั่นในศักยภาพ ความสามารถ ตลอดจนการทุ่มเทการทำงานของท่านนายกฯ ขอให้ท่านเดินหน้าทุ่มเททำงานต่อไป ไม่ต้องหวั่นไหวในอุปสรรคและหมู่มารทั้งหลาย ถึงเวลาคนไทยที่รักและชื่นชมท่าน จะออกมาให้กำลังใจท่านอย่างล้นหลามแน่นอน และเชื่อว่าท่านจะผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน” นายก่อแก้วกล่าว.