"ภูมิธรรม" ลั่นจบดรามาเดินหน้าประมูลข้าว 10 ปี หลังผลตรวจสอบไม่มีสารพิษสารตกค้าง เผยตั้งคณะทำงานกำหนดทีโออาร์การประมูลแล้ว วางเงื่อนไขแบบยกกอง จัดลำดับผู้ประมูล 1-5 หากมีข้อขัดข้อง เลื่อนลำดับต่อไปขึ้นมาแทน ไม่ต้องเสนอ นบข.พิจารณาอีก เพราะมีมติอยู่แล้ว คาดประมูลจบได้ผู้ชนะ มิ.ย.
เมื่อวันที่ 24พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ที่เก็บมาแล้ว 10 ปีว่า จากผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแล็บเอกชน ที่ได้ผลตรวจสอบออกมาดีมาก ไม่มีสารพิษ สารตกค้าง สารจากการรมยา หรือตกค้างน้อยมากในปริมาณที่ไม่เป็นอันตราย ถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่จะนำออกสู่ตลาดได้ จึงมีการตัดสินใจอยู่บนหลักการที่ชัดเจนว่าจะประมูลข้าวทันที และประมูลยกกอง โดยจะกำหนดทีโออาร์ให้ชัดเจน เปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาประมูลได้ มีการจัดการประมูลเป็นลำดับที่ 1-5 เพราะหากเกิดมีข้อขัดข้องเกิดขึ้น ซึ่งคิดว่าจะไม่เกิด แต่การจัดอันดับประมูลข้าว สามารถใช้ผู้เสนอราคาสูงสุดในลำดับถัดไปได้ และข้อดีคือ การพิจารณาต่อรองให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงานที่ดูแลเรื่องการจัดประมูลแล้ว โดยไม่ต้องนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพราะมีมติอยู่แล้ว ซึ่งได้ตั้งกรรมการขึ้นมาจัดทำทีโออาร์ ประกอบด้วยองค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาเป็นกรรมการ คาดว่าทุกอย่างจะชัดเจนไม่เกินสิ้นเดือน พ.ค.นี้ และพร้อมที่จะประกาศให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาประมูล คาดว่าจะจบประมาณเดือน มิ.ย. รายได้ที่เข้ามา จะได้ดำเนินการตามกระบวนการตามหลักการที่ควรจะเป็นตามกฎหมาย จากการที่ทุกฝ่ายมุ่งหาประโยชน์ให้ประเทศชาติ
“ผมคิดว่าดรามามากเกินไป ควรยุติได้แล้ว เพื่อให้ประโยชน์เกิดกับประเทศดีกว่า อ.อ๊อด (นายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ก็ยุติการตรวจสอบแล้ว กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการทุกอย่างอย่างโปร่งใส ให้สื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบ อย่าตั้งข้อสงสัยจนทำให้ข้าวไทยมีปัญหา และเกิดผลกระทบต่อข้าวไทย อย่าทำลายความเชื่อมั่นของข้าวไทยและประเทศไทย” นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูล ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบคุณภาพข้าวได้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และกระบวนการที่กำหนดไว้ และเชื่อว่าผู้ประมูลทุกคนที่จะเข้ามาประมูลมีแผนอยู่แล้วว่าจะนำข้าวไปใช้แบบใด จะประมูลที่ราคาเท่าไร โดยเท่าที่ทราบ มีตลาดที่ชัดเจนแล้วคือตลาดข้าวแอฟริกา ที่นิยมทานข้าวเก่า และจำนวน 15,000 ตัน มีจำนวนไม่มาก คาดว่าจะประมูลได้ในราคาที่ดี ไม่ใช่ขายข้าวกิโลกรัม (กก.) ละ 4-5 บาท ซึ่งถูกตีเป็นข้าวเน่า
ส่วนข้าวที่จะนำมาประมูล คือ 1.คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2557 ถึง 10 มี.ค.2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบ จาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ
2.คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.2557 ถึง 29 เม.ย.2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"