วุ่น!ส่อรื้อระเบียบเลือกสว.

ระเบียบแนะนำตัว สว.ส่อวุ่น! ตุลาการศาล ปค.ผู้แถลงคดีเสนอองค์คณะเพิกถอน 5 ปมแนะนำตัว แจกเอกสารได้เฉพาะในกลุ่มไม่เกิน 2 หน้า-​ แนะนำตัวทางอิเล็กทรอนิกส์ ห้ามใช้วิชาชีพสื่อเอื้อประโยชน์​ ชี้ไม่สอดคล้องสังคมเลือกปฏิบัติจำกัดสิทธิเสรีภาพเกิดเหตุ "ธีรยุทธ" ฟ้องศาลปกครองเพิกถอนกติกาเลือก สว.ขัด รธน. เปิดช่องเอื้อคนมีพวก-ฮั้วจัดตั้ง “ไอติม” ดักคอ “สมชาย” ต้องไม่มีพฤติกรรมเอี่ยวพรรคการเมือง

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ศาลปกครองกลางออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีที่ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย  บรรณาธิการสำนักข่าวประชาไท และนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และพวก ยื่นฟ้องของให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)​ 2567 โดยในการนั่งพิจารณาคดี​ครั้งแรก​ นี้ตุลาการเจ้าของสำนวนได้อ่านสรุปข้อเท็จจริง​ที่ได้จากการไต่สวนให้คู่กรณีฟัง โดยคู่กรณีไม่ประสงค์ที่จะแถลงปิดคดี จากนั้นองค์คณะได้ให้ตุลาการผู้แถลงคดี ซึ่งเป็นตุลาการนอกองค์คณะ แถลงความเห็นส่วนตัวที่ไม่มีผลผูกพัน ต่อการพิจารณาวินิจฉัยขององค์คณะ

โดยตุลาการผู้แถลงคดีเห็นว่า คดีพิพาทนี้อยู่ในอำนาจที่ศาลปกครองจะพิจารณาวินิจฉัย และผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ประสงค์จะลงสมัคร สว. จึงเป็นผู้ที่มีสิทธิที่จะฟ้องคดีได้ ส่วนระเบียบ กกต. ที่ผู้ฟ้องคดีขอให้มีการเพิกถอน ซึ่งประกอบไปด้วยข้อ 5, 7, 8, 11 (2) (5) นั้น

ข้อ 5 ที่กำหนดว่าให้ผู้ประสงค์ที่จะสมัครรับเลือกเป็น สว.สามารถแนะนำตัวตามระเบียบนี้ได้นับแต่วันที่ระเบียบฉบับนี้มีผลใช้บังคับเห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการได้มาทั้ง สว. มาตรา 36 ซึ่งเป็นฐานอำนาจที่ กกต.ใช้ออกระเบียบดังกล่าว ไม่ได้ให้อำนาจ กกต. ออกระเบียบมาบังคับให้ผู้ที่ประสงค์จะลงสมัคร ถ้าบังคับจะต้องมีการกำหนดไว้อย่างชัดแจ้ง การออกระเบียบ การออกระเบียบข้อดังกล่าวจึงเป็นการใช้อำนาจนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด

ส่วนข้อ 7 ที่กำหนดให้ผู้สมัครใช้เอกสารแนะนำตัวมีขนาดไม่เกิน A4 ระบุข้อความเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว รูปถ่ายของผู้สมัคร​ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน​ หรือประสบการณ์ในการทำงาน ในกลุ่มที่ลงสมัครเท่านั้นไม่เกิน 2 หน้า เห็นว่าการแนะนำตัวของผู้สมัคร นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้สมัคร ยังจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ที่จะได้ผู้ที่มาทำหน้าที่ แทนปวงชนชาวไทย การกำหนดใช้เอกสารไม่เกิน 2 หน้า ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคม เป็นการตัดโอกาสในการแนะนำตัวของผู้สมัคร และประชาชนที่จะได้รับทราบข้อมูล จึงเห็นว่าข้อ 7 ของระเบียบดังกล่าว โดยเฉพาะข้อความว่าไม่เกิน 2 หน้า และในกลุ่มที่สมัครเท่านั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนข้อ 8 ที่ให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ข้อความตามเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัครตามข้อ 7 และเผยแพร่ต่อผู้สมัครอื่นในการเลือกเท่านั้น เมื่อวินิจฉัยแล้วว่าข้อความในข้อ 7 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้เพิกถอนข้อความตามข้อ 7 ในข้อ 8 ส่วนข้อ 11 (2) ที่กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางวิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน​สื่อโฆษณา นักร้องพิธีกรใช้ความสามารถ หรือวิชาชีพดังกล่าวเพื่อประโยชน์ต่อการแนะนำตัวนั้น เห็นว่าผู้สมัครในกลุ่มอื่นอาจจะใช้วิชาชีพของตน ในการเอื้อประโยชน์ให้ได้รับเลือกสว.ได้ การที่ กกต.ออกระเบียบจำกัด เฉพาะ 2 กลุ่มนี้ จึงไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์ของความเท่าเทียม และเป็นการจำกัดสิทธิ​เสรีภาพ​เกินกว่าเหตุ เป็นการเลือกปฏิบัติ 

สำหรับข้อ 11 (3) ที่ห้ามผู้สมัครแจกเอกสารเกี่ยวกับการแนะนำตัวโดยวิธีการวาง โปรย หรือติดประกาศในที่สาธารณะนั้น เห็นว่าการที่ กกต. กำหนดวิธีการแนะนำตัว ให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวผ่านอิเล็กทรอนิกส์ โดยประชาชนสามารถเข้าถึงได้ แต่ไม่ได้กำหนดวิธีการแนะนำตัวอื่น เช่น การติดป้าย หรือวางเอกสาร ทำให้ผู้สมัคร หรือผู้ช่วยเหลือผู้สมัครที่ไม่มีความพร้อม ที่จะแนะนำตัวผ่านอิเล็กทรอนิกส์ สามารถดำเนินการโดยวิธีการ​อื่นได้ จึงเป็นการสร้างภาระเกินพอสมควรให้กับผู้สมัคร ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมเป็นการเลือกปฏิบัติ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนข้อ 11 (5)​ ที่ห้ามผู้สมัครแนะนำตัวทางวิทยุ โทรทัศน์​ วิทยุกระจายเสียงสื่อสิ่งพิมพ์และห้ามให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนั้น เห็น​ว่า​ข้อกำหนดดังกล่าวบังคับใช้กับผู้สมัครทุกกลุ่มอาชีพ ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ตุลาการผู้แถลงคดีจึงเห็นว่า องค์คณะควรพิจารณาสั่งเพิกถอนระเบียบดังกล่าวในข้อ 5, 7, เฉพาะข้อความที่  "ในกลุ่มที่สมัครเท่านั้นและไม่เกิน 2 หน้า" ในระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวฉบับแรก และ ข้อความที่ระบุว่า "ไม่เกิน 2 หน้าในระเบียบฉบับที่ 2" และข้อ 8, 11 (2) (3) นับแต่ระเบียบดังกล่าว​มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ ศาลได้แจ้งคู่กรณีว่าจากนี้ ทางองค์คณะจะได้ประชุมพิจารณาและจัดทำคำพิพากษา และนัดคู่กรณีฟังคำพิพากษาในวันที่ 24 พ.ค. เวลา 13.00 น.

ขณะที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.วิเดือน งามปลั่ง ผู้สมัครรับเลือกสว. ยื่นฟ้อง กกต.ต่อศาลปกครอง ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือก สว.พ.ศ.2567 ข้อ 91 ข้อ 3 ข้อ 6 และระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือก สว. ฉบับที่ 2 พ.ศ.2567 ข้อ 8 และขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาระงับใช้ระเบียบดังกล่าวไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และส่งความเห็น ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 212 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 มาตรา 36 มาตรา 41 และมาตรา 42 ตัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ด้วย

นายธีรยุทธกล่าวว่า ระเบียบทั้ง 3 ฉบับ ที่มีข้อกำหนดให้ผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร สามารถช่วยผู้สมัครในการแนะนำตัว จะทำให้เกิดการแทรกแซง ครอบงำ จากบุคคลที่ไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือก ทำให้เกิดความได้เปรียบ ไม่เป็นธรรม ระหว่างผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.ด้วยกัน การให้ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และประชาชนอาจเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ ก็เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครที่มีกำลังทรัพย์ กำลังคน เครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก สามารถใช้กลไกเหล่านี้สร้างความได้เปรียบ ไม่เป็นธรรม เหลื่อมล้ำ กับผู้สมัคร สว.รายอื่น และการที่ระเบียบเปิดช่องให้ผู้สมัครไม่ต้องลงคะแนนให้ตัวเอง จะทำให้เกิดการรับจ้างลงสมัครเพียงเพื่อจะได้มีเสียงโหวต จากกลุ่มผู้สมัครที่จัดตั้งขึ้น หรือกลุ่มผู้สมัครนั้นอาจจะมีพฤติกรรมชี้นำ ครอบงำ ชักจูง สั่งการหรือสมยอมให้มีการเลือกเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ ทำให้การเลือก สว. เกิดความเสียหายยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง

ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล  ให้สัมภาษณ์ถึงการรับสมัครรับเลือก สว.ว่า เป้าหมายเฉพาะหน้าที่อยากเห็นคือกระบวนการคัดเลือกเป็นไปด้วยความราบรื่น เพื่อให้ได้ สว.ชุดใหม่ ภายในเดือน ก.ค. ถึงแม้ไม่ใช่กระบวนการเลือกที่มาจากประชาชน แต่อยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ส่วน เรื่องการฮั้ว ต้องการให้มีคนสมัครเยอะที่สุด ยิ่งมีผู้สมัครเยอะเท่าไหร่ การแข่งขันก็จะเข้มข้นขึ้น และนำมาสู่การคัดกรองผู้ที่มีความเหมาะสมได้ การฮั้ว มีการนิยามไว้หลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มโหวตให้กันและกัน หรือการใช้เงินในการจ้างคนสมัคร เพื่อโหวต ซึ่งชัดเจนว่าผิดกฎหมาย จึงต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตา

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ มาลงสมัครด้วย และอาจวางตัวไปถึงประธานวุฒิสภา นายพริษฐ์กล่าวว่า ยังอีกสักพักหนึ่งกว่าจะถึงขั้นตอนนี้ ตอนนี้เราควรช่วยกันคัดเลือก สว.ให้ราบรื่น รวดเร็ว และโปร่งใส  เมื่อดูกระแสความนิยมของประชาชนอาจไม่ใช่ตัวชี้วัด ควรรอดูตามกระบวนการว่าจะออกมาเป็นเช่นไร เนื่องจากภาพรวมไม่ได้เจาะจงที่คนใดคนหนึ่ง ส่วนจะเป็นการประลองกำลังการเมืองระดับชาติได้หรือไม่นั้น มองว่าตามเจตนาแล้วการคัดเลือก สว.ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้พรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นการตีความในลักษณะนี้ ประชาชนจึงอาจตั้งคำถามได้ ดังนั้น โดยพฤตินัยผู้สมัครต้องไม่มีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง

ที่ว่าการอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี หรืออดีตผู้ว่าฯ ปู ได้เดินทางเข้าสมัคร สว. กลุ่มผู้บริหาร ที่ห้องประชุมวิเศษชัยชาญ บริเวณชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอวิเศษชัยชาญ ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่เคยนำชาวบ้านฝ่าวิกฤตโควิดคลัสเตอร์ใหญ่ คลัสเตอร์สมุทรสาคร คลัสเตอร์ตลาดกลางกุ้ง จนตัวเองและภรรยาติดเชื้อโควิด-19 อาการเข้าขั้นวิกฤตรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชนานกว่า 3 เดือน หลังหายได้ย้ายมาทำงานเป็นผู้ว่าฯ อ่างทอง  ก่อนเกษียณอายุราชการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง