ทนายกังขายื้อให้CCTV ตู่ซัดแม้วพ่อค้าลวงโลก

กรมคุกฟอกตัวจ้าละหวั่น ลากสื่อเข้าสำรวจสถานที่ขัง "บุ้ง ทะลุวัง" ก่อนจบชีวิต ขณะที่ "ทนายด่าง” รับหลักฐานรายงานการรักษา กังขาโดนยื้อกล้องวงจรปิดส่องนาทีชีวิต เผยครอบครัวไม่ปล่อยแน่ปมดับใส่ท่อหายใจผิด “จตุพร” ลากไส้ทุกขด "น.ช.ทักษิณ" พ่อค้าลวงโลก อ้างนักสู้ประชาธิปไตย แต่สองมาตรฐานตัวพ่อ สันดานโผล่อุ้มสมตั้งรัฐบาลกับคนฆ่าเสื้อแดง ดึงสติพี่น้องอย่ายึดบุคคล ต้องเอาประเทศเป็นที่ตั้ง

เมื่อวันจันทร์ ที่บริเวณหน้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถ.งามวงศ์วาน กรุงเทพฯ น.ส.วีรดา วงธนกุลโรจน์ ทนายอาสา จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับมอบอำนาจจากพี่สาว น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง เดินทางมารับประวัติการรักษาของบุ้งย้อนหลัง 5 วันก่อนเสียชีวิต ตามนัดหมายที่กรมราชทัณฑ์แจ้งไว้ หลังเลื่อนมานานกว่า 7 ครั้ง

โดยเพื่อนของ น.ส.เนติพรเดินทางมาถึงก่อน พร้อมกับนำรูปของบุ้งมาชูบริเวณหน้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และพยายามที่จะขอเข้าไปภายใน แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต                                    

ขณะเดียวกัน กรมราชทัณฑ์​ออกเอกสารข่าวกรณี เมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.วีรดา คงธนกุลโรจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากพี่สาวของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม ได้เดินทางเข้ารับเอกสารสำเนาประวัติการรักษา ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ต่อมาเวลา 10.00 น. ได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจและให้เห็นสถานที่จริงขณะที่ น.ส.เนติพรเข้ารับการรักษาโดยแพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นเรือนจำที่ทำหน้าที่พิเศษ คือคุมขังและให้การรักษาผู้ต้องขังเจ็บป่วยที่ถูกส่งตัวมาจากเรือนจำต่างๆ เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้วก็จะส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำเดิม

จนกระทั่งเกิดอาการหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน จึงนำตัวลงมายังห้อง ICU ชั้น 1 โดยทางทีมแพทย์ได้ทำการกู้ชีพ พร้อมนวดหัวใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงส่งตัวไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

"โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ยังคงมีข้อห่วงใยในเรื่องนี้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคม จึงได้นำคณะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าเยี่ยมชมสถานที่จริงขณะที่ น.ส.เนติพรรับการดูแลรักษา ก่อนส่งตัวออกโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ พร้อมขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง" เอกสารกรมราชทัณฑ์ระบุ

เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ภายใต้การอำนวยการของฝ่ายประชาสัมพันธ์ และผู้ได้รับมอบอำนาจจาก ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้นำสื่อมวลชนจำนวน 7 รายเข้าเยี่ยมชมสถานที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นสถานที่จริงขณะที่ น.ส.เนติพร ผู้ต้องขังคดีทางการเมืองเสียชีวิตหลังทำการอดอาหารและน้ำประท้วงกระบวนการยุติธรรมนานกว่า 100 วัน จากการไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล และตอบคำถามเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือในการรักษาพยาบาล

ต่อมาเวลา13.00 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อติดตามการรับเอกสารประวัติการรักษาย้อนหลัง 5 วันของ น.ส.เนติพร  โดยระบุว่าวันนี้ได้ผลการรักษาย้อนหลัง 5 วันแล้ว และให้เอกสารมาทั้งหมด 27-28 แผ่นตามคำร้องขอ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้เปิดดูทั้งหมด ต้องขอกลับไปตรวจสอบและอ่านให้ละเอียดก่อน

"ส่วนการขอไฟล์กล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุนั้น ทาง ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ชี้แจงว่า ขอเวลาในการรวบรวมและใช้เทคนิคเกี่ยวกับการแก้ปัญหาติดภาพผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือต้องเบลอผู้ป่วยหรือผู้ต้องขังรายอื่นก่อน ผมจึงกำหนดเวลาให้ 4 วันและคิดว่าคงไม่น่ายาก เพราะถือว่าเป็นการให้โอกาส ซึ่งทางราชทัณฑ์เองก็ยืนยันว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยในวันศุกร์ที่ 24 พ.ค.จะเดินทางมาอีกครั้ง" ทนายกฤษฎางค์ระบุ

ทนายกฤษฎางค์กล่าวอีกว่า จุดกล้องวงจรปิดน่าจะซูมเห็นเตียงของบุ้งกับตะวันที่นอนด้วยกัน ตลอดจนเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ที่เตียง ก่อนจะเป็นลมและหิ้วปีกบุ้งลงมายังห้องฉุกเฉินชั้นล่าง ในช่วงเวลาราวๆ 06.30 น. รวมถึงในการช่วยเหลือและการจัดเตรียมพาตัว น.ส.เนติพรไปส่งที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เกิดอะไรขึ้นบ้าง มีการทำซีพีอาร์หรือไม่ ใส่ท่อช่วยหายใจอย่างไร เข้าเครื่องอะไรบ้าง

"พร้อมทั้งจะเห็นว่าใครเป็นคนไปส่งบุ้งที่โรงพยาบาลบ้าง มีการช่วยเหลืออย่างไรภายในรถพยาบาลจากภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะเป็นหลักฐานและพยานสำคัญ ที่จะสอดคล้องให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่พาบุ้งไปโรงพยาบาลไม่ทันจนเสียชีวิตหรือไม่ ส่วนตัวก็ยังแปลกใจและมองว่ามันไม่น่าจะมีอะไรปิดบังกัน ยอมรับว่าผิดหวังในกระบวนการ และการไม่เปิดเผยกล้องวงจรปิดวงจร แต่กลับเอาไปดูกันเองก่อน" ทนายกฤษฎางค์กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ในกรณีพบว่ามีการใส่ท่อผิด นายกฤษฎางค์บอกว่า ยังไม่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ แต่ยืนยันว่าทางญาติติดใจกรณีนี้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คุยในประเด็นนี้  เพราะต้องการเอาเอกสารของทางราชทัณฑ์ก่อน ซึ่งเชื่อว่าเขาน่าจะรู้คำถามของเรา เพราะออกทั้งหนังสือและแถลงการณ์

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์เรียกร้องคนเสื้อแดงอย่ายึดติดกับบุคคลที่เป็นพ่อค้าลวงโลก เพราะการต่อสู้ที่ผ่านมาพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและเพื่อความยุติธรรมเท่าเทียม แต่เป็นคนสองมาตรฐาน และนักจัดสรรแบ่งปันผลประโยชน์จากการเลือกตั้ง แล้วละทิ้งการต่อสู้ของประชาชนที่สละชีวิต สูญสิ้นอิสรภาพ

นายจตุพรกล่าวว่า ถ้ากลุ่มหนึ่งไปแสดงตัวเป็นแดงทักษิณมากเท่าไร ก็เป็นเรื่องน่าอับอายมากเท่านั้น ทั้งที่ความจริงเสื้อแดงไม่ได้เป็นของใคร เพราะการต่อสู้เป็นประวัติศาสตร์ของประชาชนที่ไม่มีใครมาเป็นเจ้าของได้  ดังนั้นหากทักษิณต้องการเป็นเจ้าของแล้ว เสียงปืนนัดแรกต้องกลับมาร่วมต่อสู้ แต่ไม่มา ไม่เพียงเท่านั้น ยังประกาศไม่ให้คนเสื้อแดงพายเรือมาส่ง เท่ากับเป็นการตัดญาติขาดมิตรกัน อีกอย่างการตั้งรัฐบาลอุ้มสมกันระหว่างผู้ถูกฆ่ากับผู้ฆ่าคนเสื้อแดง แล้วอย่างนี้จะเรียกร้องชี้หน้าคนอื่นเป็นสลิ่มได้อย่างไรกัน เพราะพฤติกรรมของตัวเองยิ่งกว่าไปกล่าวหาคนอื่นเสียอีก

 “การต่อสู้ที่ผ่านมา คนเสื้อแดงคิดว่าเขา (ทักษิณ) จะเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและรักความเป็นธรรม แต่แท้ที่จริงเขาเป็นเพียงพ่อค้า เอาเฉพาะผลประโยชน์ ไม่มีจุดยืน ไม่มีอุดมการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น หากยังมีจุดยืนแล้ว ต้องมีสำนึกที่ประชาชนเอาชีวิตไปแลกให้ และไม่ควรกระทำในสิ่งที่ทำในปัจจุบันคือ คนสองมาตรฐาน”

นายจตุพรกล่าวว่า เมื่อเทียบเคียงกรณีทักษิณกับบุ้ง-เนติพร จะเห็นความเป็นสองมาตรฐานชัดเจน เพราะการปฏิบัติกับบุ้งถ้าได้เพียงครึ่งเดียวของอดีตนายกฯ ทักษิณ แล้ว บุ้งคงไม่เสียชีวิต อีกอย่างคนเสื้อแดงต่อสู้กับสองมาตรฐานที่ผ่านมา แล้วทักษิณและรัฐบาลเพื่อไทยได้สร้างสองมาตรฐานตำตา ที่สำคัญเอาความตายที่ต่อสู้มาละเลงเล่น โดยไม่สำนึกถึงการต่อสู้ของประชาชนเลย

 “วันนี้วาระ 14 ปีการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ท้ายที่สุดแล้วอำนาจยังไม่ถึงมือประชาชน ดังนั้นผมขอบอกว่า บัดนี้ขอให้วางเรื่องบุคคลลง แล้วเอาเรื่องประเทศไทย และความถูกต้องดีงามมาเป็นหลัก เพราะตัวบุคคลมีการเปลี่ยนแปลงได้ เราเคยคิดว่า เขา (ทักษิณ) เป็นคนดี เป็นนักต่อสู้ แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ใช่ เราได้แค่พ่อค้าลวงโลกเท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับความสูญเสียที่เราเอาชีวิตไปแลกให้”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง