อิตาลีขายนายกฯ ‘กระเช้าภูกระดึง’

อิตาลี ๐ "เศรษฐา" ขับรถ 3 ชั่วโมง ไปหาบริษัทยักษ์ใหญ่อิตาลีที่เสนอขายสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง ด้วยระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ยอมรับโครงการน่าสนใจ  แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ที่สาธารณรัฐอิตาลี นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการพบและหารือกับผู้บริหารบริษัท Leitner (แล็กเนอร์) ว่า ต้องพูดแบบตรงไปตรงมาว่าทางบริษัทติดต่อเข้ามาเสนอขายกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะเป็นบริษัทที่อยู่มานาน และให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เพราะกระเช้าลอยฟ้าดังกล่าวใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาดอย่างครบวงจร

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โดยที่น่าสนใจอีกอย่าง หากนับรวมเวลาในการขออนุญาตทางสิ่งแวดล้อม จะใช้เวลาสร้างกระเช้าลอยฟ้าเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และสิ่งสำคัญคือการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า จำเป็นต้องสร้างผ่านภูเขาและป่าสงวน และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ

“หากมองตรงไปตรงมา ตอนนี้ไทยกำลังให้ความสนใจการสร้างกระเช้าขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ทางบริษัทจึงมาเสนอศึกษาว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ โดยขั้นตอนต่อไปจะจ้างที่ปรึกษาโครงการมาศึกษาความเป็นไปได้ และการลงทุนจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้”

นายเศรษฐากล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัท Leitner มีแนวคิดจะทำธุรกิจในประเทศไทยมานานแล้ว เพราะประเทศไทยมีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูกระดึงก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และจังหวัดเลย ถือเป็นเมืองรองที่รัฐบาลต้องการยกระดับ จึงมีแนวคิดอยากจะทำเรื่องนี้ขึ้นมา ดังนั้น เมื่อมีบริษัทข้ามชาติอยากมาลงทุนก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลการศึกษา และต้องพิจารณาผลการศึกษาอีกครั้งว่าออกมาเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า เรื่องกระเช้าขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง บริษัทดังกล่าวให้ความสนใจมาแล้วก่อนหน้านี้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวยอมรับว่า บริษัทนี้ให้ความสนใจอยู่แล้ว และได้รับการประสานมาจาก สส.ในพื้นที่ด้วยว่าอยากดำเนินโครงการนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าโครงการนี้มีแนวคิดมานานมากแล้ว เชื่อว่าจะมีผู้สนใจอยากจะเข้ามาลงทุน จนกระทั่งตนเดินทางมาอิตาลีพอดี ซึ่งบริษัทนี้ตั้งอยู่แถวประเทศออสเตรีย ขับรถมาประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อหารือเรื่องนี้ ยอมรับว่าน่าสนใจ และเชื่อว่าเรื่องนี้สามารถดำเนินการได้เร็ว

ถามว่า นอกจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึงแล้ว บริษัทดังกล่าวสนใจลงทุนในพื้นที่ไหนอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องมาพิจารณาร่วมกัน และต้องดำเนินการไปทีละขั้นตอน เชื่อว่ายังมีอีกหลายจังหวัดที่ต้องการการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป