ระทึก!ศาลรธน.รับคำร้องปม‘นิด’ตั้ง‘พิชิต’

“เศรษฐา-พิชิต” เก้าอี้สะเทือน  ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องปม 40 สว.ยื่นให้ตีความเสนอชื่อ “ทนายถุงขนม” นั่งเสนาบดีขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่เรื่องความสุจริตเป็นที่ตั้งและฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ย้อนอดีตตีความ 8 ปีลุงตู่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2567 มีความเคลื่อนไหวของสมาชิกวุฒิสภา  (สว.) ที่น่าสนใจ เมื่อ สว.กว่า 40 คนได้ร่วมกันเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ   ของนายพิชิต ชื่นบาน หลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170  ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ ในเรื่องที่ว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผ่านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 พ.ค. โดยล่าสุดนายพรเพชรส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาแล้ว

ทั้งนี้ นายพรเพชรได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2567 และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2567 เวลา 10.20 น.

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว. ในฐานะผู้ร่วมลงชื่อกล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ สว.ที่ต้องทำหน้าที่ ฐานะเป็นผู้แทนปวงชน หลังประเด็นการดำรงตำแหน่งของนายพิชิตนั้นมีผู้แสดงความเห็นในวงกว้างและเวทีสาธารณะว่าเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมาย เห็นว่าควรส่งให้องค์กรที่มีหน้าที่คือศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย โดยมี สว.ร่วมเข้าชื่อ 40 คน จากที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ สว.ที่มีอยู่

นายดิเรกฤทธิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุผลที่ระบุและบรรยายให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคือ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งกรณีของนายพิชิตนั้น มีข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้เห็นว่ามีการละเมิดอำนาจศาล และมีคำสั่งศาลสั่งให้จำคุก ทั้งนี้ มีคำบรรยายรายละเอียดข้อเท็จจริงของศาลที่ชัดเจนว่ามีพฤติกรรมทุจริตติดสินบนต่อกระบวนการยุติธรรม และถูกนำเรื่องเข้าสู่สภาทนายความให้ลบชื่อจากการเป็นทนายความ ดังนั้นจึงเป็นกรณีที่ชัดแจ้งว่าไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และยังมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นายดิเรกฤทธิ์ยังกล่าวถึงกรณียื่นให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของนายเศรษฐาว่า เป็นกรณีสืบเนื่องกัน ว่ามีประเด็นที่ทักท้วงต่อการตั้งนายพิชิตให้ดำรงตำแหน่ง แต่ทำไมนายกฯ ยังเสนอชื่อให้โปรดเกล้าฯ ให้นายพิชิตดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีก ดังนั้นจึงถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ

“กรณีนายกฯ ที่ระบุว่าได้หารือกับกฤษฎีกาแล้ว พบว่าเป็นการหารือที่ไม่ตรงประเด็น ทั้งระยะเวลาการพ้นโทษ และการตีความระหว่างคำสั่งกับคำพิพากษาเหมือนกันหรือไม่ ทั้งนี้ เรายังพบประเด็นที่เป็นปัญหา จึงเข้าชื่อเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย” นายดิเรกฤทธิ์กล่าว

นายดิเรกฤทธิ์กล่าวด้วยว่า เมื่อสำนักงานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และจากสำเนาเอกสารทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องแล้วในวันที่ 16 พ.ค. เวลา 10.20 น. ดังนั้นหากศาลรับไว้พิจารณา ต้องพิจารณาในประเด็นความสิ้นสุดลงของรัฐมนตรี และตำแหน่งนายกฯ ด้วย โดยรายละเอียดต่อจากนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ทั้งนี้ ยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทยตามหน้าที่และอำนาจของ สว. ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง  ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ หรือเรื่องการดำรงวาระ 8 ปี โดยศาลได้รับคำร้องและมีมีมติเสียงข้างมากให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024

นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด