โจ๊กจ่อสมัครสว. ล่าชื่อถอดป.ป.ช. สอบ2บิ๊กยื้อ30วัน

"บิ๊กโจ๊ก" จ่อลงสมัคร สว. ดิ้นต่อ! ยื่นประธานรัฐสภาล่าชื่อถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแท่นส่งศาลฎีกาสอบพฤติการณ์ทุจริต มั่นใจ 2 สัปดาห์ได้ครบ 2 หมื่นชื่อแน่ เหน็บ ป.ป.ช.เตรียมกว้านซื้อประทัดหมดเยาราช ส่วนคณะสอบ 2 บิ๊กนายพลขอขยายเวลาเพิ่มอีก 30 วัน

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  ที่ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ผ่านนายมุข สุไลมาน   เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อแสดงเจตนารมณ์การรวบรวมรายชื่อประชาชนถอดถอนกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนหนึ่ง

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่แสดงออกถึงพลังประชาชนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญยื่นถอดถอนกรรมการองค์กรอิสระ เพราะที่ผ่านมามีแต่การเข้ายื่นเสนอแก้ไขกฎหมาย การยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นการคิกออฟแสดงเจตนารมณ์เริ่มต้นนับ 1 รวบรวมรายชื่อประชาชน ตนจะลงชื่อเป็นคนแรก ยื่นกล่าวหากรรมการป.ป.ช.คนหนึ่งที่มีพฤติการณ์ต้องสงสัยทุจริตต่อหน้าที่ ร่ำรวยผิดปกติ และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญมาตรา 236 ระบุว่า กรณีเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระมีพฤติการณ์ทุจริต  ประชาชนสามารถยื่นรายชื่อ 20,000 คน ต่อประธานรัฐสภา ให้เสนอเรื่องต่อประธานศาลฎีกา เพื่อตั้งคณะกรรมการอิสระมาไต่สวนองค์กรอิสระได้

เขาบอกว่า จะเริ่มล่าชื่อที่แรกในวันที่ 17 พ.ค. เวลา 08.00 น. ที่ร้านกาแฟของตน จ.สงขลา ช่วงบ่ายที่ จ.พัทลุง และวันที่ 18 พ.ค. ไปล่าชื่อที่ จ.นครศรีธรรมราช  จากนั้นไปที่ จ.เชียงใหม่ อุดรธานี ชลบุรี  ขอนแก่น คาดว่าใช้เวลา 2 สัปดาห์ จะรวบรวมรายชื่อเกิน 20,000 คนแน่นอน เพราะนอกจากการตั้งโต๊ะล่าชื่อแล้ว ยังเปิดเว็บไซต์ HAKPARN.COM ให้ร่วมลงชื่อได้ง่ายขึ้นด้วย ภายใต้ชื่อปฏิบัติการกวาดบ้านให้ ป.ป.ช.

 “พอผมมาเปิดประเด็นวันนี้ ผมไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะไปเยาวราชช่วงเย็นหรือไม่ ไปซื้อประทัด กลัวว่าวันนี้ประทัดจะหมดเยาวราช”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวสนใจสมัคร สว.ว่า ขณะนี้ตนยังไม่ตัดสินใจ ขอดูรายละเอียดก่อน เพราะการสมัคร สว.ได้จะต้องไม่เป็นข้าราชการ แต่วันนี้ตนยังเป็นข้าราชการอยู่ อย่างไรก็ตาม หลักของตนง่ายๆ คืออยู่ตรงไหนแล้วทุ่มเททำประโยชน์ แก้ไขปัญหาความทุกข์ ความไม่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนได้มากที่สุด ก็ทำตรงนั้น

ที่โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์  พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น   กล่าวถึงความคืบหน้าของการสอบสวน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่าการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับผลการสอบของ 2 “พล.ต.อ.” จะถูกเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า จากเดิมที่กำหนดไว้สัปดาห์นี้ เนื่องจากรายละเอียดผลการสอบสวนทั้งหมดจะต้องมีคณะกรรมการ 3 คน ประกอบด้วยตนเอง, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายชาติพงษ์ จีระพันธุ มาร่วมชี้แจงด้วย เพื่อจะได้สามารถตอบข้อซักถามและรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องผลการสอบได้อย่างครอบคลุม

พล.ต.อ.วินัยเปิดเผยต่อว่า ในส่วนผลการสอบของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่เรียบร้อย ขณะที่ข้อมูลของฝั่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่เจ้าตัวได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำด้วยตัวเองไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งที่ภรรยาและพี่ชายได้ส่งหนังสือชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับทางคณะกรรมการฯ แต่ทั้งหมดการพิจารณาจะไม่ทันภายในกรอบระยะเวลา 60 วัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ฉะนั้นจะมีการทำเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้แต่งตั้งคณะกรรมการขอขยายกรอบระยะเวลาไปอีก 30 วัน

วันเดียวกันนี้ สมาคมตำรวจร่วมกับ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ และภาคประชาชน ร่วมกันแถลงข่าว ‘ปฏิรูปตำรวจ  โดยตำรวจและประชาชน’ โดยมี พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวน, พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ, พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ, พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวน,  รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ มหาวิทยาลัยรังสิต, ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัย Superpoll และนายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ ILaw

พล.ต.อ.วินัยกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ภาพลักษณ์ของตำรวจตกต่ำถึงขีดสุด ผลสำรวจเห็นว่ามีพี่น้องประชาชนถึงร้อยละ 93 หรือแม้แต่ตำรวจที่ทั้งรับราชการและเกษียณอายุราชการไปแล้ว ได้เรียกร้องให้ต้องปฏิรูปตำรวจ ฉะนั้นสิ่งแรกที่เราต้องทำคือ ต้องเพิ่มความศรัทธาว่าปฏิรูปแล้วองค์กรตำรวจจะต้องดีขึ้น ได้กำหนดไว้ 4 หัวข้อ 1. ปฏิรูปตำรวจแล้วประชาชนได้อะไร 2. พฤติกรรมตำรวจที่ไม่ถูกต้องต้องได้รับการแก้ไข 3.ความขาดแคลนของตำรวจ 4.การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจปี 2565

ด้าน รศ.ดร.พ.ต.ท.กฤษณพงศ์ กล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร.  มีอำนาจในการเสนอชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมโยงการเมืองกับตำรวจ ซึ่งองค์กรตำรวจยังอยู่กับการเมืองตั้งแต่สมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475  มาจนถึงยุคปัจจุบัน ฉะนั้นตนและประชาชน รวมทั้งข้าราชการตำรวจ อยากเห็นพรรคการเมืองใดก็ตามประกาศมาว่าจะทำให้ตำรวจดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อการเมือง   แต่เพื่อคนในประเทศนี้ เพื่ออาชญากรรมที่ลดลง เพราะต้องยอมรับว่าการพัฒนาองค์กรตำรวจ การปฏิรูปตำรวจ จะส่งผลต่อสถิติอาชญากรรมที่ลดลง เมืองไทยมีนักท่องเที่ยวมาประมาณกว่า 30 ล้านคนเรากระตุ้นการท่องเที่ยว แต่เราไม่ได้ดูมิติด้านความปลอดภัย ถ้านักท่องเที่ยวมาเที่ยวและตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม หรือมาก่อเหตุอาชญากรรม ใครจะมาเที่ยวเมืองไทย

พล.ต.อ.ศักดากล่าวว่า ตำรวจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมภาพพจน์ในสายตาประชาชนสื่อมวลชนด้วย ตำรวจไม่ดีเรามีมากพอสมควร แต่กลับไม่ได้โดนลงโทษอะไรเลย ตนหมายถึงคนที่ไปเก็บส่วยเดินสายหาเงิน ตำรวจพวกนี้กลับเจริญเติบโตขณะที่ตำรวจที่ตั้งใจทำงาน ดูแลหน้าที่อย่างดี ไม่ได้รับการดูแลอย่างดี

ขณะที่ พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า กรอบการเรียกร้องให้ปฏิรูปตำรวจ ต้องมองว่าประชาชนได้อะไร, พฤติการณ์ของตำรวจไม่เหมาะสม, แก้ไขความขาดแคลนและการแก้ไขกฎหมาย ทั้งนี้ การปฏิรูปเพื่อให้การบริหารบุคคลเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีธรรมาภิบาล ต้องมีการปรับโครงสร้าง ก.ตร. ประธานมาจากการเลือกตั้ง, สัดส่วน ก.ตร.โดยตำแหน่งกับการเลือกตั้งเท่ากัน และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิมาจากการเลือกตั้งของ ก.ตร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป