ลุ้นผลกรมวิทย์พิสูจน์ข้าว17พ.ค.

“สมศักดิ์” ลั่นศุกร์นี้รู้ผลตรวจข้าวเก่า 10 ปี ปัดตอบแหล่งที่มาตัวอย่างข้าว ขอประชาชนอย่ากังวล ย้ำหน่วยงานราชการต้องเป๊ะ “ชาญชัย”  แนะ รบ.ตามตัว “ปู” รับโทษคดีทุจริตจำนำข้าว ขู่เอาผิด ม.157 หากนิ่งเฉย

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำข้าวภาครัฐ ที่มีการเก็บไว้ในโกดังกว่า 10 ปี  หลังรัฐบาลเตรียมนำออกประมูลเพื่อการบริโภคว่า ขณะนี้มีการส่งตัวอย่างข้าวมาถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ จากนั้นจะขออนุญาตตามขั้นตอน  แล้วให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แถลงผลการตรวจให้ทราบ หรือวันไหนที่เสร็จ ตนอาจจะขอข้อมูลมาเพื่อแจ้งต่อสาธารณะต่อไป เบื้องต้นก็ตรวจในสิ่งที่เขาจะตรวจกัน ส่วนตัวไม่ได้มีความชำนาญเรื่องข้าวนัก แต่คิดว่าจะดูเรื่องข้าว ยาฆ่าแมลง เรื่องสารเคมีที่ใช้ในการอบ เก็บรักษาข้าว ดูสภาพทางกายภาพต่างๆ

เมื่อถามว่า ตัวอย่างข้าวที่ส่งมานั้น เป็นข้าวที่เก็บมาจากแหล่งใดบ้าง นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เขาเก็บมาเป็นวิชาการ ตนไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่ทราบว่าได้ส่งมาแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า หากผลตรวจออกมาแล้วจะสามารถพูดได้เลยหรือไม่ว่ารับประทานได้หรือไม่ได้ นายสมศักดิ์กล่าวว่า จะประกาศตามผลทางวิทยาศาสตร์ ไม่กล้าที่จะไปพูดอะไรเกินเลย เอาไปตามแผนทางวิชาการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งคาดว่าผลการตรวจจะออกมาราวๆ ปลายสัปดาห์ วันศุกร์ หรือวันเสาร์ อาทิตย์ ถึงตอนนั้นก็สามารถสอบถามตนได้อีกครั้ง ทั้งนี้ การตรวจสอบต้องมีการรีเช็กอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ส่วนงานอื่นตรวจสอบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เราตรวจในส่วนที่ส่งเข้ามา

 “ขอประชาชนอย่ากังวลเรื่องการตรวจสอบ เพราะหน่วยงานราชการทำผิดไม่ได้ ต้องเป๊ะ ถ้าไม่เป๊ะมันอยู่ยาก ราชการเขาไม่มีหลุด ขอให้สบายใจ ขอให้ให้เกียรติกัน หากไม่ให้เกียรติกัน ต่อไปใครจะมาช่วยเรา ระบบราชการต้องทำให้ถูกต้อง ไม่มีเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ขอให้สบายใจ” รมว.สาธารณสุขกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวอย่างข้าวที่ส่งมานั้น หน่วยงานใดเป็นผู้ส่งเข้ามาตรวจ และส่งถึงกรมวิทย์เมื่อไหร่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่รู้ว่ามาแล้ว เพราะไม่ได้ตามเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่งานหลัก อย่างไรก็ตาม ประมาณวันศุกร์ขอให้ตามเรื่องอีกครั้งหนึ่ง

ส่วน นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้รายงานเรื่องนี้อย่างไรบ้างนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการ รับทราบแค่ว่ามีตัวอย่างส่งมาแล้ว ซึ่งตนเพิ่งทราบ

ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์  อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขอย้อนถึงความเป็นมาของข้าวกองนี้ ที่เป็นเศษสุดท้ายของข้าวในโครงการรับจำนำข้าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 คดีหมายเลขดำที่ อม. 22/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อม.211/2560 โดยคำตัดสินของศาลฎีกาฯ สรุปสาระได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล ต้องระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการทุจริตในขั้นตอนการระบายข้าว แต่จำเลยกลับมีพฤติการณ์ในการละเว้นหน้าที่ตามกฎหมาย ส่อแสดงเจตนาออกโดยแจ้งชัด อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายบุญทรง กับพวกแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าว

นอกจากนี้ ยังแอบอ้างนำบริษัท GSSG และบริษัท Hainan grain เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ตามประกาศของกรมการค้าภายใน แล้วมีการหาประโยชน์ที่ทับซ้อนโดยทุจริต ได้ค่าส่วนต่างจากราคาข้าวตามสัญญาซื้อขาย 4 ฉบับ อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ และเกิดผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินโดยตรง ถือได้ว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ในความหมายตาม พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ทั้งนี้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบสำหรับตนหรือผู้อื่น ดังนั้นการกระทำของจำเลยคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลัง ประเทศชาติ หรือผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ให้จำคุก 5 ปี

"เมื่อศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวในหน้า 95 ของคำตัดสิน ผมจึงขอฝากถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ช่วยไปตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามคำพิพากษาศาล เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือภาษาชาวบ้านคือ เอามาเข้าคุก 5 ปี ตามคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่ไปช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากนี้ผมจะทำหนังสือถึงนายภูมิธรรม พร้อมคำพิพากษาของคดีนี้ เพราะคุณมีหน้าที่  ซึ่งโดยหลักของ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่กำหนดมูลฐานความผิดตามมาตรา 3(5) ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตามกฎหมายนี้ และตามคำตัดสินของคดีนี้ การเอาเงินกลับมาคืนคลังและกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นต้นเรื่องในการที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเป็น รมว.พาณิชย์แล้วกลับจะมาแก้ปัญหาให้กับคนที่ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินลงโทษไปแล้ว” นายชาญชัยระบุ

นายชาญชัยกล่าวด้วยว่า จะส่งเรื่องนี้ให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย ที่ต้องยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตามคำพิพากษาศาล เรื่องนี้นายกฯ ต้องดำเนินการนี้ เพราะเป็นคดีอาญา ส่วนที่มีการอ้างและเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าศาลปกครองกลางยกคำร้องกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ฟ้องว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 3 หมื่นล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน เพราะกรณีค่าปรับที่ศาลปกครองกลางสั่ง เป็นคดีคำสั่งทางปกครอง แต่คดีที่ศาลฎีกานักการเมืองตัดสินจำคุกนี้ เข้าข่ายมูลฐานความผิดการฟอกเงินของกฎหมาย ปปง.

ทั้งนี้ จำเป็นต้องอธิบายให้สังคมไทย รับทราบว่า วันนี้ต้องกลับไปยึดอายัดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาคืนรัฐ โดยนายภูมิธรรมที่เป็น รมว.พาณิชย์ มีหน้าที่ต้องทำ ซึ่งจะไปปรึกษากับนายเศรษฐาให้ดีก็ได้ หากตนยื่นเรื่องไปแล้ว และหากพวกท่านไม่ทำอะไร ความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 จะติดตัวไปตลอดชีวิต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง