เพลิงไหม้ถังสารเคมีมาบตาพุดสงบแล้ว 100% แต่ยังต้องมีการฉีดโฟมและน้ำ พร้อมวัดอุณหภูมิทุกชั่วโมง เพื่อป้องกันการระเบิดซ้ำ นายกฯ สั่ง รมว.อุตสาหกรรม-เอกชนเยียวยาเหยื่อ เลิกประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว กระทรวงแรงงานจ่ายชดเชยเต็มพิกัด
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 บริเวณด้านหน้าของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ในช่วงเช้า พบว่าเพลิงได้สงบลงแล้ว 100% แต่ยังต้องมีการฉีดโฟมและน้ำ วัดอุณหภูมิทุกชั่วโมงให้ไม่เกิน 30-40 องศาฯ เพื่อป้องกันการระเบิดซ้ำ
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ได้มีการแถลงการณ์ว่า ถังสารเคมีที่มีเพลิงไหม้และเกิดระเบิดมีเพียงถังเดียว คือบริเวณถังจัดเก็บสารประกอบไฮโดรคาร์บอน C9+ ส่วนถังที่ 2 ที่มีสีดำ เกิดจากเปลวไฟที่ไปโดนตัวถัง แต่ยังไม่มีการระเบิดหรือเผาไหม้ ทั้งนี้ ทางบริษัทยินดีมอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บ 5 ราย บริษัทจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่
ในส่วนของชาวบ้านกลุ่มประมงเรือเล็กตากวนอ่าวประดู่ หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ยังคงตกใจกลัว และกังวลว่าจะมีการระเบิดซ้ำขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันศุกร์ที่ผ่านมามีการฉีดน้ำและโฟมเพื่อลดอุณหภูมิภายในถังให้คงที่ และป้องกันการปะทุซ้ำ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเยียวยาเหตุเพลิงไหม้นี้ว่า ได้สั่งการถึงการเยียวยาประชาชน โดยสั่งการ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยภาคเอกชนคือบริษัท สยามซีเมนต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบดูแลเยียวยาผู้ประสบเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนเรื่องภัยพิบัติที่เราประกาศภาวะฉุกเฉิน เราก็ยกเลิกไปแล้วเพราะไฟดับไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการป้องกันอย่างไร เนื่องจากช่วงอากาศร้อนส่งผลให้เกิดเหตุไฟไหม้ถี่ขึ้น นายเศรษฐาตอบว่า ได้เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้มีการป้องกันป้องปรามให้โรงงานต่างๆ ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ การเข้าควบคุมเพลิงต้องมีมาตรฐานในการจัดการดับไฟ เช่น อาจจะมีการซ้อมดับไฟไว้ก่อน ให้มีความเข้มข้นขึ้นในของการเตรียมการ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโรงงานต่างๆ และประชาชนที่อาศัยในบริเวณรอบข้าง
ด้าน น.ส.พิมพ์ภัทราเปิดเผยว่า สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และบริษัทได้ทำการควบคุมเพลิงไว้ได้อย่างเด็ดขาด แต่ขณะเดียวกันยังทำการฉีดโฟมหล่อเย็นไว้เพื่อควบคุมอุณหภูมิจากสภาวะอากาศที่มีอุณหภูมิสูง
ด้านการดูแลประชาชนในพื้นที่โดยรอบนั้น ได้อพยพประชาชนไปยังที่ทำการชุมชนตากวนอ่าวประดู่ จ.ระยอง รวมทั้งประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะสหเวชศาสตร์ เพื่อส่งทีมแพทย์เข้ามาดูแลสุขภาพ และตรวจรักษาให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว
ส่วนการตรวจวัดคุณภาพน้ำชุมชนโดยรอบพื้นที่ โดยรถโมบายของสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จำนวน 2 จุด ได้แก่ คลองชากหมาก และบริเวณบริษัท ไทยพลาสติกเคมีภัณฑ์ พบว่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ขณะที่คุณภาพในบรรยากาศพบว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดตรวจสถานีอนามัยตากวน, จุดตรวจสถานีหนองเสือเกือก และจุดตรวจสถานีเทศบาลเมืองมาบตาพุด อยู่ในเกณฑ์ปกติ
"สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เบื้องต้นทางบริษัทยืนยันว่าจะดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่ และดิฉันได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ยังกำชับ กนอ.ให้กำกับดูแลการประกอบกิจการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมอย่างเข้มงวดและรัดกุมมากขึ้น อีกทั้งต้องกำกับให้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างจริงจังด้วย" น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าว
ขณะที่ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ได้กำชับทุกนิคมอุตสาหกรรม รวม 66 แห่ง ให้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ ตามมาตรฐาน "การจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต" (Process Safety Management : PSM) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบกิจการ และประชาชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของแรงงานที่เสียชีวิต และขอส่งกำลังใจให้ผู้บาดเจ็บหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือเยียวยา ได้มีการกำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะสำนักงานประกันสังคม ดูแลในเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนที่พึงได้รับตามกฎหมาย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาให้ญาติทราบ ดังนั้นขอให้มั่นใจได้ว่า กระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล พี่น้องแรงงานทุกคนที่เสียชีวิตหรือประสบอันตรายในการทำงาน
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ลูกจ้างที่เสียชีวิตทายาทจะมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน เป็นค่าทำศพ จ่ายแก่ผู้จัดการศพ รายละ 50,000 บาท ค่าทดแทนกรณีตายเป็นระยะเวลา 120 เดือน จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 14,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,680,000 บาท เงินบำนาญชราภาพ 110,039.50 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) รวมได้รับทั้งสิ้น 1,840,039.50 บาท ส่วนลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย จะมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนเงินทดแทน เป็นค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ค่าทดแทนกรณีหยุดงาน 70% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกินระยะเวลา 1 ปี ทั้งนี้ ญาติของลูกจ้างที่เสียชีวิตและบาดเจ็บสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง หรือโทร.สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 1 สำนักงานประกันสังคม
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เพื่อสุขภาพอนามัยของนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และบุคลากรการศึกษา ที่อาจได้รับผลกระทบจากอากาศปนเปื้อนสารเคมี จึงได้สั่งการให้เขตพื้นที่ฯ และ ผอ.โรงเรียน ในรัศมี 30-40 กม.จากที่เกิดเหตุ ว่ามีผลกระทบหรือไม่ หากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของครู นักเรียน บุคลากร ผู้ปกครอง ขอให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุทันที หรือประสานหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่และศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ได้โดยตรง
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม และ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีการเกิดไฟไหม้โรงงานในพื้นที่ต่างๆ ว่าทางคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมรู้สึกช่วงนี้เกิดไฟไหม้ขึ้นบ่อย ซึ่งอาจจะเป็นอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือประสิทธิภาพหรือความพร้อมของหน่วยงานดับเพลิง ซึ่งเท่าที่ทราบต้องมีการทบทวนหรือปรับปรุงประสิทธิภาพในการดับเพลิง เพราะทุกครั้งหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุจะทราบว่าหน่วยงานดับเพลิงยังมีความไม่พร้อม ทำให้ในขณะเกิดเหตุการควบคุมเพลิงในหลายๆ กรณีที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรค ทั้งเรื่องอุปกรณ์ น้ำยาเคมี บุคลากร งบประมาณ แผนเผชิญเหตุที่ยังไม่มีความพร้อม 100% ส่งผลให้ระยะเวลาในการควบคุมเพลิงมีระยะเวลายาวนานกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและสิ่งแวดล้อม แต่ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิงทุกท่าน โดยความไม่พร้อมต่างๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องระดับบริหารควรจะต้องรับมาปรับปรุงอย่างเร่งด่วน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
สั่งประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คุกผัวเก่า-ทนาย
ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าก้อย พร้อมชดใช้ 2.3 ล้าน