‘พท.-ภท.’เปิดศึกปม‘กัญชา’ อนุทินท้าพิสูจน์ว่าอันตราย

นายกฯ ลั่นดึงกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด ระบุทำเพื่อประชาชน เผยระดับเจ้าหน้าที่คุยกันเรียบร้อยแล้ว ด้าน "อนุทิน" เผยถ้าวันนี้มีข้อมูลใหม่มา กัญชาอันตรายเป็นยาเสพติดแน่นอน ถ้ามีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ผมต้องรับฟัง “เครือข่ายกัญชา” เดือด จ่อชุมนุมเรียกร้องรัฐบาล กำหนดกติกากัญชาให้ชัดเจน ขีดเส้น 7 วัน แฉ สส.ในพรรคเพื่อไทยหลายคนก็ทำธุรกิจกัญชา

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติด เมื่อวันที่ 8 พ.ค. มีการเสนอแนวทางการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงพรรคภูมิใจไทย  (ภท.) ที่ใช้นโยบายปลดล็อกกัญชาหาเสียงหรือไม่ ว่า "ทำไมคำถามที่ท่านถาม   ถามว่าทำไมกระทบกับพรรค อะไรที่กระทบกับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ผมเชื่อว่าทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย   หรือคณะรัฐบาล เราตัดสินใจทำอะไรเราตัดสินใจทำเพื่อประชาชน"

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือยัง นายเศรษฐาตอบว่า เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการคุยกันเรียบร้อยแล้ว

ด้านนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า     ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องไปหาข้อมูลมา เพราะที่ผ่านมา การประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติดหรือพ้นจากการเป็นยาเสพติด เป็นการประกาศโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติชุดใหญ่ แต่ก่อนที่จะมาถึงตรงนั้น ก็มีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานอยู่ ซึ่งตอนที่ปลดกัญชา ก็มีความชัดเจนว่าเหตุใดถึงปลดได้ แต่ปัญหาของมันตอนนี้คือ กฎหมายไม่มี เราเคยเสนอกฎหมายเข้าไป ผ่านวาระแรกแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ไม่ผ่านวาระสอง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของเหตุผล

ดังนั้น เราต้องยืนยันเจตนารมณ์​ต่อไป ว่ามันพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ใช้ความรู้สึก และนโยบายต่างๆ ก็ต้องมีข้อมูลมาสนับสนุน ตรงนี้ไม่กังวล  และที่ผ่านมาก็อยู่ในนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ วันนี้ตนย้ายมากระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ก็เป็นคณะกรรมการฯ ด้วย เราก็ต้องให้ข้อมูลในส่วนของเรา  ส่วนจากมติจะออกมาอย่างไร ก็เป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า ต้องมีการเยียวยาหรือไม่  นายอนุทินตอบว่า ตอนที่เราประกาศให้กัญชาออกจากยาเสพติด นักโทษ 6,000-7,000 คน ได้รับการปล่อยตัวทันที บางทีเขารักษาตัว บางทีพวกเขาเป็นแพทย์ประจำบ้าน แพทย์แผนโบราณ ถูกตัดสินจำคุก เขาก็ได้รับการปล่อยตัว

"ส่วนตัวไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ถ้าวันนี้มีข้อมูลใหม่มา กัญชาอันตรายเป็นยาเสพติดแน่นอน ถ้ามีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ ผมต้องรับฟังและพิจารณา แต่ในปัจจุบันเราก็ต้องรอข้อมูลเหล่านั้นมาก่อน วันนี้ที่ยังปลูก 6 ต้นได้ หรือพวกที่เอามาทำเป็นสินค้า เขาแค่จดแจ้งหรือทำรายงานว่า เขาจะเอาไปขาย วันนี้เราจะทำอย่างไรถ้าเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะต้องมีบทเฉพาะกาลคุ้มครองคนเหล่านี้หรือไม่  จะต้องมีการดูทุกอย่าง"

ถามว่า เป็นเหมือนโครงการเรือธงของพรรคภูมิใจไทย จะกระทบอะไรหรือไม่ รมว.มหาดไทยตอบว่า ในขณะที่ประชาชนให้ความไว้วางใจให้เราเข้าไปกำกับกระทรวงสาธารณสุข เราก็เดินหน้าตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้ทุกอย่าง มีการปลดกัญชาจากยาเสพติดเรียบร้อย แต่พอมาถึงรัฐบาลนี้ พรรคภูมิใจไทย เสียงไม่พอที่จะเข้าไปกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข เราต้องให้รัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่เราต้องให้ข้อมูลว่าเหตุใดกัญชาจึงมีประโยชน์มากกว่าโทษ เราให้ข้อมูลเข้าไปเต็มที่ ก็โหวตกันในที่ประชุม ผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ เราจะยืนยันไปโดยที่ไม่รู้ว่าเขามีข้อมูลอย่างไรก็คงไม่ได้ ตอนนี้เราไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่เราจะยืนยันในข้อมูลที่เรามี หากใครมีข้อมูลที่ดีกว่าก็มาหักล้าง

"ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อมูล ตอนที่ทำให้ปรับจากยาเสพติด เรามีข้อมูลอย่างไรบ้าง ตรงนี้เป็นข้อมูลของผม เป็นเหตุผลที่เราเห็นว่าทำแล้วมีประโยชน์ทางการแพทย์ ขึ้นบัญชียาหลักของชาติ แต่ถ้าบอกเป็นยาเสพติด ก็ต้องมานั่งถามกันว่า จะเอาขึ้นเป็นบัญชียาได้หรือไม่ ตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าข้อมูล"

เมื่อถามว่า จะกระทบฐานเสียงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เพราะเขาอาจจะเลือกพรรคเพราะนโยบายนี้ นายอนุทินกล่าวว่า  วันนี้เสียงเราไม่พอที่จะเข้าไปกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่ตอนที่เรากำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข เราก็ทำทุกอย่างเช่นเดียวกับกฎหมายที่เราส่งเข้าสภา แต่เราก็ถูกหักหลัง คนที่รับโทษก็คือประชาชน ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย ตอนนี้ไม่ได้ดูกระทรวงสาธารณสุขแล้ว เราต้องให้เกียรติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบันที่จะต้องไปดำเนินการ

ขณะที่ เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ประกาศชุมนุมเพื่อกำหนดกติกากัญชาให้ชัดเจน โดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้ยืนยันตลอดมาว่าการที่จะกำหนดสิ่งใดเป็นยาเสพติดนั้น ให้ใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์เป็นตัวชี้วัด โดยขอให้กระทรวงสาธารณสุขทำการเปรียบเทียบประโยชน์และโทษ ระหว่างกัญชา  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หากข้อเท็จจริงด้านวิทยาศาสตร์ระบุว่ากัญชามีโทษมากกว่าประโยชน์เมื่อเปรียบเทียบกับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้นำกัญชากลับสู่ยาเสพติด แต่หากข้อเท็จจริงพิสูจน์ว่ากัญชาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกปั่นในปัจจุบัน ให้สร้างกฎหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งเป็นการเฉพาะสำหรับควบคุมการใช้กัญชาในประเทศไทย

นายประสิทธิ์ชัยกล่าวว่า หลักการเช่นนี้ทำไมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ปฏิบัติ ทั้งที่เป็นหลักการที่ตัดอคติทั้งมวลออกไปให้เหลือข้อเท็จจริงด้านวิทยาศาสตร์ที่ใช้สำหรับการกำหนดนโยบาย แต่เหตุผลที่แท้จริงแล้ว พรรคเพื่อไทยคือพรรคของกลุ่มทุนตลอดมา และมี สส.หลายคนในพรรคทำธุรกิจกัญชา สิ่งที่พวกเขาต้องการคือควบคุมการปลูก เมื่อควบคุมการปลูกได้ เท่ากับผูกขาดได้ เพราะมีผู้ผลิตน้อยราย ความพยายามมาตลอดในการทำกติกาใหม่เพื่อให้กลุ่มเฉพาะเท่านั้นที่ปลูกได้เป็นเป้าหมายสูงสุด

 “เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยยืนยันในหลักการเดิมว่า ขอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำข้อมูลวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบ แล้วนำข้อเท็จจริงนั้นมากำหนดว่าสิ่งใดควรเป็นยาเสพติด และหากรัฐบาลยังไม่ใช้ข้อมูลในการกำหนด  เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะรวมตัวยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภายใน 7 วันนี้ และหากรัฐบาลยังดึงดันไม่ใช้ข้อเท็จจริงกำหนดสถานะของกัญชา เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะประกาศการชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลกำหนดกติกาการใช้กัญชาจากข้อเท็จจริง” นายประสิทธิ์ชัยกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป