ไฟไหม้ถังสารเคมีโรงงานมาบตาพุด ดับ 1 เจ็บ 4 ราย ระยองประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 อพยพคนออกจากพื้นที่ นายกฯ สั่งตั้งวอร์รูมระงับเหตุเร่งเยียวยาประชาชน “พิมพ์ภัทรา” มอบผู้ว่าการ กนอ. บัญชาการในพื้นที่ เผยผลตรวจคุณภาพอากาศชุมชนยังไม่เกินค่ามาตรฐาน เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 6 ชั่วโมงถึงควบคุมเพลิงได้
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 10.30 น. เกิดเหตุการปะทุและมีเปลวไฟ ภายในถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) ถนนไอ 8 ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 4 ราย โดยบริษัทได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มบริษัทในเครือเอสซีจีได้นำโฟมมาดับเพลิง และเตรียมเรือเพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่
ต่อมา เวลา 14.00 น. นายวีริศสั่งการให้ สทร.และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จังหวัดระยอง อพยพคนในพื้นที่ ทั้งพนักงาน และสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งในพื้นที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่โดยด่วน หลังเริ่มมีการลุกลามของเพลิงไหม้ โดยทางจังหวัดระยองได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 1
ทั้งนี้ มีหน่วยงานเข้าร่วมระงับเหตุ ประกอบด้วย 1.รถโฟมดับเพลิง จาก บ. SCGC จำนวน 2 คัน 2.รถโฟมดับเพลิง จาก บ.PTT LNG จำนวน 2 คัน 3.รถดับเพลิงเทศบาลเมืองมาบตาพุด จำนวน 4 คัน (รถโฟม 2 คัน/รถน้ำ 2 คัน) 4.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สาขา 6 สนับสนุนรถดับเพลิง (ชนิดโฟม) จำนวน 2 คัน 5.บริษัท NPC S&E สนับสนุนโฟม จำนวน 1 หมื่นลิตร กับรถดับเพลิง เข้าช่วยระงับเหตุ 6.บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนรถดับเพลิง จำนวน 2 คัน
ขณะเดียวกัน กนอ.มีคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้บริษัท มาบตาพุด แทงค์ฯ หยุดประกอบกิจการโรงงานในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับหน่วยถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก เป็นการชั่วคราว เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้บริษัทตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก รวมถึงสรุปผลการตรวจสอบและแนวทางปรับปรุงแก้ไขเสนอ กนอ. นอกจากนี้ วิเคราะห์หาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน และจัดทำมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ พร้อมทั้งชี้แจงแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวด้วย
"เบื้องต้นศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณหน้าบริษัท พบว่าคุณภาพในบรรยากาศอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งกำชับทุกนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มความเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ ตามมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยกระบวนการผลิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชุมชน” นายวีริศระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.13 น. จังหวัดระยองได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้บัญชาการร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และหน่วยงานราชการท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมอพยพประชาชนชุมชนหนองแฟบ, ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ ไปที่ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีพนักงานเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท มาบตาพุดแทงค์ฯ
ทางด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน x ว่า ทราบเหตุเพลิงไหม้แล้ว และได้ประสาน รมว.อุตสาหกรรมเข้าไปติดตามการระงับเหตุ และป้องกันผลกระทบที่จะเกิดต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยได้มีการเปิดห้องวอร์รูมเพื่อประสานเหตุการณ์ในการระงับเหตุ และให้รถตรวจการณ์ EMCC เข้าตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณเหนือลมและท้ายลม รวมทั้งตรวจสอบผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ชุมชน พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ ได้ประสานกับบริษัทเอสซีจี เพื่อใช้เรือในการอพยพผู้คนทางเรือ และได้อพยพคนออกมาอยู่ในจุดปลอดภัยแล้ว
"ผมห่วงใยไปถึงพี่น้องประชาชน และได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการป้องกันและควบคุมให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกครับ” นายกฯ ระบุ
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ กนอ.เร่งตรวจสอบทุกระบบ และให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในการเผชิญสถานการณ์และบัญชาการเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉินขณะนี้มีนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าฯ กนอ. บัญชาการประจำวอร์รูม เพื่อประสานเหตุการณ์และระงับเหตุ และมีนายคณพศ ขุนทอง รองผู้ว่าการ กนอ. สายงานปฏิบัติการ 3 อยู่หน้างาน
รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า มีรายงานทางข้อมูลเทคนิคทราบว่า บริษัท มาบตาพุด แทงค์ฯ ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินและประกอบกิจการท่าเทียบเรือและคลังเก็บสินค้าเหลว ระหว่างการเดินระบบปกติ ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน หมายเลขถัง TK 1801 ขนาดบรรจุ 9,000 ลูกบาศก์เมตร การเผชิญเหตุบริษัทได้ดำเนินการตามแผนตอบโต้สภาวะฉุกเฉิน และ กนอ.ได้จัดส่งรถตรวจสอบคุณภาพอากาศ เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณรอบ พร้อมทั้งแจ้งปิดร่องน้ำทางเดินเรือท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ปลัดกระทรวงพลังงานได้สั่งการให้ตั้งวอร์รูมขึ้น โดยให้กรมธุรกิจพลังงานและพลังงานจังหวัดระยองประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เตรียมความพร้อมให้การทำงานของ LNG Terminal ในมาบตาพุดให้สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เตรียมเชื้อเพลิงสำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถติดต่อศูนย์สื่อสารที่หมายเลข 0-3891-1995 จะมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจงและให้ข้อมูล
พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ไปยังศูนย์ราชการจังหวัดระยอง อำนวยความสะดวกและดูแลประชาชนที่อพยพจากพื้นที่เกิดเหตุ มาพักพิงที่โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร รวมถึงสั่งการให้เรือหลวงศรีราชาออกเรือไปท่าเรือมาบตาพุด เพื่อเตรียมรับผู้ที่ติดค้างที่ไม่สามารถออกมาได้ นอกจากนั้นยังเตรียมอากาศยานไร้คนขับ UAV Schiebel พร้อมลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัยในที่เกิดเหตุ
นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานมีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 5 ราย โดยกระจายรักษาใน รพ.เอกชน รพ.ระยอง และ รพ.มาบตาพุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
จากนั้น เวลา 16.50 น. นายอัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมดับเพลิงสามารถดับไฟได้แล้ว โดยใช้โฟมฉีดในการดับไฟ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังคงต้องฉีดโฟมหล่อเลี้ยงไว้ก่อน จนกว่าจะมั่นใจว่าไฟดับร้อยเปอร์เซ็นต์ สรุปแล้วไฟได้ไหม้ถังสารไปทั้งหมด 2 ถังใหญ่ และพื้นที่โดยรอบเสียหายไปทั้งหมด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"