เบรกกฤษฎาไขก๊อก น้อยใจขุนคลังริบกรมใหญ่/ร้องปปช.ฟันจริยธรรมนายกฯ

"กฤษฎา" ไขก๊อกเก้าอี้ "รมช.การคลัง" เชื่อน้อยใจแบ่งงานใหม่ก.คลัง โดนริบกรมหลักเหี้ยน จากเคยคุมกรมสรรพสามิตเหลือเพียงดูแลสำนักบริหารหนี้ฯ "เศรษฐา" ยกหูเบรกใบลาออก ให้เวลาคิด 1 คืน เชื่อเหตุน้อยใจแบ่งงาน ปลอบใจพร้อมจัดโปรเจกต์อื่นให้ทำเพิ่ม "จุลพันธ์-เผ่าภูมิ" ปัดไม่เกี่ยวข้อง โยนอำนาจแบ่งงานอยู่ที่ รมว.การคลัง "นายกฯ" โชว์กินข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฯ ยันคุณภาพดีไม่มีตก "ภูมิธรรม" เซ็งปมซาวข้าวหลายน้ำถูกโยงเบี่ยงประเด็น ยันแค่ย้ำ 10 ปีข้าวจำนำไม่เน่าคุณภาพดี-มีราคา ไม่เกี่ยวฟอกคดี "พิชิต" คึกปรับศูนย์ร้องทุกข์ทำเนียบฯ เพื่อช่วย ปชช.

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. มีรายงานว่า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.การคลัง) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รมช.การคลัง ต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ภายหลังจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้มีคำสั่งการแบ่งงานให้ รมช.การคลัง กำกับดูแลภายในกระทรวงการคลังใหม่ ซึ่งคาดว่าสาเหตุการยื่นหนังสือลาออกครั้งนี้มาจากความน้อยใจ เนื่องจากถูกปรับลดหน่วยงานในกำกับดูแลเหลือเพียงสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานตามนโยบาย

ส่วนหน่วยงานหลักที่เคยกำกับดูแลอยู่ เช่น สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย,  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ถูกดึงกลับไปอยู่ในการดูแลของ รมว.การคลัง ซึ่งเป็นการอำนาจหน้าที่และบทบาทในการกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังอย่างมาก เช่นเดียวกับกรมสรรพสามิต ก็มอบให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กำกับดูแลแทน นอกจากนี้ ยังมีการปรับลำดับการเป็น รมช.การคลัง โดยให้นายจุลพันธ์ เป็น รมช.การคลังลำดับที่ 1 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลังคนใหม่ เป็นลำดับที่ 2 ส่วนนายกฤษฎา เป็น รมช.การคลังลำดับ 3

"ในคำสั่งแบ่งงานที่นายพิชัยลงนามเมื่อวันที่ 7 พ.ค. เรื่องการมอบอำนาจให้ รมช.การคลัง ปฏิบัติราชการแทน รมว.การคลัง โดยเพิ่มหน่วยงานในกำกับให้นายจุลพันธ์ในกรมหลักสำคัญของกระทรวง เช่น กรมศุลกากร กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีซึ่งเป็นหัวใจหลักของกระทรวง ซึ่งเดิมนายกฤษฎาดูแลในส่วนของกรมสรรพสามิต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเรื่องการจัดเก็บภาษีน้ำมัน ซึ่งเป็นนโยบายด้านพลังงาน ที่เป็นหัวใจหลักของพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ซึ่งการแบ่งงานใหม่นี้น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายกฤษฎาน้อยใจและยื่นหนังสือลาออกครั้งนี้" แหล่งข่าวระบุ

ผู้สื่อข่าวกระทรวงการคลังได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากนายกฤษฎา ได้คำตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ขับรถอยู่ไม่สะดวกคุย ไว้คุยวันหลัง”

ส่วน น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.การคลัง ปฏิบัติราชการประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ) ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวนายกฤษฎายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รมช.การคลังว่า มีผู้สื่อข่าวส่งข่าวมา  ตนจึงได้โทร.หานายกฤษฎา ท่านก็บอกว่าใบลาออกกำลังมา ซึ่งตนได้บอกว่าให้คิดไว้ก่อนคืนหนึ่ง เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่

ถามว่า นายกฯ ระงับใบลาออกไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ระงับไว้ก่อน

เมื่อถามว่า ตกใจหรือไม่ที่นายกฤษฎาลาออก นายกฯ กล่าวว่า เรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นมากกว่า ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกัน ตนบอกว่าหากมีความไม่สบายใจในเรื่องการแบ่งงาน ก็ยังมีโปรเจกต์อีกเยอะในกระทรวงการคลัง ที่ยังทำงานร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีได้ นายพิชัยก็พร้อมมอบหมายงานเพิ่มเติมให้ จึงขอให้ท่านคิดดูอีกคืนหนึ่งก่อน

ซักว่านายกฤษฎาได้แจ้งเหตุผลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องแบ่งงานมั้งครับ เมื่อถามว่านายกฤษฎาได้ตอบอย่างไรทางโทรศัพท์ นายกฯ กล่าวว่า ท่านก็หัวเราะ ตนก็บอกว่าให้คิดดูก่อนแล้วกัน ตนยังไม่รับ และท่านก็เป็นน้อง ตนรู้จักกันมานาน ก็บอกไปแบบนั้น

นายกฯ เบรก 'กฤษฎา' ไขก๊อก

ย้ำว่าเป็นการเบรกหนังสือลาออกไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ครับ  ชัดเจนครับ เมื่อถามว่าได้คุยกับนายพิชัยหรือไม่ว่าเป็นเรื่องการแบ่งงาน นายกฯ กล่าวว่า นายพิชัยได้พยายามโทร.หานายกฤษฎา แต่ท่านไม่ยอมรับสาย ตนจึงโทร.หาแทน พอดีเลขาฯ ของนายกฤษฎาอยู่ตรงนี้พอดี จึงให้โทรศัพท์ไป

"เรื่องการแบ่งงานคิดว่าต้องให้เกียรตินายพิชัย ซึ่งยังมีงานเพิ่มอีกเยอะ เพราะงานบางอย่างไม่ได้ระบุไว้ทั้งหมด มันมีโปรเจกต์อีกเยอะแยะ ซึ่งที่จริงต้องช่วยกัน และผมก็เชื่อว่าทาง รมว.การคลังเหลือขอบเขตการแบ่งงานสำหรับให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ ซึ่งนายกฤษฎาก็เป็นอดีตปลัดด้วย ท่านจะสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ดี" นายกฯ กล่าว

ถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยบอกว่าจะต้องมีการนัดคุยภายในกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอาจมีรัฐมนตรีบางคนแอบน้อยใจ แต่ยังไม่ออกอาการ นายเศรษฐากล่าวว่า อย่างที่ตนเรียน ย่อมมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ มีความสุขและไม่มีความสุข แต่ของพรรค์นี้ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการตัดสินใจออกไปโดยยึดโยงกับเนื้องานเป็นหลัก ซึ่งก็มีการคุยตลอด และวันนี้ก็คุยตลอดตั้งแต่เช้า ตนไม่ได้ไปไหนเลย นั่งทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว

ซักว่าจะมีผลกระทบต่อการทำงานรัฐบาลหรือไม่ เพราะหลังปรับ ครม.มีลาออก 2 คน นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่มี ก็ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็มีการแต่งตั้งแล้ว นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ก็เป็นอดีตทูต

ถามว่า จำเป็นต้องเคลียร์ใจกับนายกฤษฎา ที่ดูเหมือนถูกลดลงไปอยู่อันดับ 3 หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ได้โทร.หาท่านแล้วเมื่อกี้นี้ ขอให้รอคำตอบวันที่ 9 พ.ค.

เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นการเบรกไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เบรกไว้ก่อน เมื่อกี้พูดชัดเจน เมื่อถามว่าคิดว่าผลการเบรกจะสำเร็จหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะสำเร็จ เพราะตนกับนายกฤษฎารู้จักกันมานาน เมื่อถามว่าได้คุยกับนายพิชัยเรื่องการแบ่งงานที่ไม่ลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี อย่างที่บอกทุกอย่างที่พูดไปได้มีการคุยกันก่อนล่วงหน้าหมดแล้ว มีการแพลนกันล่วงหน้าแล้วว่าทำไมถึงแบ่งอย่างนี้ แล้วทำไมต้องเหลือบางพื้นที่ไว้เพื่อให้นายกฤษฎาได้ทำงานในแง่ของโปรเจกต์หลักที่ยังมีอีกเยอะ

พอถามว่า ที่นายกฯ ขอเบรกใบลาออกนายกฤษฎาว่าอย่างไร นายกฯกล่าวว่า นายกฤษฎาหัวเราะ เมื่อถามว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้มาพบหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า เปล่า ไม่มี ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้มีอะไร เมื่อสักครู่ตนเพิ่งประชุมแก้ปัญหายาเสพติดและประชุมเรื่องโครงการพระราชดำริ และเรื่องของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อนำค่ายทหารมากักกันผู้ติดยาเสพติด รวมทั้งการหาพื้นที่ให้ราษฎรทำกิน สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลพี่น้องประชาชนเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงการแบ่งงานในกระทรวงการคลังว่า ไม่มีปัญหาส่วนตัว ได้รับภารกิจอะไรมาก็พร้อมที่จะดำเนินการ เพราะทุกหน่วยงานมีความสำคัญมีภารกิจหน้าที่เฉพาะต้องทำงานร่วมประสานและทำงานอย่างเต็มที่

 “ผมว่าอย่าเพิ่งสรุปตอนนี้เลยว่า รมช.การคลังจะลาออกหรือไม่ เพราะยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ตอนนี้ผมก็รู้จากข่าว และนายกฯ ก็ไม่ได้มีการยกหูโทรศัพท์มาหา จริงๆ ไม่ได้มีประเด็นอะไรงานของกระทรวงการคลังมีกว้างมากและภารกิจงานที่ รมว.การคลัง รับผิดชอบก็กว้างมาก ซึ่งข้ามไปถึงงานในหน้าที่รองนายกฯภารกิจเยอะ แต่ไม่ต้องห่วง”นายจุลพันธ์กล่าว

ถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการลาออกเพื่อหนีจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ รมช.การคลังก็ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด และหากถ้าหากจำเป็นต้องมีการแบ่งหน่วยงานคืนให้ ก็ไม่มีปัญหา

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง  กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่อง และยังไม่ได้ต่อสายคุยกับนายกฤษฎา เห็นตามข่าว แต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนปัญหาเรื่องการแบ่งงานไม่ทราบจริงๆ  ให้ไปถามผู้ที่เกี่ยวข้องจะดีกว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง

"การปรับหน่วยงานดูแลกันใหม่หรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบของผม เป็นหน้าที่ รมว.การคลัง ในการดูแลความเหมาะสม เป็นอำนาจของนายพิชัย" นายเผ่าภูมิกล่าว

ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงข่าวนายกฤษฎาลาออกจากตำแหน่งว่า คงเป็นกระแสข่าว ตนยังไม่ทราบ เพิ่งประชุมเสร็จเดี๋ยวนี้

ถามว่า เมื่อนายกฤษฎาลาออกจะทำให้มีปัญหาในการทำงานหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ก็หาคนอื่นแทน ก็แค่นั้น เมื่อถามต่อว่าจะยับยั้งหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ตนเพิ่งประชุมเสร็จ และเพิ่งออกมาก็ถูกสื่อสัมภาษณ์ ตนไม่ทราบเรื่องนี้เลย เมื่อถามอีกว่าได้ยินข่าวนี้แล้วตกใจหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ตกใจ เพราะในทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคนออกไปก็ต้องหาคนแทน เท่านั้นเอง  แต่โควตารัฐมนตรียังเป็นของพรรค รทสช.

ถามว่า การแบ่งงานของกระทรวงการคลังนายกฤษฎา ได้เคยมาปรึกษาในฐานะหัวหน้าพรรคบ้างหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่มี ซึ่งเราวางหลักเกณฑ์ไว้ว่า ถ้าไม่มีปัญหาหรือติดอะไรก็จะมีการประชุมกันสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่สัปดาห์นี้ยังไม่มีการประชุม เพราะเพิ่งจะมีการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ และภารกิจของแต่ละคนก็แน่น จึงยังไม่ได้เจอกัน

เศรษฐาการันตีข้าวทุ่งกุลาฯ

วันเดียวกัน นายเศรษฐาได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพการรับประทานอาหารกลางวันด้วยข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด ว่า "ตอนผมไปลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด พี่น้องตัวแทนจากสหกรณ์การเกษตรเมืองร้อยเอ็ด เอาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฝากมาให้ผมลองชิม วันนี้มื้อกลางวันที่ทำเนียบฯ ผมเลยให้เอาข้าวมาหุง ทุกคนบนตึกไทยคู่ฟ้าจะได้ชิมพร้อมกันด้วย ซึ่งต้องบอกว่า ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาคุณภาพดีไม่มีตกครับ กลิ่นหอม เม็ดเรียงสวย ที่สำคัญคือรสชาติดี สมเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัด ทานพร้อมไก่ย่างเขาสวนกวาง จาก จ.ขอนแก่น ลงตัวมากครับ ตอนนี้ผมได้ให้ส่วนเกี่ยวข้องทำเรื่องการพัฒนา Packaging และให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลานี้ทั้งในไทย และต่างประเทศ พร้อมหาตลาดใหม่ๆ ด้วย ข้าวดีขนาดนี้ รายได้ของพี่น้องเกษตรกรก็ต้องดีด้วยครับ"

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีมีเสียงวิจารณ์การรับประทานข้าวเก่าในโครงการรับจำนำข้าวที่ จ.สุรินทร์ ว่า อย่าไปสนใจรายละเอียดแบบนี้เลย เพราะข้าวแต่ละถุงมีความแตกต่างกัน มีฝุ่นมากฝุ่นน้อย จะซาวจะกี่ครั้งก็ซาวเถอะ ซาวให้สะอาด ซึ่งวันนั้นเราซาวกันแค่ 5 ครั้ง ส่วนใครจะซาว 10 หรือ 15 ครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับความในใจของตัวเอง นี่ไม่ใช่ประเด็น อย่าเบี่ยงประเด็นไปอย่างอื่น

"สิ่งที่ผมทำวันนี้ เพราะเป็นผู้ดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้าว ซึ่งมีเจ้าของโกดังทำเรื่องมาขอร้องว่าจะเอาอย่างไรก็เอาสักที ข้าวอยู่ตรงนี้มา 10 ปีแล้ว และโกดังถูกปิดตายด้วยกุญแจ จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดชีวิตหรือ  หรือจะมาตรวจและจัดการ จะเป็นข้าวเน่า ข้าวดี ก็ไปจัดการให้มันจบ ปิดเรื่องนี้ไปเลย จึงไปตรวจดูและชิมข้าวแล้ว และมาบอกได้ว่าข้าวไม่เน่า" นายภูมิธรรมกล่าว

รองนายกฯ กล่าวว่า คนที่วิจารณ์ต้องมาช่วยกันคิดว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร วันนี้ความจริงไม่ได้เกี่ยวข้องกับว่ากินได้หรือกินไม่ได้ แต่ปัญหาที่เคยพูดกันว่า ข้าว 1 ปีก็เน่า ตนมาพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าว 10 ปี ด้านกายภาพไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง ไม่ได้แฉะ ไม่ได้ติดหนืด ไม่เหมือนกับข้าว 5 ปีที่เอามาโชว์

"ในการทำจำนำข้าวเขามีกระบวนการเก็บรักษาเป็นมาตรฐาน วันที่ไปดูผมนำเซอร์เวเยอร์ ซึ่งเป็นผู้ตรวจข้าวในมาตรฐาน ขึ้นทะเบียนการค้าเรียบร้อย ไปตรวจข้าวจำนวนมากแล้ว ไปขายในต่างประเทศ เป็นที่ยอมรับ ฉะนั้นทุกกระบวนการที่จะมีปัญหาตนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว หากบอกว่ามีอะไร เดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ อย่าพูดไปเรื่อยๆ แล้วมันไม่มีทางออก" รองนายกฯ กล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ถ้าขายข้าวได้ ตนประมาณว่า 18 บาท คือ มาตรฐาน วันนี้ข้าวกำลังราคาดี จะ 15-20 บาท ขึ้นอยู่กับการประมูลได้ อย่างไรก็ดีกว่าตอนที่บอกว่า 1 ปีแล้วข้าวเน่า ซึ่งขายได้ 5 บาท ตนไม่ได้อยากแตะเรื่องนี้ เพราะไม่ได้คิดว่าจะมาเคลียร์เรื่องนี้

ถามว่า มีดรามาว่ารัฐบาลกำลังฟอกข้าวให้กับคดีรับจำนำข้าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า แล้วแต่จะคิดครับ วันนี้นั่งอยู่เฉยๆ ตรงนี้ก็คิดไปได้สารพัด คิดบวกก็ได้ คิดลบก็ได้ คิดหนึ่งก็ได้ คิดสิบก็ได้ ก็คิดไป คนเรา ท่านใดมีความพึงพอใจที่จะคิด ใช้จินตนาการก็คิดไป ตนมีหน้าที่แก้ปัญหาก็มาแก้

นายภูมิธรรมกล่าวถึงการกำกับดูแลกระทรวงกลาโหมว่า หลังจากนี้จะหาเวลาที่เหมาะสม และดูรายละเอียด พร้อมกับไปเยี่ยมเหล่าเหล่าทัพ ซึ่งวันนี้ได้มีการเริ่มพูดคุยกับบางคนแล้ว ว่าจะต้องดำเนินงานอย่างไร การดำเนินงานจะต้องเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

พิชิตปรับศูนย์ร้องทุกข์ 1111

ที่ตึก ก.พ.หลังเก่า นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้มอบนโยบายการทำงานหลังเข้ารับตำแหน่ง​ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ตอนหนึ่งระบุว่า การเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้ามากำกับ แต่เข้ามาเสมือนเป็นเพื่อน และสิ่งที่ตนพูดต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องตำหนิ​ ขอขีดเส้นใต้​ 100 ครั้งว่าไม่ใช่การตำหนิ​ ท่านทำดีอยู่แล้ว​  แต่เราจะมาทำให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลเป็น​ "ทำเนียบช่วยได้" ตนจะเป็นมือไม้ให้นายกฯ​ เพราะปัญหาของประชาชนมีมาก​ ดังนั้นเราจะทำให้ศูนย์นี้​ รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน อยากทำงานแข่งกันให้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่พึ่งพาได้ ส่วนภาคเอกชนที่มีการรับเรื่องราวมาตรวจสอบก็ให้เขาทำไป

"วันนี้สังคมเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ซึ่งวัตถุประสงค์ของผมนอกจากจะเป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์แล้ว ยังจะเป็นศูนย์รับข้อมูลการกระทำความผิดทางอาชญากรรมทุกประเภท​ที่พัฒนาขึ้น ทั้งเว็บพนันออนไลน์ และสื่อโซเชียลต่างๆ ที่หลอกลวง​" นายพิชิตกล่าว

ถามถึงการจัดทำโครงการทำเนียบช่วยได้ จะเป็นการลบภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีออกไปหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า มาจากใจมาจากความรู้สึก ไม่ได้มีเรื่องการเมืองใดๆ เพราะทำเนียบต้องช่วยได้ เพราะรัฐบาลได้ประกาศนโยบายหลายอย่าง เพราะฉะนั้นตรงนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งขององคาพยพที่จะช่วยกันทำงานให้กับรัฐบาล

"ผมในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือเป็นมือไม้ของนายกฯ ที่มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาสังคมทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่กำลังระบาด ที่นายกฯ ได้ลงไปกำชับและขันนอต รวมถึงเว็บพนันออนไลน์  ผมมองว่าพอมาอยู่ในจุดนี้ก็ทำอะไรได้อย่างจริงจัง เข้มข้น แข็งแรง เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ผมยินดีที่จะก็ทำ ยืนยันไม่มีเรื่องของการเมือง เพราะคำว่าทำเนียบช่วยได้เป็นเรื่องที่คิดมาจากหัวใจของผมเอง" นายพิชิตกล่าว

ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. ได้มีหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค  ถึงนายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. ระบุเหตุผลการลาออกมาจากมีภารกิจส่วนตัวหลายประการ โดยขอลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นไป

ส่วนที่สำนักงาน ป.ป.ช. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล นายอานนท์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนกองทัพธรรม และตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินการไต่สวนสอบสวนนายเศรษฐา กระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง และเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี กรณีเดินทางไปเยี่ยมนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 24 ก.พ.67  และการเสนอชื่อแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป