"ประธาน กกต." จับสลากปล่อยแถวผู้ตรวจการเลือกตั้ง 423 คน ลงพื้นที่สกัดทุจริตเลือก สว. ชี้กฎหมายทำให้ฮั้วยาก ยันรับฟังเสียงค้านระเบียบแนะนำตัว สั่งสำนักงานรวบรวมทุกความเห็น นำถกที่ประชุมสัปดาห์หน้า
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 13.30 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานในการจับสลากเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด จำนวน 423 คน จากบัญชีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ 602 คน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ใน 77 จังหวัด 928 อำเภอ โดยเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 28 และ 30 ที่กำหนดให้ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กกต.ต้องแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งจากบัญชีรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละจังหวัดไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 8 คน โดยวิธีการจับสลากแบ่งเป็น 2 คน จะต้องมีภูมิลำเนาในจังหวัดที่จะแต่งตั้ง และที่เหลือเป็นคนต่างภูมิลำเนา
โดยนายอิทธิพรกล่าวว่า การจับสลากเพื่อแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เพื่อรองรับพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. โดยในช่วงนี้จะมีการอบรมผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำภูมิภาคต่างๆ โดยสัปดาห์ที่แล้วได้ไปพูดคุยกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยได้ย้ำถึงหน้าที่ต่างๆ โดยขอให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อไปคุยกับเครือข่าย กกต.ในพื้นที่ ซึ่งได้แก่กรรมการศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยประจำตำบล รวมทั้งในหมู่บ้านไม่ขายเสียง ซึ่งมีกว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ เข้ามาช่วยสอดส่องดูแล นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกันกับ 4 ประสานต้านทุจริต ประกอบด้วย ผู้ตรวจการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน และ กกต. นอกจากนี้ยังมีองค์กรเอกชนเข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย
"ตอนนี้พร้อมทั้งงบประมาณ บุคลากร และเอกสาร โดยเอกสารล่าสุดที่ทำเสร็จแล้วก็คือระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ที่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งระเบียบดังกล่าวเขียนไว้ชัดเจนว่า ผู้ประสงค์จะลงสมัครสามารถแนะนำตัวตามวิธีการที่ระบุในระเบียบได้ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกจังหวัด และกระทรวงมหาดไทย เพื่อซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้" ประธาน กกต.ระบุ
นายอิทธิพรกล่าวถึงมาตรการป้องกันการฮั้วว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือก สว. ได้ออกแบบมากำหนดให้มีค่าสมัคร 2,500 บาท จะทำให้การฮั้วต้องใช้คนและเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะไม่ได้ทำได้ง่าย นอกจากนี้ การเลือกแบบไขว้จะเป็นการยากที่คาดคะเนได้ว่าใครอยู่กับพวกเรา อีกหนึ่งกลไกคือการประชาสัมพันธ์กับประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือก สว. โดยข้อมูลข่าวสารที่มาแจ้งกับ กกต. นำมาสู่การตัดสินลงโทษโดยศาล จะมีโอกาสได้รับเงินรางวัลสูงสุดจำนวน 1 ล้านบาท อีกทั้งมีผู้ตรวจการเลือกตั้งคอยสอดส่อง ด้วยกลไกเหล่านี้ก็หวังว่าจะช่วยป้องกันป้องปรามการกระทำความผิดได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ดีที่สุดคือการใช้ความสุจริตในการเลือก อย่าไปแทรกแซงผู้สมัคร
เมื่อถามว่า มีว่าที่ผู้สมัคร สว. บางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. เพราะประชาชนทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้ว่าใครจะมาเป็นผู้สมัคร นายอิทธิพรกล่าวว่า เมื่อระเบียบออกมาแล้วมีเสียงสะท้อนว่าควรจะปรับปรุงอะไร เราพร้อมที่จะรับฟัง โดยในการประชุม กกต.ในสัปดาห์นี้ ได้บอกให้สำนักงานไปรวบรวมความเห็นเหล่านั้นมา และมาประมวล เพื่อเสนอว่าประเด็นใดที่ควรจะปรับแก้ หรือประเด็นใดที่ควรจะยืนไว้ตามเดิม ส่วนประชาชนจะมีโอกาสได้รับรู้ว่าใครเป็นผู้สมัคร เรามีมาตรการรองรับแล้วว่าเมื่อมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครทั้งหมดทั่วประเทศใน 928 อำเภอ จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใส่ในเว็บไซต์ของ กกต. หรือในแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต ซึ่งประชาชนจะมีโอกาสเห็นว่าอำเภอไหนใครเป็นผู้สมัคร สมัครกลุ่มใด ซึ่งมีภาพ รายชื่อ ประวัติ ประสบการณ์ซึ่งเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่มีครบ
ส่วนที่มีว่าที่ผู้สมัคร สว.ไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษนั้น ประธาน กกต.กล่าวว่า มีการกำหนดโทษตามระดับการกระทำความผิด ซึ่งจะเทียบเคียงกับความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ซึ่งคนที่จะชี้โทษคือศาล เพราะฉะนั้นการกำหนดโทษดังกล่าวได้คำนึงถึงความเหมาะสมไว้อยู่แล้ว
นายอิทธิพรกล่าวถึงกรณีว่าที่ผู้สมัครได้มีการร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้เพิกถอนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือก สว. ว่า กกต.ต้องเดินหน้าไปก่อน แต่ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยเป็นในทิศทางใด ต้องดูว่าจะกระทบมากน้อยเพียงใด ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ ทั้งนี้ เป็นสิทธิของประชาชนที่จะออกมาขอให้ศาลพิจารณาความเหมาะสมความถูกต้อง ซึ่งเข้าใจดี แต่เรามีเหตุผลว่าทำไมถึงออกมาแบบนั้น อย่างไรก็ตาม เรารับฟังอยู่และกำลังที่จะนำเรื่องที่ประชาชนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความเห็นมาพิจารณาอีกรอบหนึ่งในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งทำงานอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ว่าออกไปแล้วแก้ไม่ได้ คงไม่ใช่
ที่โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ นายชาย นครชัย กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการสัมมนาการเตรียมความพร้อมผู้ตรวจการเลือกตั้งสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในการเลือก สว. โดยมีผู้ตรวจการเลือกตั้งจากทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือหากมีการสมัครรับเลือกให้เป็น สว.ในครั้งนี้จำนวนมาก การตรวจสอบคุณสมบัติให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันตามที่ระเบียบกำหนดนั้น อาจจะต้องเร่งรัดให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"
อิ๊งค์สนอง‘พ่อแม้ว’ ลุยปราบแก๊งโกงล้างบางมาเฟีย/โต้สนธิปั่นMOU44ลงถนน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ภาพแฟ้มกองโตเต็มโต๊ะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ชงปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป มติกพช.ชะลอซื้อพลังงาน
นายกฯ มอบ "พีระพันธุ์" นั่งหัวโต๊ะถก คกก.นโยบายพลังงาน
เปิดศูนย์ปีใหม่ 10วันอันตราย ดื่ม-ง่วงไม่ขับ
นายกฯ เรียก ผบ.ตร.หารือ ห่วงปีใหม่ ปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนาปลอดภัย
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ