‘ดร.เอ้’โวยลั่น โกดังสารเคมี ‘ขุมนรก’ชัดๆ!

ระยอง ๐ "ดร.เอ้" เดือด! ลงพื้นที่ไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีระยอง โวยลั่นนรกชัดๆ    กากแคดเมียมยังสู้ไม่ได้ ถามนายกฯ  ปล่อยให้เกิดได้อย่างไร หวั่นเหตุการณ์อุบาทว์ซ้ำ ขณะที่ประธาน กมธ.อุตสาหกรรมจากรวมไทยสร้างชาติจี้ รัฐบาลยกเป็นปัญหาระดับชาติ

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวบ้าน หลังไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา มีนายธารา ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตามภารกิจ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง ซึ่งรวมผ่านมาแล้ว 13 วันแล้ว พบชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงห่วงคุณภาพสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ อากาศ หลังชาวบ้านยืนยันต้องการให้ย้ายสารเคมีทั้งหมดออกนอกพื้นที่โดยด่วน

ซึ่งข้อเสนอของชาวบ้านหลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานวิน โพรเสส ที่ จ.ระยอง ซึ่งมีสารเคมีอันตรายร้ายแรงเก็บอยู่จำนวนมาก ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นและน้ำที่ใช้ดับเพลิงไฟนี้ได้ทำให้สารเคมีอันตรายไหลปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำ ส่วนด้านสภาพอากาศ พบว่าเกินค่ามาตรฐานอยู่มาก และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชนอย่างรุนแรง

ชาวบ้านมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ต้องการให้ “เร่งขนย้าย” สารเคมีตกค้างออกไปโดยเร็ว 2.ขอให้ “ตรวจและรักษา” อาการที่ชาวบ้านได้รับสารพิษอันตรายนี้อย่างต่อเนื่อง 3.จ่ายค่า “เยียวยา ชดเชย” ให้ชาวบ้าน 4.“ฟื้นฟู” ระบบนิเวศในชุมชนให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ 5.วอนนายกฯ “ตั้งคณะกรรมการ” เพื่อดำเนินการตามข้อเรียกร้องทุกข้อ

โดย ดร.สุชัชวีร์ยืนยันรับข้อเรียกร้องของชุมชน พร้อมเสนอเพิ่มเติมด้วยว่า    นายกฯ ต้องสั่งการให้มีนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาดูแลปัญหานี้  เพราะจากการตรวจสอบ สารเคมีที่ถูกไฟไหม้เป็นสารอันตรายมาก การบำบัดหรือป้องกันการแพร่กระจายต้องใช้องค์ความรู้เฉพาะด้านระดับสูงจริงๆ ไม่เช่นนั้นคุมไม่อยู่แน่นอน การแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น อย่างการไถดินฝังกลบสารเคมีจะยิ่งสร้างปัญหาให้ชุมชนต่อไปอย่างยาวนาน และจุดแสดงการตรวจคุณภาพอากาศที่ชาวบ้านเรียกร้องนั้น  ต้องแสดงผลค่าให้ตรงตามเกณฑ์ และเป็นกลาง โดยกระจายให้ทั่ว เพื่อให้ชาวบ้านได้รับทราบ จุดปลอดภัยหรือจุดเสี่ยง เพราะแรงลมได้พัดกลิ่นสารเคมีกระจายไปทั่วทุกทิศทาง

"ผมเป็นคนระยอง และมีเพื่อนที่อยู่ระยอง โทรศัพท์ไปหาบอกว่าสงสารคนระยองที่ต้องมาประสบปัญหาผลกระทบจากโรงงานดังกล่าว พอจะช่วยอะไรได้บ้าง ผมในฐานะคนระยองรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุอย่างนี้ขึ้น จึงลงพื้นที่มาดูสภาพปัญหาเพื่อที่จะได้สะท้อนไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้เร่งแก้ไข ซึ่งหลังจากลงพื้นที่ดูสภาพที่เกิดเหตุแล้ว ต้องบอกว่านรกชัดๆ ไม่มีที่ไหนแย่กว่าที่นี่แล้ว แม้แต่ปัญหากากแคดเมียมยังสู้ปัญหาที่นี่ไม่ได้"

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า วันนี้ต้องตั้งคำถามไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแล้วว่า ปล่อยให้โรงงานแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรในประเทศไทย และหลังโรงงานไฟไหม้ไปแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะเรื่องตรวจสุขภาพประชาชน รัฐบาลต้องให้ความสำคัญก่อนอันดับแรก และต้องรีบดำเนินการขนย้ายกากสารเคมีอุตสาหกรรมออกไปให้เร็วที่สุด จากนั้นเร่งวางมาตรการในการบำบัดฟื้นฟูบริเวณนี้ให้เร็วที่สุดด้วย และที่สำคัญควรจะหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี มิฉะนั้นเหตุการณ์อุบาทว์แบบนี้จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศไทยไม่จบสิ้น หากไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษได้ ซึ่งรัฐบาลควรเร่งดำเนินการด่วนที่สุด

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์  สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและฝ่ายความมั่นคงมาช่วยแก้ปัญหาไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมี  รวมถึงการที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทั่วประเทศ เข้ามาช่วยสำรวจร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และคิดว่าการมอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องบูรณาการหลายกระทรวงเข้ามาดำเนินการ

“การที่ต้องเอาฝ่ายความมั่นคงมาช่วยและเอากระทรวงอื่นๆ มาร่วมแก้ปัญหา ถือว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว ที่จะต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน ดังนั้นที่ท่านนายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงเข้ามาช่วย และ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้ามาช่วยกระทรวงอุตสาหกรรม ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง  และตอนนี้รัฐมนตรีอุตสาหกรรมก็ลงมาดูแลปัญหาด้วยตัวเอง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหกรรมต้องบูรณาการ หลายกระทรวงเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้  จึงต้องได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอื่นด้วย” ประธาน กมธ.การอุตสาหกรรมกล่าว

นายอัครเดชระบุว่า ต้องการให้นายกรัฐมนตรียกเป็นปัญหาระดับชาติ  เพราะที่ต้องเป็นปัญหาระดับชาติเนื่องจากเป็นปัญหาที่หมักหมมมาหลายปี   ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ระยอง และจากที่ทราบก็ยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีการกองเก็บกากดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ปราจีนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม เป็นต้น ซึ่งถ้ามีการเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของรัฐ ดังนั้นตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานแข่งกับเวลา  เพราะตอนนี้ประชาชนให้ความสนใจเรื่องนี้มาก

เขาย้ำว่า เรื่องการป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาครัฐ ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพากรธรรมชาติฯ ลงมาช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมดูแล ก็จะทำให้การควบคุมตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ การเกิดเหตุที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น จะต้องหาผู้กระทำความผิดให้ได้ ต้องสอบสวนให้ได้อย่างรวดเร็ว และต้องตอบสังคมให้ได้ว่ามันเป็นที่การวางเพลิง หรือเป็นที่อุบัติเหตุ และถ้ามันเป็นการวางเพลิงต้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้

ทั้งนี้ เมื่อเย็นวันที่ 3 พ.ค. นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโกดังเก็บกากสารเคมีอตสาหกรรม กลางชุมชนวัดโขดหิน เทศบาลเมืองมาบตาพุด อำเภอเมืองฯ  จังหวัดระยอง หลังสืบทราบว่ามีการเก็บซุกซ่อนกากสารเคมีอุตสาหกรรมเอาไว้ และเป็นเจ้าของคนเดียวกับโกดังที่ถูกเพลิงไหม้ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

ภายในโกดังพบถุงบิ๊กแบ็กบรรจุเศษขยะหลายร้อยถุง ถังขนาด 200 ลิตร เก็บกากสารเคมีวางทับซ้อนกันจำนวนหลายร้อยถัง เบื้องต้นได้สั่งการให้ ตำรวจในพื้นที่เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบวางเพลิง และสั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดระยองเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของโรงงานแห่งนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง