ทัวร์ลง‘อุ๊งอิ๊ง’ เลือดพ่อมาเต็มดีเอ็นเอทักษิณมาครบคิดรบกับแบงก์ชาติ

กรุงเทพฯ ๐ ทัวร์ลง "อุ๊งอิ๊ง"! โซเชียลแชร์คลิปผู้ว่าฯ แบงก์ชาติว่อน หลัง  "แพทองธาร" แสดงวิสัยทัศน์มั่วนิ่ม   ธปท.เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ "นิพิฏฐ์" อัดสายเลือดพ่อเต็มเปี่ยม และกำลังเดินตามรอยเท้าพ่อ เด็ก ปชป.ซ้ำ ดีเอ็นเอทักษิณ คิดรบกับแบงก์ชาติ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยออกตัวแทน แค่ต้องการให้แบงก์ชาติรับฟังเสียงของรัฐบาล

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2567 มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกโซเซียล ถึงเนื้อหาคำพูดบางส่วนบางตอนในคลิปของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.) ที่ได้กล่าวเปิดใจระหว่างพิธีรับมอบทองคำแท่งเข้าคลังแผ่นดิน เมื่อ 30  เมษายน ที่ผ่านมา ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย 3 กรุงเทพฯ 

คือคำพูดตอนหนึ่งที่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ กล่าวว่า มารับตำแหน่งในช่วง 3 ปีครึ่ง  ตนเองและเพื่อนร่วมงานในแบงก์ชาติทำงานหนักหน่วงมาพอสมควร และสิ่งหนึ่งที่ช่วยเราได้มากที่สุด คือกำลังใจที่มหาศาล ไม่เคยคิดว่ามีบุญขนาดนี้ ที่ได้รับกำลังใจจากทุกคน และจะไม่ลืมมัน

"ผมคิดว่าไม่ได้ช่วยแค่ผมเท่านั้น แต่ยังช่วยไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย  ซึ่งเป็นการเตือนสติเราด้วยในการทำหน้าที่ ว่าหน้าที่ของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์และสำคัญ จริงๆ แล้วถ้าว่าไปแล้วรัฐบาลมาแล้วไป ผู้ว่าฯ ก็มาแล้วก็ไป แต่สถาบัน องค์กรธนาคารแห่งประเทศไทยต้องอยู่  และต้องอยู่อย่างเข้มแข็ง"

การแชร์คลิปดังกล่าวนี้อย่างกว้างขวาง สืบเนื่องจากการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้านโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ที่จัดกิจกรรม "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดย น.ส.แพทองธารได้กล่าวว่า  "กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล เรื่องนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายการคลังถูกใช้งานข้างเดียวอย่างหนัก จนทำให้หนี้สูงขึ้นทุกปี จากการตั้งงบประมาณขาดดุล ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจและร่วมมือ ประเทศจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้เลย

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความว่า "สายเลือดพ่อ" คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ” ถือเป็นคำกล่าวที่รุนแรงต่อสถาบันการเงินหลักของประเทศ ทุกประเทศในโลกเขาให้ธนาคารชาติของเขาเป็นอิสระปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองทั้งสิ้น

มีครั้งหนึ่ง หลวงตามหาบัวได้ตำหนิคุณทักษิณ และหลวงตาได้ระดมทองคำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธนาคาร ตามโครงการ “ทองคำช่วยชาติ”

รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ จึงโทษ ธปท. ถึงกับประกาศว่า ธปท.เป็นอุปสรรคของประเทศ

หลายคนโทรมาคุยกับผมในเรื่องนี้

ผมได้แต่ฟัง และบอกว่า “เป็นเช่นนี้”

เมื่อเราได้รัฐบาลเช่นนี้ ทุกอย่างก็จะ “เป็นเช่นนี้แหละ”

อย่าแปลกใจเลย อุ๊งอิ๊งก็มีสายเลือดพ่อเต็มเปี่ยม และกำลังเดินตามรอยเท้าพ่อ จากนี้ ประเทศก็จะเป็นดังอดีตที่พ่อเคยทำ เริ่มจากต้องนำยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาแบบไร้รอยขีดข่วน

ใครติดปีกให้คุณทักษิณ หากบ้านเมืองเสียหาย ก็ต้องยอมรับชะตากรรม

ผมไม่กลัว และไม่แคร์ตระกูลชินวัตร คุณจะมั่งมีศรีสุข มีอำนาจล้นฟ้า ก็มีไป ผมขอเพียงพื้นที่เล็กๆ ให้ผมได้เหยียบเดินแบบ “เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน”

ขอให้กำลังใจผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ท่านอยู่ต่อไป หากท่านถอดใจลาออก ประชาชนส่วนหนึ่งน่าจะเสียขวัญและกำลังใจ

วีรบุรุษ มี 2 ประเภท คือ วีรบุรุษที่ยังมีชีวิตอยู่ กับวีรบุรุษที่ตายไปแล้ว

ประชาชนต้องการให้ท่านผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็น “วีรบุรุษที่ยังมีชีวิต มากกว่าวีรบุรุษที่ตายไปแล้ว”ครับ

คิดรบกับแบงก์ชาติ

ด้านนายเชาว์ มีขวด ทนายความ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) โพสต์ข้อความหัวเรื่อง "เมื่อดีเอ็นเอทักษิณกำเริบ คิดรบกับแบงก์ ชาติ" มีเนื้อหาระบุว่า เห็นข่าวอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดีเอ็นเอทักษิณ ออกมาบริภาษแบงก์ชาติว่าไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจ พาดพิงไปถึงกฎหมายว่าให้อิสระกับแบงก์ชาติจากรัฐบาลมากเกินไป กลายเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ช่วยใช้นโยบายการเงินมาคู่ขนานกับนโยบายการคลังผลักภาระว่าหนี้ของประเทศที่สูงขึ้นเกิดจากปัจจัยเหล่านี้

ทั้งที่ความจริงไม่ใช่ หนี้สะสมของประเทศ ส่วนใหญ่เกิดจากนโยบายลดแลกแจกแถมที่สร้างหนี้เพิ่มพูนให้กับประเทศเรื่อยๆ โดยปราศจากการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพราะการเล็งหวังผลของนักการเมืองที่ปราศจากความรับผิดชอบ เข้ามาแล้วก็จากไป แต่แบงก์ชาติเขาเป็นธนาคารกลางที่มีหน้าที่หลักคือ ต้องรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเงิน เสถียรภาพด้านราคา (เงินเฟ้อ) และ ดูแลไม่ให้เศรษฐกิจผันผวน หรือร้อนแรงเกินไป จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเกือบทุกประเทศในโลกนี้ล้วนให้อิสระกับแบงก์ชาติของประเทศตัวเองทั้งสิ้น เพราะถ้าปล่อยให้ละเลงกันตามอำเภอใจ กระตุ้นเศรษฐกิจตามใจอยาก แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นพายุหมุนอย่างที่คุย กลับเป็นผลร้ายกลายเป็นสึนามิทางเศรษฐกิจ ก็จะกลายเป็นภาระให้ประชาชนทั้งชาติที่ต้องแบกหนี้กันหลังอาน ส่วนเศรษฐกิจที่คิดว่าจะเดินหน้า อาจถดถอยลงแบบกู่ไม่กลับ

ประเทศไทยเคยมีบทเรียนจากการที่ผู้บริหารแบงก์ชาติถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง จนระบบการเงินไทยล่มสลาย แบงก์ชาติกลายเป็นจำเลยของสังคม ในยุควิกฤตต้มยำกุ้ง ที่มีรองนายกฯ ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร นำประเทศชาติไปเป็นทาสทางเศรษฐกิจของไอเอ็มเอฟ จนรัฐบาลชวน 2 ต้องเข้าไปกอบกู้ ทำให้ประเทศไทยยุติการกู้เงินได้ก่อนกำหนด ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง กลายเป็นต้นทุนที่ทำให้พรรคเพื่อไทยมาชุบมือเปิบในภายหลัง

ดีเอ็นเอทักษิณอย่าง น.ส.แพทองธาร ที่เข้ามาทำงานการเมืองด้วยรากฐานของพ่อ แต่ยังไม่มีน้ำยาต่อยอดอะไรได้สำเร็จ แถมในทางเศรษฐกิจที่พยายามทำตัวเป็นกูรู จนกลายเป็นการอวดรู้ หรือไม่ก็อาจจะแค่อ่านตามที่มีคนเขียนบทให้ ผมแนะนำว่า แทนที่จะอ่านสุนทรพจน์จากพวกเชลียร์ทั้งหลาย ให้ไปศึกษาหาข้อมูลดูตัวอย่างประเทศตุรกี  ที่รัฐบาลแทรกแซงนโยบายการเงินต่อเนื่อง ใช้แบบไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ลดดอกเบี้ยในวันที่เงินเฟ้อพุ่ง  สุดท้ายอัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยานขึ้นไปกว่า 60% กระทบค่าเงินอ่อนลงต่อเนื่อง จบลงที่การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 40% ขณะที่ของไทยมีตัวเลขล่าสุดออกมาว่าอัตราเงินเฟ้อพลิกกลับมาเป็นบวก 0.19% ในรอบ 7 เดือน การจะกำหนดนโยบายทางการเงินใดก็ตาม ไม่เพียงต้องดูปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ยังต้องดูความเสี่ยงในอนาคตด้วย ไม่เช่นนั้นปัญหาที่จะตามมาหนักหนามากกว่าหนี้สาธารณะ คือจะไม่มีใครกล้ามาลงทุนในประเทศนี้ เลิกดื้อดึงรับฟังความเห็นแบงก์ชาติบ้าง ส่วนเด็กที่กลิ่นน้ำนมยังไม่จางก็ควรหยุดแสดงความเห็นที่ทำให้ตัวเองยิ่งดูด้อยค่าได้แล้ว

'อุ๊งอิ๊ง' ไม่เข้าใจบทบาทตัวเอง

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่กฎหมายพยายามให้ความเป็นอิสระของ ธปท.นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และรัฐบาลควรภูมิใจที่มีกฎหมายลักษณะนี้  เพราะเป็นเกราะคุ้มครองรัฐบาลไม่ให้มีข้อครหาในการดำเนินงาน

ส่วนการที่ น.ส.แพทองธารคิดแบบนั้น เป็นการคิดแบบไม่เข้าใจบทบาทของตนเองในฐานะพรรคแกนนำของรัฐบาล เนื่องจากโดยหลักการแล้วการทำหน้าที่ของธนาคารกลางทั่วโลกที่ได้รับมอบหมายคือ การควบคุมเสถียรภาพของเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อ ซึ่งต้องรักษาความเป็นองค์กรอิสระให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงและกดดัน

อีกทั้งบทเรียนในอดีตที่ผ่านมา ธปท. เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความเป็นอิสระ และได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง จากความพยายามในการใช้หนี้ IMF ก่อนกำหนด แต่พอผู้ว่าการ ธปท.ในสมัยนั้นไม่เห็นด้วย ก็กดดันให้ออกจากตำแหน่งแล้วแต่งตั้งคนใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของนายทักษิณได้มาดำรงตำแหน่งแทน สิ่งนี้จึงไม่ควรเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ขณะที่ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์  สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แก้ตัวแทน น.ส.แพทองธารว่า รัฐบาลไม่ได้แทรกแซงความเป็นอิสระของ ธปท.แต่อย่างใด การที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร แสดงออกในความคิดคือ ต้องการให้ ธปท.รับฟังเสียงของรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการคลัง และเพื่อให้การดำเนินนโยบายการเงินการคลังสอดคล้องและเป็นไปในทางเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลซึ่งนำโดยนายกฯ เศรษฐา กำหนดเป้าหมายในการฟื้นฟูและผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตไปด้วยกันเพื่อการพัฒนาประเทศ

นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำ นปช. ตอบโต้นายนิพิฏฐ์ว่า  นายนิพิฏฐ์เข้าใจถูกต้อง เพราะ น.ส.แพทองธารได้เลือดพ่อมาเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความสามารถ ทั้งด้านการบริหารงานตั้งแต่เป็นผู้บริหารบริษัท จนเข้ามาสู่เส้นทางการเมือง มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาถือธงนำพรรคในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล และที่รักของพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าในอนาคตจะเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรอยพ่ออย่างแน่นอน

ส่วนกรณีกล่าวพาดพิงอดีตนายกทักษิณนั้น ตนอยากให้นายนิพิฏฐ์ย้อนกลับไปดูว่า อดีตนายกฯ ทักษิณได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมาอย่างมากมาย แม้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ท่านก็ยังคงเป็นนายกฯ ในดวงใจของประชาชน และยังเป็นที่เคารพรักของนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ จึงไม่แปลกใจ ที่ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ไหน ก็มีคนมาต้อนรับมากมาย ซึ่งนายนิพิฏฐ์ คงไม่เข้าใจ ถึงจะเคยเป็นอดีต สส.และอดีตรัฐมนตรี แต่ก็ไม่แน่ใจว่า จะมีประชาชนรักเหมือนอดีตนายกฯ ทักษิณหรือไม่ จะย้ายพรรคไปสักกี่พรรค ขนาดคนพัทลุงยังไม่เลือกเลย หากจะเปรียบเทียบกับอดีตนายกฯ น่าจะเรียกว่า คนละชั้น   

อย่างไรก็ตาม ที่นายนิพิฏฐ์บอกว่า ขอพื้นที่เล็กๆ ให้เหยียบเดิน ตนว่าคงเหมาะสมกับนายนิพิฏฐ์ที่จะอยู่เพียงพื้นที่เล็กๆ เพราะถ้าออกมาเจอโลกแห่งความจริง จะได้เห็นว่า ประเทศไทยได้ก้าวข้ามความขัดแย้งมามากแล้ว และเดินหน้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง สู่ความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน ภายใต้การบริหารงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดย น.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค และมีที่ปรึกษาที่ดีอย่างอดีตนายกฯ ทักษิณ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่