‘เพื่อไทย’เปิดตัวชิงเก้าอี้‘อบจ.’

เพื่อไทยจัดงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" “สรวงศ์”  ประกาศความพร้อมสู้ศึกนายก อบจ.  อ้างเป็นรัฐบาลให้ความสำคัญกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ฮือฮาส่งน้องชาย “ธรรมนัส” ชิงนายก อบจ.พะเยาด้วย

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ภายในงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10"  ของพรรคเพื่อไทย (พท.) งานแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้าในนโยบายต่างๆ  พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย  ประกาศความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปี 2568 โดยพร้อมที่จะส่งผู้สมัครและนโยบายให้ประชาชนได้เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในต้นปีที่จะถึงนี้

เขากล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากนโยบายต่างๆ เราเน้นในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น กระจายบุคลากร กระจายทรัพยากร และที่สำคัญที่สุดเราให้โอกาสในการตัดสินใจกับท้องถิ่นนั้นๆ  เพื่อเป็นหลักและรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริง จึงเป็นที่มาของคำว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่นเป็นอย่างมาก

เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า  กว่า 20 ปี บนเส้นทางการเมืองของตน  มีความเชื่อว่านักการเมืองที่ดีจะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ติดพื้นที่ เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะรู้ปัญหา รู้วิธีแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดให้กับพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที รวดเร็ว ฉับไว ตรงจุด ซึ่งหลายคนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนมา ซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคที่หลายคนเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอยู่แล้ว หลายคนเป็นนักการเมืองที่ทำงานร่วมกับประชาชนมายาวนาน เราเติมนโยบายต่างๆ ให้พวกเขาเหล่านั้นกลับไปสู่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ทุกคนที่เป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้ถูกกลั่นกรองมาโดยทีมงานของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี พร้อมยกตัวอย่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ มีผลงานและสานต่องานได้ทันที โดยก่อนหน้านี้คนลำพูนมีปัญหาสุขภาพจิต จึงตั้งใจว่าจะพัฒนาการเสริมสร้างสมรรถภาพทางสาธารณสุขให้ดีขึ้น

 “เราพร้อมที่จะพัฒนาบุคลากรของเราให้ดียิ่งขึ้น บุคลากรที่สามารถเข้าใจพื้นที่ เข้าถึงพี่น้องประชาชน และสำคัญที่สุดแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดครั้งนี้สำคัญมาก สำคัญที่ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทำงานควบคู่กับนโยบายหลักส่วนกลาง ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าการพัฒนาในจังหวัดนั้นๆ จะราบรื่นและสามารถทำงานได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เพราะเรามีอุดมการณ์อุดมการณ์ที่สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ให้เป็นรูปธรรม การยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนไม่ดีขึ้น การทำงานของพวกเรา เป็นระบบภายในแนวทางเดียวกันต้องราบรื่น แน่นอน เรื่องคนของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สานงานเดิม เริ่มงานใหม่ได้ทันที” นายสรวงศ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นพรรคเพื่อไทยได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย อาทิ นายอัครา พรหมเผ่า นายก อบจ.พะเยา ในฐานะผู้สมัครนายก อบจ.พะเยา ซึ่งเป็นน้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายก อบจ.ลำพูน ในฐานะผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน, นางตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายก  อบจ.ลำปาง ในฐานะผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง, นายอนุวัฒน์ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ฐานะผู้สมัครนายก อบจ.แพร่, นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ.นครพนม, นายพลพัฒน์ จรัสเสถียร ผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม, นายวิเชียร สมวงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ยโสธร, นายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต สส.อุดรธานี-ผู้สมัคร นายก อบจ.อุดรธานี, นายมนูญ พุ่มประเสริฐ ผู้สมัครนายก อบจ.สุโขทัย เป็นต้น

นายสรวงศ์กล่าวถึงกรณีที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายคน ทยอยยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนายก อบจ.ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยจะมีใครลาออกหรือไม่นั้น ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นยุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัด และยุทธศาตร์ของแต่ละคน ต้องบอกว่าการสมัครนายก อบจ. ในแต่ละจังหวัด เพราะหากไม่ได้ลาออก จะต้องเลือกตั้งพร้อมสมาชิกสภาจังหวัด หรือ สจ. หากจังหวัดไหนมีทีมนายก อบจ. และ สจ. อยู่ทีมเดียวกัน ส่วนมากก็จะใช้วิธีการเลือกตั้งพร้อมกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ของแต่ละคน แต่ถ้าหากนายก อบจ.บางคน อาจจะไม่ได้มี สจ. อยู่ในมือ หรืออยู่ทีมเดียวกัน หรือมีไม่มาก ก็อาจจะมีความคิดที่อยากจะให้มีการเลือกตั้งแยกออกมาเพื่อหาเสียงต่างหาก

 การเมืองท้องถิ่น เลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ขณะนี้ถูกจับตามองจากคอการเมืองและชาวปทุมธานีเป็นอย่างมาก ล่าสุด นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี หลายสมัยขยับพร้อมลงสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี หลังบิ๊กแจ๊ส พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ลาออกจากตำแหน่ง

นายชาญกล่าวในการเลือกตั้งนายก  อบจ.ที่จะมาถึงภายในไม่เกิน 60 วันนี้ว่า มีความพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ถึงแม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนยังมุ่งมั่นลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน สนับสนุนงานบุญประเพณีท้องถิ่น และกิจกรรมการกุศล ช่วยเหลือสังคมสม่ำเสมอ ขอโอกาสในการเลือกตั้งครั้งนี้ของคนปทุมธานีให้ตนคัมแบ็กกลับมาเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวปทุมธานีเหมือนที่ผ่านมาในอดีต.