“อนุทิน” ออกประกาศสั่งลูกพรรคให้ปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามจุ้นเรื่องเลือกตั้ง สว. บรรดาว่าที่ผู้สมัครแห่ร้องศาลปกครอง หวังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ กกต. “ธนาธร” ไม่ยี่หระ ลั่นจะเดินหน้ารณรงค์ต่อ อ้างไม่ได้ต้องการ สว.สีส้ม แต่ต้องการ สว.และองค์กรอิสระที่เป็นกลาง
เมื่อวันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 ยังคงมีเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 11 พ.ค.2567 โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้ออกหนังสือประกาศพรรค ภท. เรื่องห้ามกระทำการโดยวิธีการใดๆ ในการเลือก สว. ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 76 กำหนดข้อห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรค หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรค สส. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการโดยวิธีการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือให้ผู้สมัครผู้ใดได้รับเลือกเป็น สว. หรือทำให้ผู้สมัครผู้ใดไม่ได้รับเลือก ประกอบกับ มาตรา 77, 78, 79 และมาตรา 80 ของกฎหมายฉบับเดียวกันยังกำหนดข้อห้ามอื่นๆ ไว้อีกด้วย ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว พรรคจึงประกาศให้ กก.บห.หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรค สส. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และสมาชิกพรรคทุกท่านถือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าได้กระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อพรรค ภท.ได้
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงถึงการปฏิบัติตัวในการทำหน้าที่เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือก สว. ตอนหนึ่งว่า ในส่วนของประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครทั้งหมด ได้ที่แอปพลิเคชัน smart vote และ เว็บไซต์สำนักงาน กกต. รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวจากสื่อต่างๆ ส่วนในวันเลือก สว. สามารถไปสังเกตการณ์การเลือกได้ทุกที่ ทั้งในชั้นอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ โดยจะจัดให้มีโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอดบรรยากาศภายในที่เลือกตั้ง ให้ดูตลอดการลงคะแนนจนปิดเวลาลงคะแนน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสังเกตการณ์ ตรวจตรา ตรวจสอบ แล้วแจ้ง กกต. ว่ามีผู้สมัคร พรรคการเมืองใด หรือผู้ใด แนะนำไม่เป็นไปตามระเบียบหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ในส่วนของสื่อมวลชน สามารถเสนอข่าวได้ตามปกติตามหลักวิชาชีพ แต่อย่าไปพูดแนะนำตัวว่าผู้สมัคร สว.มีประวัติหรือประสบการณ์อย่างไร
ส่วนผู้สมัคร สว.นั้น ต้องแนะนำตัวตามที่กฎหมายและระเบียบที่ กกต. กำหนด ทำมากไปกว่านั้นอาจถูกศาลพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือถ้าเป็นโทษเกี่ยวกับการทุจริต เช่น รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิแต่มาสมัคร ซื้อเสียง หลอกลวง รับการช่วยเหลือจากคนของพรรคการเมือง จะมีโทษอาญาด้วย คือทั้งโทษจำคุกและปรับ สำหรับนักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองต้องไม่ไปช่วยเหลือผู้สมัคร สว.นั้น หมายถึงการห้ามพรรคการเมืองไปโดยปริยาย
ขณะเดียวกัน ที่ศาลปกครองกลาง นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต สว. ในฐานะผู้ประสงค์จะลงสมัครสมาชิก สว. พร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 โดยระบุว่า ระเบียบ กกต.ที่ออกมา โดยเฉพาะข้อที่ 7, 8 และข้อ 11 ที่ห้ามในเรื่องการแนะนำตัวผ่านสื่อทุกชนิด รวมไปถึงโซเชียลมีเดียด้วย คิดว่า กกต.ไม่มีอำนาจมากำหนดและจำกัดสิทธิในการแนะนำตัวผู้สมัคร เพราะวันนี้เรายังไม่เป็นผู้สมัคร แต่เป็นผู้ที่ประสงค์จะเข้ามาสมัคร ดังนั้นจึงควรมีสิทธิเสรีภาพในการแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จักให้ประชาชนทั่วไป เพราะ สว.ตามรัฐธรรมนูญต้องเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยที่มีส่วนได้เสียโดยตรง อีกทั้งวันนี้ยังได้ร้องให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวด้วย รวมถึงขอให้ไต่สวนฉุกเฉินต่อระเบียบดังกล่าว ถึงเร็วที่สุดอาจจะเป็นภายในวันนี้ มองว่ายิ่งศาลไต่สวนเร็วเท่าไหร่ได้ก็ยิ่งดี
“เราไม่ได้พิจารณาในประเด็นสีส้มหรือสีอะไร เราก็แค่อยากยึดตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยระบบตามระบอบประชาธิปไตย ควรเป็นระบบเปิด เพราะเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน การจะมี สว. 200 คน ปรากฏว่าประชาชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งมันไม่น่าจะถูกต้องกับหลักของประชาธิปไตย” นายพนัสกล่าว และว่า การจะแนะนำตัวได้ต้องมีการออกสื่อ ดังนั้นหากจะผิดก็ควรจะผิดไปถึงสื่อมวลชนได้
น.ส.ชลณัฏฐ์ โกยกุล ผู้ประสงค์รับเลือกเป็น สว. กล่าวเช่นกันว่า ระเบียบและกฎหมายขัดแย้งกัน โดยผู้สมัครไม่สามารถหาเสียงกับประชาชนทั่วไป จึงเกิดคำถามว่า ในการดำเนินการจะมีการแยกอย่างไรว่าใครเป็นผู้สมัครบ้าง โดยเฉพาะเว็บไซต์ senate67 ถูก กกต.สั่งปิด ซึ่ง กกต.ข่มขู่ให้เอาลง ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่ากลุ่มที่แสดงเจตจำนงในการสมัครนี้ไม่ได้มีสี ไม่ว่าจะส้มหรือสีใดตามที่มีข้อสังเกต แต่หากหลักการ อุดมการณ์ในการทำหน้าที่ไปตรงกับกลุ่มพรรคการเมืองใด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“ยังห่วงการทำหน้าที่สื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวด้วยระเบียบที่ซับซ้อนและมีข้อจำกัด โดยเฉพาะมีผู้เตรียมสมัคร สว.ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวหรือเป็นผู้ก่อตั้ง สำนักข่าว ที่มีข้อห้ามว่าไม่ให้ผู้สมัครให้สัมภาษณ์ออกสื่อ จะทำให้สุ่มเสี่ยงที่จะฝ่าฝืนระเบียบ ถูกตัดสิทธิ์การสมัคร แต่กฎหมายไม่ได้ระบุฐานความผิดไว้ว่าขัดต่อมาตราใด”
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่า ไอลอว์ตั้งใจทำ senate67 ช่วย กกต.ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกติกาการเลือก สว. และข้อมูลผู้สมัคร สว.ว่ามีใครบ้าง เพื่อให้ผู้สมัครมีพื้นที่ในการออกสื่อสาธารณะได้อย่างเท่าเทียม และเชื่อว่าหลังจากนี้อีก 1-2 วัน ระบบจะกลับมา หากศาลคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งข้อมูลผู้สมัครทั้งกว่า 1,300 คนนั้นยังเก็บอยู่ในชั้นความลับ ไม่มีการจัดตั้งหรือเข้าถึงข้อมูลได้”
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณี กกต.เตือนว่าไม่ควรเชิญชวนคนมาลงสมัคร สว.ว่า รู้สึกดีใจที่การรณรงค์ของคณะก้าวหน้าทำให้ประชาชนตื่นตัวและเข้าใจการเลือก สว.ครั้งนี้มากขึ้น ซึ่งการรณรงค์ต้องการให้คนทุกอุดมการณ์ไปสมัคร สว. โดยการมีส่วนร่วมกับการเลือก สว. มากเท่าไหร่คุณภาพของการเลือก สว.จะมีดีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นขอเชิญชวนทุกคน ไม่ว่าจะสนับสนุนพรรคอะไร จะมีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบไหน หากท่านมีคุณสมบัติ เราเชิญชวนทุกคนให้ไปลงสมัคร สว.ด้วยกัน
“หากถามว่ากลัวหรือไม่จะถูกตั้งข้อครหาว่ารณรงค์ให้มี สว.สีส้ม ก็ขอเรียนว่าวัตถุประสงค์ที่เรารณรงค์เราไม่ได้ต้องการให้ สว.เลือกฝักเลือกฝ่าย และเราไม่ต้องการให้มี กกต.เลือกฝักเลือกฝ่าย เราไม่ต้องการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าข้างนายธนาธร เราไม่ต้องการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่เข้าข้างพรรคก้าวไกล แต่เราต้องการ สว.ที่เป็นกลาง และต้องการ กกต.ที่ตัดสินด้วยการยึดหลักที่ถูกต้อง รวมทั้งต้องการ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ ที่มั่นคง เป็นธรรม คืนความยุติธรรมให้กับสังคม เพราะเรารู้ว่าถ้าองค์กรต่างๆ เหล่านี้สนับสนุนพวกเราก็จะมีปรากฏการณ์ลงถนนกันอีก” นายธนาธรกล่าว
นายธนาธรกล่าวว่า ดังนั้นการจะฟื้นฟูความเป็นปกติ ความเป็นประชาธิปไตย นำประเทศไทยให้กลับมาเหมือนเดิม มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือคืนความเป็นธรรม เราต้องการให้องค์กรต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งสมาชิกองค์กรต่างๆ เหล่านี้จำนวนมาก ต่างถูกแต่งตั้งโดย สว.ชุด 67 ดำรงตำแน่งโดยหยึดหลักความถูกต้อง ความเที่ยงธรรม การเมืองไทยก็จะกลับเข้ามาสู่ความปกติ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นแรก ดังนั้นของย้ำว่าเราไม่ต้องการ กกต.สีส้ม ศาลรัฐธรรมนูญสีส้ม แต่เราต้องการให้ทุกฝักทุกฝ่ายเป็นกลาง ยึดความถูกต้อง
“อยากให้ กกต.มองบทบาทของเราคือการทำให้คนตื่นตัวทางการเมือง ซึ่งจะเป็นผลดี ดังนั้นผมไม่เข้าใจว่าการไปรณรงค์ให้คนสมัคร สว.และเลือก สว. อย่างไร และควรเป็นหน้าที่ของ กกต.และหน้าที่ของรัฐบาลด้วยซ้ำไป”
นายธนาธรยังกล่าวถึงระเบียบ กกต.ว่า แม้จะไม่กล่าวตรงๆ ก็อนุมานได้หมายถึงไอลอว์ และเว็บไซต์ Senate67.com ซึ่งยังนึกไม่ออกว่าเหตุใด กกต.ต้องการปิดเว็บไซต์นี้ หรือต้องการห้ามคนที่มารณรงค์ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ คิดได้อย่างเดียวว่าผู้มีอำนาจต้องการให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นไปแบบเงียบๆ แคบๆ ทำกันไม่กี่คน เหมือนเลือก สว.ครั้งที่แล้ว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดี รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ตัดสินใจจะลงเป็นผู้สมัครเป็น สว. เพื่อเป็นตัวแทนของปวงชน โดยจะสมัครสายด้านความมั่นคง ซึ่งคิดว่ามีประสบการณ์เพียงพอ หากได้รับการคัดเลือกก็จะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.หายห่วง! ชูเลือกตั้งอบจ. รู้สึก ‘ปลอดภัย’
"แสวง" ปลุกเจ้าหน้าที่ กกต.! ยันไม่ได้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหลังจากที่ได้ลงตรวจเยี่ยมการสมัครรับเลือกตั้งที่ปราจีนบุรี ไม่คิดว่าผู้สมัครนายก อบจ.คนไหนจะสร้างความรุนแรง
ประเดิม 10 วันอตร. ตาย 52
ประเดิม 10 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 318 คน ผู้เสียชีวิตแล้ว 52 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ขับรถเร็ว
เปิดของขวัญปีใหม่ แพทองโพยแจกยับ
รัฐบาลคืนความสุขให้ประชาชน หลังเครียดกับเศรษฐกิจและการเมือง ขุดของเก่ารวมของใหม่ เหมารวมเป็นของขวัญปีใหม่แต่ละกระทรวง ลดแลกแจกแถมไม่อั้น
ไม่กลัวรัฐประหาร ‘ภูมิธรรม’ ลั่น! จัดการได้รัฐบาลอยู่ครบเทอมแน่
“ภูมิธรรม” โวยเอ็มโอยู 44 ถูกปลุกปั่นไปไกล แทบจะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ไม่กังวลใจกับคำถามที่ว่าในปี 2568 สถานการณ์การเมืองจะวุ่นวายและโดนรัฐประหาร
บิ๊กต่อแจงบ้านลอนดอน รมว.ดีอีดีดรับพ่อนายกฯ
ป.ป.ช.เปิดขุมทรัพย์ “บิ๊กต่อ” หลังพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้าน
ภท.เฮรอดคดียุบพรรค! อิ๊งค์ขอเริ่มทำงาน2ม.ค.
“ภท.” เฮ รอดยุบพรรค กกต.ยุติสอบ “วันนอร์” ไม่หวั่นถูกเลื่อยขาเก้าอี้