ชาวบ้านระอาข่าวศึกสีกากี!

ซูเปอร์โพลเผยสเปก "ผบ.ตร.คนใหม่" ซื่อสัตย์สุจริต ขณะที่ชาวบ้านเบื่อข่าวนายตำรวจระดับสูง แนะ สร้างผลงานเพื่อ ปชช. "บิ๊กโจ๊ก" ยันไม่ได้สั่งปลดป้ายตัวเอง ภาคประชาชนจี้นายกฯ ปฏิรูปสีกากีให้เป็นรูปธรรม

 เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายนพดล  กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒินโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ปรึกษามูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ตำรวจของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,207 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามประชาชนถึงคุณสมบัติของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปที่ประชาชนต้องการ ส่วนใหญ่หรือ 75.5% ระบุเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต รองลงมา 71.4% สร้างความสามัคคีในองค์กรตำรวจ, 68.2% ไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่พัวพันกับเงินผิดกฎหมาย, 66.8% เข้าถึงประชาชน ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และ 63.2% ระบุเร่งฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน

เมื่อถามถึงความรู้สึกเบื่อหน่ายข่าวนายตำรวจระดับสูงขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 62.2% เบื่อมากถึงมากที่สุด,   16.7% เบื่อค่อนข้างมาก, 9.4% เบื่อค่อนข้างน้อย และ 11.7% เบื่อน้อยถึงไม่เบื่อเลย เมื่อถามต่อถึงความเห็นต่อตำรวจที่ตกเป็นข่าวในทางลบกระทบภาพลักษณ์ขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ 89.9% ตำรวจควรเร่งทำงาน สร้างผลงาน ความปลอดภัยของประชาชน   รองลงมา 74.1% เรื่องของตำรวจควรจบได้แล้ว และ 72.8% ตำรวจที่ตกเป็นข่าวควรชี้แจงว่าตนเองบริสุทธิ์อย่างไร

เมื่อถามถึงผลงานของตำรวจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ที่ประชาชนรู้และพึงพอใจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 64.8% การติดตามจับกุมคนร้าย, 56% ตรวจตราดูแลความปลอดภัยยามค่ำคืน, 54.5% การแก้ไขปัญหายาเสพติด, 53.3% ช่วยเหลือทุกเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน และ 51.8% การปราบปรามเว็บพนัน มิจฉาชีพหลอกลวงออนไลน์ เป็นต้น

นายนพดลกล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนต้องการข้อมูลจำเพาะ  หรือสเปกคุณสมบัติ 5 ประการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปคือ  1.ซื่อสัตย์สุจริต 2.สร้างความสามัคคีภายในองค์กร 3.ไม่มีประวัติด่างพร้อยเกี่ยวข้องกับเงินผิดกฎหมาย 4.เข้าถึงประชาชน ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และ 5.เร่งฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน ที่น่าพิจารณาคือประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายต่อข่าวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในขณะนี้ เพราะประชาชนอาจจะเห็นความชัดเจนในข้อมูลบางอย่างของเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว แต่อาจจะไม่เห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร  นอกจากนี้ ประชาชนต้องการให้ตำรวจเร่งทำงาน สร้างผลงาน ความปลอดภัยของประชาชน เรื่องราวของตำรวจในสื่อควรจบได้แล้ว เพราะประชาชนต้องการให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชนที่มีหน้าที่และอำนาจหลักคือรักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชนมากกว่า

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ เป็นประธานพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเนื่องในวันสงกรานต์ โดยมีผู้สูงอายุชาวภาคใต้กว่า 147 ท่านมาร่วมกิจกรรม  ท่ามกลางมวลชนชาวปักษ์ใต้ที่มาร่วมงานจำนวนมาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวถึงการปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงาน หลังจากมีการเผยแพร่ภาพคลิปวงจรปิดออกมาบางส่วน โดยยืนยันว่าตนได้สั่งให้ลูกน้องขนของส่วนตัวออกจากห้องทำงานภายหลังจากมีคำสั่ง เพราะเป็นคนรักษาวินัย เมื่อมีคำสั่งก็มีการขนของออก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ส่วนตัว ส่วนใหญ่การปลดป้ายชื่อนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนสั่งการ เช่นเดียวกันกับการปลดชื่อตำแหน่งออกจากเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนใครเป็นคนทำนั้นก็ต้องไปรับผิดชอบกันเอาเอง

ส่วนประเด็นที่จะมีการประชุมคณะกรรมการสอบวินัยในวันที่ 29 เม.ย.นี้  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่า ไม่ได้หนักใจ เพราะเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ตนได้ทำหนังสือร้องคัดค้านรายชื่อกรรมการบางคนซึ่งอยู่ในชุดที่จะพิจารณา เนื่องจากมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งอยู่แล้ว จึงไม่สมควรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา

ด้าน พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร  เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า การปฏิรูปตำรวจเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น ปัจจุบันประชาชนที่เดือดร้อนยังเดินไปแจ้งความที่สถานีตำรวจไม่ได้เลย เพราะตำรวจมักจะลงบันทึกประจำวันเท่านั้นโดยไม่รับแจ้งความ จึงไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนร้องทุกข์มา อาชญากรรมจึงเกิดขึ้นเป็นร้อยเท่าจากรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนประชาชนต้องไปพึ่งสื่อมวลชน ไปพึ่งบุคคลที่สามเช่นคุณกัน จอมพลัง ไปออกรายการร้องห่มร้องไห้ ถือเป็นความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรมไทย

ปัจจุบันมีนายพลอยู่มากถึง 530 คน ปัญหาตำรวจจึงไม่ใช่เรื่องขาดงบประมาณ แต่โครงสร้างเทอะทะ บางหน่วยงานแทบไม่มีงานทำ เช่น กองบัญชาการภาค ไม่จำเป็น เป็นอุปสรรคการบริหารราชการในจังหวัด ผู้ว่าฯ ก็สั่งการตำรวจไปแก้ไขปัญหาประชาชนไม่ได้ แม้จะมีการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมายังไม่ยอมแก้ไขปัญหาตำรวจ การวิ่งเต้นยังเกิดขึ้นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีการเขียนยุทธศาสตร์ชาติและรัฐธรรมนูญไว้ก็ตาม จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเศรษฐาเร่งปฏิรูปตำรวจให้เป็นรูปธรรมในรัฐบาลนี้ จัดรูปใหม่  อย่าทำแบบทหาร แต่ทำหน่วยแบบพลเรือน เพื่อรองรับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง