เรืองไกรชงป.ป.ช.คุ้ยดิจิทัลวอลเล็ต

ไม่พลาด “เรืองไกร” มาแล้ว ส่งหนังสือร้อง ป.ป.ช.สอบ ครม.เห็นชอบโครงการเงินหมื่นดิจิทัลฯ ตั้งคำถามสารพัด ทั้งฝ่าฝืนกฎหมาย-เข้าข่ายทุจริตเชิงนโยบาย-ทำตามข้อเสนอแนะหรือไม่ 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย.2567 ว่ามีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ควรตรวจสอบมติ  ครม.ดังกล่าว เนื่องจากมีหลายหน่วยงานเสนอความเห็นหรือข้อสังเกตในลักษณะที่ชี้ให้เห็นว่าโครงการดังกล่าวยังมีปัญหาหลายประการ และอาจไม่เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ร่วมกันออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

นายเรืองไกรกล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากหนังสือที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เคยเสนอต่อ ครม.ไปก่อนหน้านี้ กับข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงบประมาณ, คณะกรรมการกฤษฎีกา, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.),

ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) กรณีจึงมีเหตุที่ควรขอให้ ป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ดังนี้ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติ ครม. และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน รวมถึงจัดให้ติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ และรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวอย่างเหมาะสมต่อสถานการณ์โดยเคร่งครัดหรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแหล่งเงินโดยการดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300   ล้านบาท โดยการมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินโครงการใช่หรือไม่ และเป็นการดำเนินการที่อยู่ในขอบวัตถุประสงค์และในหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของ ธ.ก.ส. ตาม พ.ร.บ.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ.2509 และตามนัยมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ซึ่งกระทรวงการคลังกับ ธ.ก.ส. ต้องจัดทำแผนบริหารจัดการโครงการ ประมาณการรายจ่าย แหล่งเงินที่ใช้ตลอดระยะดำเนินการ ประมาณการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่จะได้รับ และเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติในรายละเอียดก่อนดำเนินโครงการตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยหรือไม่

 “กระทรวงการคลังมีการใช้แหล่งเงินงบประมาณประจำปีเป็นแหล่งเงินสำหรับการดำเนินโครงการ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขทางการคลังและกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐหรือไม่ การดำเนินโครงการในวงเงิน 172,300 ล้านบาท สอดคล้องกับขอบเขตวัตถุประสงค์และกฎหมายการจัดตั้งหน่วยงานที่จะดำเนินการและกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ รายละเอียดโครงการดังกล่าวได้เสนอ ครม.พิจารณาก่อนดำเนินการหรือไม่ การจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อใช้ในการดำเนินการโครงการฯ เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นหรือไม่”

นายเรืองไกรกล่าวอีกว่า ครม.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม  พร้อมทั้งจัดทำแนวทางหรือมาตรการแก้ไขประเด็นปัญหาหรือความเสี่ยงต่างๆ ให้เป็นรูปธรรมด้วย ก่อนที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบในกรอบหลักการของโครงการต่อไปหรือไม่ หากไม่มีการมอบหมายก่อนที่ ครม.จะลงมติ จะถือว่า ครม.เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ จากข้อสังเกตของ สพร. แสดงว่า ครม.ลงมติไปโดยที่หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับการออกแบบและพัฒนาระบบเพื่อรองรับการใช้จ่ายและการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับ Open Loop ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ การลงมติของ ครม. จะเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่

 “ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (อีเอ็มเอส) ไปถึง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า โครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีความพร้อมที่จะทำจริงหรือไม่ โครงการดังกล่าวมีการฝ่าฝืนกฎหมายและเข้าข่ายการทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ โครงการดังกล่าวมีเจตนาแอบแฝงเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่หรือไม่  โครงการดังกล่าวมีการป้องกันการทุจริตตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.หรือไม่ ครม. รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดที่ร่วมกันทำโครงการนี้จะมีความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่” นายเรืองไกรระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง