ดิจิทัลวอลเล็ตเดินบนเส้นด้าย

กรุงเทพฯ ๐ "จุรินทร์" อัดยับ ดิจิทัลวอลเล็ตเหมือนเดินบนเส้นด้าย เพราะคลุมเครือ ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงทางด้านการเงิน การคลังและด้านกฎหมาย เห็นตรงกันว่าหมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย "อนุทิน" ย้ำสนับสนุนนโยบายรัฐบาลแต่ต้องถูกกฎหมาย ดาหน้าดีดปาก "เด็จพี่" ถีบส่ง "พุทธิพงษ์"

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะทันไตรมาส 4 ตามที่รัฐบาลประกาศหรือไม่ว่า สถานการณ์วันนี้เหมือนย้อนกลับไปในจุดที่เหมือนประกาศว่าจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งสุดท้ายก็อาจจะไม่ได้เป็นไปตามนั้น เที่ยวนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ยังคลุมเครือ แม้ว่าจะมีมติ ครม.ออกมาก็ตาม แต่มติ ครม.ดังกล่าวเป็นมติที่เห็นชอบในหลักการ ซึ่งไม่มีอะไรใหม่ เพราะการแถลงนโยบายรัฐบาลก็พูดอยู่แล้ว  ดังนั้น ครม.ก็ต้องเห็นชอบตามนโยบาย  แต่รายละเอียดที่จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตรงนั้นคือหัวใจสำคัญ ซึ่งจนถึงขณะนี้กระทรวงการคลังซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องโดยตรงก็ยังทำไม่เสร็จ ยังจะมีการนัดประชุมในรายละเอียดอีกว่าแหล่งเงิน วิธีการ และรายละเอียดอื่นๆ จะทำอย่างไร เป็นแค่หลักการ ครม.ที่อยู่ด้วยกัน ให้เกียรติกันก็ต้องเห็นชอบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องของรายละเอียดจะต้องติดตาม

“ผมเรียนว่ายังคลุมเครือ เพราะผู้ที่มีความรู้ เชี่ยวชาญตัวจริงทางด้านการเงินการคลังและด้านกฎหมายของประเทศ มีไม่น้อยทีเดียวที่ออกมาให้ความเห็นว่ามีหมิ่นเหม่ในเรื่องของข้อกฎหมาย ซึ่งตรงนี้ถ้ารัฐบาลจะทำให้เกิดความชัดเจนกว่านี้ก็ทำได้ โดยส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาให้วินิจฉัยก็จบไป แต่ผมไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องยื้อเวลาในการที่จะส่งกฤษฎีกาไปอีก  ฉะนั้นจึงเหมือนกับเดินไปบนเส้นดาย"

นายจุรินทร์กล่าวว่า ความชัดเจนเรื่องข้อกฎหมายยังถกเถียงกันอยู่ และคนที่มาเถียงกฎหมายก็ไม่ใช่ว่าคนไม่รู้เรื่อง แต่เป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญทั้งการเงิน การคลัง และกฎหมายที่ออกมาท้วงติง ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องรับฟัง และทำความจริงให้เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะคลุมเครืออยู่อย่างนี้ ประชาชนก็รอความหวัง ด้วยความหวังในลักษณะที่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะจริงหรือไม่จริง เพราะไม่ได้แปลว่าเมื่อ ครม.มีมติแล้วจะเป็นไปตามนั้น

"ที่พูดเพราะต้องการให้รัฐบาลทำ และจะไม่วิเคราะห์ว่าดีหรือเสียอย่างไร  แต่เป็นหน้าที่พรรคการเมืองที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อหาเสียงและได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาแล้ว ต้องรับผิดชอบจากเสียงที่ได้มา ต้องทำ แต่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่คุ้มค่าแค่พรรคการเมือง" นายจุรินทร์กล่าว

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ตอบโต้ว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล ที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดและมากที่สุดของประเทศ เป็นธรรมดาที่จะมีข้อห่วงใยจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟัง กระทรวงการคลังได้สรุปเงื่อนไขตามมติ ครม. รวมถึงการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันหนักแน่นชัดเจนตลอดมา ว่าไตรมาสที่ 4 ได้ใช้ดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน การวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ต้องไม่มุ่งสร้างความสับสนหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อนโยบายของรัฐบาลเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง รัฐบาลได้แถลงย้ำถึงความชัดเจนของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่ามาแน่นอน ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้

"ดิจิทัลวอลเล็ตมาแน่ ตัวนโยบายไม่ได้แขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เมื่อทำสำเร็จ อนาคตทางการเมืองของคนที่ต่อต้านต่างหากที่อาจต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย"  นายอนุสรณ์กล่าว

สนับสนุนแต่ต้องถูกกฎหมาย

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์  สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นคัดค้านโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล  จนทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่พอใจ ว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนรูปแบบวิธีการก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ตามคำแนะนำและข้อเสนอแนะของ 3 หน่วยงาน คือ 1.สำนักงานการคณะกรรมการกฤษฎีกา 2.สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ 3.กระทรวงการคลัง ซึ่งพรรคภูมิใจไทย สนับสนุนแน่นอน  

ส่วนการออกมาวิจารณ์ของนายพุทธิพงษ์ ก็เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย   เพราะตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งปี 66  เขาก็ไม่เคยมาร่วมกิจกรรมใดๆ ของพรรคเลย แม้แต่วันเกิดพรรค เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ก็ไม่มา หรือวันประชุมใหญ่ของพรรคก็ไม่มาเช่นกัน จึงถือว่าเขาแสดงความเห็นในนามส่วนตัวเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับพรรค ตามที่นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกพรรคภูมิใจไทยออกมาพูด

“เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต สมาชิกพรรคภูมิใจไทยที่ร่วมงานและร่วมกิจกรรมของพรรคจะรู้ดีว่านโยบายนี้เราสนับสนุนรัฐบาลแน่นอน ดังนั้นขอให้ฟังผมเพียงคนเดียว อย่าไปฟังคนอื่น พรรคภูมิใจไทยมีสมาชิกตั้งหลายหมื่นคน เราไม่สามารถไปควบคุมความเห็นของสมาชิกพรรคแต่ละคนให้เห็นเหมือนกันได้ ดังนั้นเรื่องสำคัญๆ ต้องขอให้ฟังหัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรค หรือกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น"

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่นายพุทธิพงษ์ยังอยู่ในลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวว่า ลำดับ สส.บัญชีรายชื่อ เขาก็ยังอยู่เช่นเดิม  เพราะเป็นเรื่องก่อนหน้านี้ แต่ก็คงไม่ได้มีการขยับลำดับอะไรขึ้นมา

ถามกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์    ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาจี้ให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอบรมนายพุทธิพงษ์ หลังออกมาอัดดิจิทัลวอลเล็ต ถือว่าไร้มารยาททางการเมือง เพราะต้องร่วมรัฐบาลกันอีก 3 ปี นายอนุทินกล่าวว่า “ขอเสด็จพี่อย่าเป็นห่วงเรื่องนี้เลยเพคะ” ก่อนที่จะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ไล่ส่ง 'พุทธิพงษ์'

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า นายพุทธิพงษ์ได้แสดงความคิดเห็นในนามส่วนตัว ไม่ได้พูดในนามพรรคหรือสมาชิกพรรค   เพราะหลังจากภารกิจเลือกตั้ง สส.เสร็จสิ้น นายพุทธิพงษ์ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ กับพรรคเป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ขอยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุนนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ย้ำมาโดยตลอดว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่

โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ล่าสุดนายอนุทินได้ร่วมแถลงข่าวกับนายกรัฐมนตรีเดินหน้าโครงการนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในหลักการ ดังนั้นขอให้นายพุทธิพงษ์ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน  เพื่อไม่ให้พรรคภูมิใจไทยได้รับผลกระทบ และทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ

“หากคุณพร้อมพงศ์ไม่ออกมาพูด  ผมลืมไปแล้วว่าคุณพุทธิพงษ์เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แต่ขอคุณพร้อมพงศ์อย่าเป็นห่วงการแสดงความคิดเห็นของนายพุทธิพงษ์ เพราะในระดับผู้ใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และพร้อมจับมือกันทำงานจนครบเทอม" นายณัฏฐ์ชนนกล่าว

ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้นายพร้อมพงศ์คิดมากไป ไม่ต้องฟุ้งซ่านและจินตนาการมากไป เพราะผู้ใหญ่ของพรรคได้ทำงานใกล้ชิดกันมาโดยตลอด ซึ่งคู่ต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยคือพรรคก้าวไกล ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย นายพร้อมพงศ์อย่าเข้าใจการเมืองแบบกระพี้ ขอให้เข้าใจแก่นมัน.