นายกฯ เรียกแกนนำพรรคร่วม รบ.หารือ ให้ช่วยตีปี๊บแจกเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" "ภูมิธรรม" เผยพรรคร่วมไฟเขียว ขออย่าโฟกัสแค่เรื่องซูเปอร์มาร์เก็ต เหตุต้องการให้เงินหมุนเวียนในชุมชนได้สะดวก "อนุทิน" พร้อมหนุนขอทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย "รทสช." พร้อมช่วยตีปี๊บให้ ขณะที่ "สหภาพฯ ธ.ก.ส." ลุยถก "จุลพันธ์" กาง 5 ข้อกังวลหลังรัฐบาลจ่อล้วง 1.72 แสนล้านบาท “เศรษฐา” ให้คำมั่นส่งกฤษฎีกาตีความเพื่อความสบายใจทุกฝ่าย
ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 12.00 น. วันที่ 22 เมษายน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหารือประเด็นที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.นี้
โดยมีหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทยอยเดินทางขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมี นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยภายหลังหารือนายภูมิธรรมได้เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการพูดคุยในเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต คุยกันเรื่องรายละเอียดต่างๆ ว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน ยืนยันว่าทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด เราก็มาทำความเข้าใจกัน ในวันที่ 23 เม.ย.หลังจากพูดคุยร่วมกันแล้วจะมีการแถลงว่าทั้งสองเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
"ไม่มีใครค้าน ทุกท่านแสดงความเห็นเต็มที่ ทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ที่ได้ยินมาจากประชาชนและสื่อมวลชน ก็นำมาคุยกัน โดยปลัดกระทรวงการคลัง เลขาฯ กระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็มาช่วยชี้แจง" นายภูมิธรรมกล่าว
เมื่อถามว่า จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการไม่เปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ดูจากลิสต์ของกระทรวงพาณิชย์แล้วร้านค้านิติบุคคลหลังจากหักออกแล้วเหลือกว่า 9 แสนร้านค้า และยังมีร้านของบุคคลธรรมดาและร้านค้าอื่นๆ อีก โดยในบ่ายวันนี้จะประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งทุกอย่างต้องมาลงทะเบียนและดำเนินการ เชื่อว่ายังมีอีกเยอะ เรื่องนี้ร้านค้านิติบุคคล ร้านค้าเอกชนยังมีอีกมาก อย่าไปมองแค่เรื่องซูเปอร์มาร์เก็ต เราเพียงแค่เปิดทางให้มีการใช้เงินภายในอำเภอได้สะดวกเต็มที่ ให้ประชาชนใช้เงินไปหมุนเวียนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า ทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมายก็สามารถทำได้ เพราะดิจิทัลวอลเล็ตถือเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ พรรคร่วมรัฐบาลต้องช่วยกันสนับสนุน เพราะแต่ละพรรคก็มีนโยบายทุกพรรค ดังนั้นการสนับสนุนนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล การขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จก็จะรวดเร็ว
นายชื่นชอบ คงอุดม กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือทำความเข้าใจร่วมกัน เรื่องการทำงานในโครงการเติมเงินให้ประชาชน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเพียงเรื่องเดียว ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเพราะเป็นนโยบายร่วมของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ได้เป็นไปตามที่คณะกรรมการโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้ประชุมกันไป ทุกเรื่องอยู่ในขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นสิ่งที่จะทำได้ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันว่าเป็นนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว
"วันนี้จึงมาพูดคุยทำความเข้าใจกันว่า เราจะช่วยอธิบายกับประชาชนอย่างไรในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และได้ทำความเข้าใจกันเรื่องความถูกต้อง ซึ่งก็มีความเห็นตรงกันว่าสิ่งที่ดำเนินการมีความถูกต้อง และการหารือวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลได้เสนอแนะให้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องการประชาสัมพันธ์โครงการนี้ให้ประชาชนเข้าใจ เนื่องจากยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจถึงวิธีการ และหลักการของการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว" นายชื่นชอบกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้เราจะได้เห็นบทบาทของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้ใช่หรือไม่ นายชื่นชอบกล่าวว่าแน่นอน โดยตรงนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีข้อมูลให้พรรคร่วมรัฐบาลเอาไปนำเสนอให้ประชาชนรับทราบ ในฐานะที่เป็นนโยบายร่วมกันของรัฐบาลชุดนี้
วันเดียวกัน นายศุภชัย วงศ์เวคิน ประธานสหภาพแรงงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยภายหลังเข้าพบเพื่อหารือกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กรณีที่รัฐบาลต้องการใช้สภาพคล่อง ธ.ก.ส. จำนวน 1.72 แสนล้านบาท สำหรับรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ได้มาพูดคุยกับนายจุลพันธ์ เนื่องจากสหภาพแรงงาน ธ.ก.ส.มีความเป็นห่วงใน 5 เรื่องอย่างที่ทุกฝ่ายทราบกันดีอยู่แล้ว คือ 1.ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 2.มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รองรับหรือไม่ 3. สภาพคล่องส่วนเกินของ ธ.ก.ส.มีเพียงพอหรือไม่ 4.แผนการชำระคืนให้ ธ.ก.ส.เป็นอย่างไร และ 5.ผลตอบแทนที่ธนาคารจะได้รับเป็นอย่างไร เพราะเงินในส่วนนี้ธนาคารมีต้นทุนที่ต้องบริหารจัดการอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของความกังวลว่าการดำเนินการในส่วนนี้จะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ก่อนหน้านี้สหภาพแรงงาน ธ.ก.ส.ได้ส่งหนังสือถึงกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ขณะที่นายจุลพันธ์ก็ได้ให้ความมั่นใจว่า ก่อนจะดำเนินการทุกอย่างจะต้องทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ระบุว่าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย รัฐบาลพร้อมที่จะส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความ ในเรื่องของข้อกฎหมาย หากไม่ผ่านทุกอย่างก็จบอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้นายจุลพันธ์ยืนยันในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรา 28 ภายใต้ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า ตามข้อเท็จจริงไม่อยากให้พูดว่ารัฐบาลยืมเงิน ธ.ก.ส. เพราะแท้จริงแล้วเป็นการใช้มาตรา 28 ซึ่งเป็นวิธีการงบประมาณ ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้ ธ.ก.ส.เคยดำเนินการมาก่อน อาทิ โครงการไร่ละพัน เพราะตามหลักรัฐบาลกู้เงิน ธ.ก.ส.ไม่ได้อยู่แล้ว และที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่ได้บอกว่าจะกู้เงิน ธ.ก.ส. เป็นการใช้วิธีการงบประมาณตามมาตรา 28 ส่วนท้ายที่สุดรัฐบาลจะสามารถดำเนินการตามวิธีการงบประมาณดังกล่าวได้หรือไม่ ก็คงต้องรอความชัดเจนจากกฤษฎีกาอีกที
ส่วนเรื่องมติ ครม.ก็ต้องมีรองรับ เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย เพื่อเป็นการยืนยันและปกป้อง ธ.ก.ส.ว่าสามารถดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวของรัฐบาลได้ ไม่ผิด สำหรับประเด็นกังวลเรื่องสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ สภาพคล่องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบัน ธ.ก.ส.มีอยู่ราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งแข็งแกร่งและมีเพียงพอ และอีกส่วนคือสภาพคล่องส่วนเกินของธนาคาร ที่จะต้องมาดูกันอีกที และเป็นเรื่องที่ ธ.ก.ส.เองจะต้องชี้แจง ขณะที่ความกังวลเรื่องแผนการชำระคืนนั้น อยากเห็นภาพที่ชัดเจนว่ารัฐบาลมีแผนการชำระคืน ธ.ก.ส.อย่างไร จะจ่ายคืนภายใน 3 ปี 5ปี 7 ปี หรือ 10 ปี อยากได้ความชัดเจนในส่วนนี้
ในส่วนความเชื่อมั่นของลูกค้า ธ.ก.ส. จากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวจะแห่กันออกมาถอนเงินฝากนั้น นายศุภชัยระบุว่า เท่าที่เช็กสถานการณ์ล่าสุด ภาพรวมขณะนี้ยังไม่มีการแห่ออกมาถอนเงินฝากแต่อย่างใด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กต่อแจงบ้านลอนดอน รมว.ดีอีดีดรับพ่อนายกฯ
ป.ป.ช.เปิดขุมทรัพย์ “บิ๊กต่อ” หลังพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้าน
ภท.เฮรอดคดียุบพรรค! อิ๊งค์ขอเริ่มทำงาน2ม.ค.
“ภท.” เฮ รอดยุบพรรค กกต.ยุติสอบ “วันนอร์” ไม่หวั่นถูกเลื่อยขาเก้าอี้
ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3
“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด
ชวนบี้แก้ปมท้องถิ่นชิงลาออก
“แสวง” ลงพื้นที่ปราจีนบุรี ส่องรับสมัครนายก อบจ.วันสุดท้าย
จี้สอบ6ข้อป่วยทิพย หวั่น‘สมศักดิ์’แทรกแซง/‘แม้ว’ถก‘อันวาร์’เรื่องอาเซียน!
"บิ๊กป้อม" เลี่ยงเผชิญหน้า "ทักษิณ" ยกเลิกร่วมงานอวยพรครบรอบ 75 ปี
เปิดภารกิจ 'กิตติรัตน์' ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ทำหลุดเก้าอี้ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ'
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีการ่วม 3 คณะ มีมติด้วยเสียงข้างมากเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ